Wednesday, April 27, 2016

โหงวเฮ้ง ในสามก๊ก



โหงวเฮ้ง หรือ นรลักษณ์ ศาสตร์นี้มีมานานมากแม้กระทั่งในยุคสามก๊กยังกล่าวถึงศาสตร์นี้ ซึ่งหมายถึงวิชาอันใช้พิจารณาลักษณะของมนุษย์ เพื่อดูนิสัยใจคอ ความสามารถ

เมื่อตอนที่กวนอูยกทัพมาตีเมืองเตียงสา เจ้าเมืองที่ชื่อฮันเหียนได้สั่งให้ฮองตงออกไปรบกับกวนอู การสู้รบยังมิรู้แพ้แลชนะฮองตงก็ต้องโทษประหาร อุยเอี๋ยนจึงลงมือฆ่าหันเหี๋ยนและได้ช่วยฮองตงไว้ได้ หลังจากยึดอำนาจเสร็จก็เปิดประตูเมืองต้อนรับกวนอูให้เข้ามาปรกครองเมืองก็เห็นลักษณะโหงวเฮ้ง

พอกวนอูยึดเมืองได้ก็ส่งหนังสือเรียกเล่าปี่และขงเบ้งเดินทางมายังเมืองเตียงสา ขงเบ้งเข้ามาถึงก็สั่งประหารอุยเอี๋ยนทันที โดยขงเบ้งอ้างเหตุผลว่า "ผู้ใดกินข้าวแดงท่านแลฆ่าท่านผู้มีคุณเสีย ผู้นั้นเป็นคนหากตัญญูไม่ ผู้ใดอาศัยอยู่ในแผ่นดินของท่านแล้วคิดยกเอาแผ่นดินไปให้ผู้อื่นเสีย ผู้นั้นเป็นคนหาความสัตย์ไม่"

นอกจากที่ขงเบ้งจะอ้างเหตุผลนี้แล้ว ขงเบ้งยังใช้วิธีดู โหงวเฮ้ง ของอุยเอี๋ยน ถึงแม้สามก๊กหลายฉบับจะมิได้ระบุหน้าตาของอุยเอี๋ยนไว้ แต่ก็ยังมีภาพวาดอุยเอี๋ยนในฉบับอื่นๆ ซึ่งสามก๊กฉบับคนขายชาติได้พรรณาลักษณะของอุยเอี๋ยนว่า

ระดับหูทั้งสองข้างไม่ตรงกัน ระดับตาทั้งสองข้างไม่ตรงกัน ขอบรูจมูกทั้งสองรูไม่ตรงกัน นอกจากนี้ลักษณะคลองนัยน์ตาแคบ ดวงตาขาวมากกว่าตาดำ ดวงตาดำมีลักษณะกลิ้งกลอก ต้องด้วยคัมภีร์นรลักษณ์แต่โบราณที่ถือว่าเป็นลักษณะของคนเนรคุณ ซึ่งเป็นคนละอย่างกับผู้ที่มีลักษณะเบญจทุรลักษณ์ คือลักษณะชั่วห้าประการ ได้แก่ ตัวเตี้ย ผมหยิก หน้าก้อ คอสั้น และฟันเหยิน คัมภีร์นรลักษณ์แต่โบราณระบุว่าผู้ประกอบด้วยเบญจทุรลักษณ์เป็นคนกาลกิณี ล้างผลาญทำลายนายให้วายวอด ทั้งชื่อเสียงเกียรติคุณ ยศฐาบรรดาศักดิ์และทรัพย์สิ่งศฤงคารทั้งปวง

อีกเหตุผลนึงก็คือ อุยเอี๋ยนเป็นที่มีนิสัยเย่อหยิ่งอวดดี ขงเบ้งจึงว่าแผนข่มอุยอุ๋นจนบีบอุยเอี๋ยนเป็นกบฎในเวลาต่อมา

