Thursday, June 21, 2012

#144 สิ้นบุญกุยแก




หลังจากโจโฉยึดเมืองกิจิ๋วได้ อ้วนซงได้หนีออกจากเมืองไปอาศัยอยู่กับอ้วนฮี ส่วนอ้วนถำนั้นยึดเมืองเพงง้วนก๋วนไว้เป็นที่มั่น

อ้วนถำวันนี้มีทหารมากขึ้นกว่าเดิมมากจึงเริ่มแข้งข้อกับโจโฉ โจโฉรู้ดังนั้นจึงเตรียมจัดทัพไปตีอ้วนถำ อ้วนถำเป็นท่าไม่ดีเจอเขียนหนังสือส่งไปหาเล่าเปียวให้ตีโจโฉ เล่าเปียวจึงปรึกษากับเล่าปี่ว่าจะทำประการใด


เล่าปี่แจ้งให้เล่าเปียวแต่งหนังสือส่งไปให้เล่าถำว่า "ให้ปรองดองกับเหล่าพี่น้องแล้วจะสามารถสู้โจโฉได้" อ้วนถำไม่รู้จะทำยังไงจึงทำศึกกับโจโฉ โจโฉยกทัพตีเมืองเพงง้วนก๋วนแตกและสามารปราบอ้วนถำได้ ยังเหลืออ้วนซงและอ้วนฮีที่ยังอยู่

โจโฉเตรียมทัพทำศึกอีกครั้ง หลายวันผ่านไปโจโฉก็ตีอ้วนซงและอ้วนฮีแตกได้ แต่ยังไม่สามารถจับทั้ง 2 คนได้ โจโฉจึงเรียกขุนนางมาปรึกษาว่าจะทำประการใดต่อ

บรรดาแม่ทัพเสนอว่าให้โจโฉกลับเมืองหลวงเพราะไม่รู้ว่าอ้วนและอ้วนฮีหนีไปอยู่ที่แห่งไหนถ้าติดตามหาก็คงจะเสียเวลาเป็นอันมาก กุยแกที่อยู่ในที่ประชุมมีสีหน้าไม่ดีเพราะมีอาการป่วยมีเสียงไอเป็นระยะๆและอาเจียรเป็นโลหิต โจโฉเห็นดังนั้นจึงสงสัยอาการของกุยแก


กุยแกให้ความเห็นว่ายังไม่ควรกลับเมืองหลวง เนื่องจากว่าเล่าเปียวเล่าปี่คงยังไม่พร้อมที่จะเปิดศึกสงครามตอนนี้ อีกทั้งหากปล่อยภาคเหนือไว้ภายภาคหน้าอาจจะเกิดการแข็งเมืองขึ้นมมาได้ จึงเสนอให้ทำศึกเบ็ดเสร็จเสียดีกว่า

โจโฉเห็นด้วยแล้วเตรียมทัพค้นหาอ้วนซงและอ้วนซี กองทัพของโจโฉเผชิญทั้งพายุทรายและความหนาวเหน็บของอากาศทางภาคเหนือและเส้นทางทุรกานดานทหารป่วยบาดเจ็บล้มตายเป็นอันมาก โจโฉจึงหยุดทัพพักเสียก่อนแล้วเรียกที่ปรึกษามาประชุมว่าจะทำอย่างไรต่อ



การประชุมครั้งนี้กุยแกไม่ได้เข้าประชุมด้วยเนื่องจากปัญหาทางสุขภาพของกุยแกนั้นเริ่มไม่สู้ดีจึงได้แต่นอนที่เกวียน โจโฉรู้ข่าวจึงรีบไปหากุยแก โจโฉเห็นอาการของกุยแกก็ร้องไห้สงสารกุยแกเป็นอันมาก หลังจากนั้นไม่นานกุยแกก็ถือแก่กรรมด้วยโรควรรณโรคตายด้วยวัยเพียง 37 ปี


โจโฉรำพันว่า "กุยแกตายแต่ยังหนุ่ม เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งตน"