คนต่อมาเจ้านายใหญ่แห่งเมืองกังตั๋งซุนกวน เมื่อขงเบ้งได้นั่งเรือน้อยล่องมายังเมืองกังตั๋งกับโลซก หวังยุยงให้ซุนกวนรบกับโจโฉ เมื่อขงเบ้งได้พบกับซุนกวนนั้นก็เห็นโหวงเฮ้งของซุนกวน  "ซุนกวนนี้มีลักษณะเข้มขัน จักษุก็แดง หนวดแดง เป็นคนมีบุญ แต่ว่าน้ำใจจะดื้อดึง อันจะเจรจาสุภาพเห็นมิได้ ชอบแต่เจรจายุ แม้จะไต่ถามถึงเนื้อความโจโฉก็ว่าให้โกรธขึ้นจึงจะได้" 

สามก๊กฉบับภาษาจีนซึ่งได้แปลเป็นฉบับสมบูรณ์ระบุว่าซุนกวนนั้น "มีนัยน์ตาดุจเพชร หนวดสีแสด ท่าทางองอาจสง่าผ่าเผยเป็นอย่างยิ่ง" ขงเบ้งพิเคราะห์ดูตามหลักโหงวเฮ้งแล้วเห็นว่า "อันบุคคลผู้นี้มีนรลักษณ์มิใช่ธรรมดาสามัญ จำจะต้องใช้วาจายั่วยุให้โกรธ มิควรไปพูดจาขอร้อง ต้องรอให้เขาถามมาจึงจะใช้คารมยั่วยุดูเชิงก่อน"

มาดูโหงวเฮ้งคนต่อไปบ้าง นั่นก็คืออาจารย์บังทอง บังทองได้สร้างผลงานด้วยการใช้อุบายผูกเรือโจโฉในศึกเซ็กเพ็ก หลังจากจิวยี่ตายบังทองก็ได้เข้ามาสมัครเป็นที่ปรึกษาของซุนกวนด้วยคำแนะนำของโลซก ซุนกวนได้เห็นโหงวเฮ้งบังทองครั้งแรก "เห็นคิ้วใหญ่ จมูกโด่ง หน้าดำ หนวดสั้น รูปนั้นวิปริตนัก" จึงรู้สึกไม่พอใจ ไม่เลื่อมใสศรัทธา อย่าว่าแต่ซุนกวนเห็นครั้งแรกเลย แม้แต่เล่าปี่เห็นก็ยังไม่ถูกใจ

คนสุดท้ายก็คงไม่ใช่ใครนอกจากสุมาอี้ โจโฉได้ข่าวว่าสุมาอี้มีท่าทางหันมองเหมือนหมาจิ้งจอก จึงใคร่ที่จะทดสอบ จึงสั่งให้สุมาอี้เดินไปแล้วหันกลับมา สุมาอี้หันมามองโดยตัวไม่เคลื่อนไหว สุมาอี้นั้นเป็นคนขี้ระแวงแต่ทั้งหมดนี้ก็ถูกเปรียบเทียบคล้ายกับบุคลิคของหมาจิ้งจอก ตัวโจโฉเองก็มีทักษะการดูโหงวเฮ้งเหมือนกัน จึงวิเคราะห์โหงวเฮ้งของสุมาอี้ว่าในภายภาคหน้า สุมาอี้นั้นจะเป็นภัยต่อตน

ศาสตร์การดูโหงวเฮ้งนั้นในเมืองไทยค่อนข้างแพร่หลาย บางบริษัทมีทีงานผู้สัมภาษณ์ที่ทำหน้าที่ดูโหงวเฮ้งโดยเฉพาะ  คงจะกลัวคนอย่างอุยเอี๋ยนหรือสุมาอี้กระมั้งครับ.....

Wednesday, April 20, 2016

เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล


หลังหลิวปังชนะเซี่ยงอวี่ ก็ได้แต่งตั้งตัวเองเป็นฮ่องเต้ราชวงศ์ฮั่น หลายคนอยากจะรู้ความเป็นไปของ สามขุนพลคู่ใจ เซียวเหอ หานซิ่น จางเหลียง ว่าเป็นยังไง อยู่ดีกินดีไหม

ในฉากสุดท้ายของเรื่อง "ฌ้อปาอ๋อง ศึกแผ่นดินไม่สิ้นแค้น" หลังจากที่หลิวปังได้เป็นฮ่องเต้ ก็ทำการฆ่าขุนพลของตัวเองทั้งหมดทั้งสิ้น ซึ่งค่อนข้างหน้าสะเทือนใจเป็นอันมาก เพราะหลิวปังไล่ล่าฆ่าขุนพลเก่าตัวเองเสียหมดสิ้น

แต่ในหนังสือประวัติศาสตร์จีนที่ผมอ่าน ได้กล่าวว่า เซียวเหอเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ปกครองเมืองที่ดีและสามารถครองใจชาวประชา แต่ก็โดนหลิวปังระแวง เซียวเหอใช้วิธีจึงส่งลูกหลานของตน เข้ารับราชการกับหลิวปัง และบอกกับหลิวปังว่าตนจะอุทิศตัวรับใช้หลิวปังตลอดไป และได้ถึงแก่กรรมในสมัยฮั่นฮุยตี้

จางเหลียง นักยุทธสาสตร์คนสำคัญของหลิวปัง หลังจากช่วยหลิวปังได้เป็นใหญ่แล้ว ก็ลาออกจากราชการ ปลีกตัวออกไป บ้างก็ว่าออกไปทำไร่ไถนา บ้างก็ว่าจางเหลียงกลัวจะโดนสั่งเก็บจึงรีบถอนตัวออกไปก่อน จากนั้นมาก็สูญหายไปจากประวัติศาสตร์

หานซิ่นยอดนักรบ ผู้นี้อาภัพยิ่งนัก เคยเป็นทหารของเซี่ยงอวี่แต่ก็ไม่ได้รับความสำคัญจึงหนีไปอยู่กับหลิวปัง หลิวปังก็มอบตำแหน่งเล็กๆให้อีก เซียวเหอจึงแนะนำหลิวปังว่าคนผู้นี้มีฝีมือยิ่งนัก หลังจากนั้นหานซิ่นก็ได้รับตำแหน่งใหญ่ และได้สร้างผลงานเป็นอย่างดี เป็นคนเก่งและมีอำนาจ เป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง หลิวปังและมเหสีก็มีใจระแวง คิดว่าไอ้หมอนี่คงจะเป็นภัยในยามสงบเป็นแน่แท้ สุดท้ายก็ถูกมเหสีจับตัวมาฆ่าทิ้ง จนเกิดเป็นต้นแบบของสุภาษิตที่ว่า "เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล" ก็เป็นได้..... (ทำเสียงเหมือนรายการคนอวดผี)

ความจริงมันก็มีให้เห็นในประวัติศาสตร์แทบทุกยุค ทุกสมัย บ้านเมืองวุ่นวาย สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ บ้านเมืองสงบก็ก่อกบฏกันเอง -*-

Monday, April 18, 2016

โจโฉผู้ที่ถูกโลกทรยศ


ขอออกตัวก่อนนะครับว่าบทความนี้คือบทความที่ดูเหมือนจะอวยโจโฉซึ่งผมนำเนื้อหาจากวรรณกรรมมาปะติดปะต่อ


ในยุคที่โจโฉเริ่มตั้งตัว โจโฉได้ตั้งตัวที่เมืองกุนจิ๋ว เป็นเมืองที่อยู่ตรงกลางรายล้อมด้วยข้าศึก ดูตามแผนที่ข้างล่างนะครับ จะพอเห็นได้ว่า เมืองเกงจิ๋วของเล่าเปียวที่ในวรรณกรรมบอกว่าอยู่หน้าศึก แต่มาเจอเมืองที่โจโฉอยู่บ้าง หน้าศึกกว่าเสียอีก



พอพ่อของโจโฉตายเท่านั้นแหละ โจโฉประกาศสงครามกับโตเกี๋ยม โดยอ้างว่าโตเกี๋ยมนั้นเป็นต้นเหตุให้พ่อของตนตาย

โจโฉยกทัพเข้าตีเมืองชีจิ๋วของโตเกี๋ยมได้ไม่นาน ลิโป้ก็แอบมาตีท้ายครัวโจโฉ (หมายถึงยึดเมืองนะครับ ไม่ใช่แย่งเมีย) ทำให้โจโฉเสียเมืองกุนจิ๋ว โจโฉพอรู้ข่าวก็เลิกทัพกลับไปยึดเมืองตัวเองคืนมาจากลิโป้

ต่อมาอ้วนสุดแต่ตั้งตัวเองเป็นฮ่องเต้ โจโฉยกทัพมาตีอ้วนสุดได้ไม่นาน เตียวสิ้วก็จับมือกับเล่าเปียวยกทัพแอบตีโจโฉ โจโฉจึงต้องเลิกทัพกับอ้วนสุดยกทัพกลับมารักษาเมือง

พอโจโฉยกทัพไปตีเตียวสิ้ว อ้วนเสี้ยวเพื่อนร่วมงานเก่าก็แอบยกทัพมาตีโจโฉ ทำให้โจโฉต้องรีบยกทัพกลับมารักษาเมือง เห็นแล้วเหนื่อยแทน อ้ายอ้วนเสี้ยวนี้มาแอบลอบกัดแบบนี้ก็รีบจัดการ แต่กุยแกบอกว่า ควรจัดการลิโป้ก่อน โจโฉเห็นด้วยจึงรีบยกทัพปราบลิโป้ได้สำเร็จ

พอกลับมาเมืองหลวงก็โดนพวกตังสินวางยาอีก เป็นมิตรกับเล่าปี่อยู่ดีๆ เล่าปี่ก็ตีจากแถมเล่าปี่กับม้าเท้ง ยังเป็นคนที่อยู่ในขบวนการวางยาตนอีก โจโฉจึงตัดสินใจยกทัพไปตีเล่าปี่ให้มันจบๆ แต่ไม่จบเล่าปี่หนีไปอยู่กับอ้วนเสี้ยว

อ้วนเสี้ยวหลังจากปราบกองซุนจ้านได้ก็ยกทัพมาตีโจโฉที่กัวต๋อ โจโฉจึงยกทัพไปสกัด โจโฉมีชัยในศึกกัวต๋อแต่ยังปราบตระกูลอ้วนไม่ราบคาบ เล่าปี่ก็ฉวยโอกาสยกทัพมาตีฮูโต๋ในช่วงที่โจโฉไม่อยู่ พอโจโฉก็รีบบบบบบบบบ ยกทัพกลับมาป้องกันเมืองฮูโต๋อีกครา ในใจคงคิดว่าอะไรกันนักกันหนา อ้ายเล่าปี่ยกทัพมาอีกแล้ว โจโฉจึงตีเล่าปี่แตก หนีไปพึ่งเล่าเปียว



หลังจากโจโฉปราบภาคเหนือราบคาบสิ้นสุดตระกูลอ้วน โจโฉก็ยกทัพลงมาปราบเล่าปี่และเล่าเปียว พอเล่าเปียวตาย โจโฉยึดเกงจิ๋วได้ เล่าปี่หนีไปหาซุนกวน โจโฉส่งหนังสือไปผูกมิตรกับซุนกวน แต่ซุนกวนถูกขงเบ้งยุยง ท้ายที่สุดซุนกวนจึงประกาศสงครามกับโจโฉในศึกเซ็กเพ็ก ในศึกเซ็กเพ็กนี้ โจโฉโดนบังทองหลอกให้ผูกเรือจนต้องถูกจิวยี่ใช้เพลิงเผาเรือจนวอดวาย



หลังจบศึกเซ็กเพ็กโจโฉกลับเมืองหลวง จึงผ่านแผนหลอกม้าเท้งมาฆ่า แล้วทำไมต้องฆ่าม้าเท้งหล่ะ ก็เพราะม้าเท้งได้ลงชื่อขบวนการฆ่าโจโฉ เป็นพวกเดียวกันตังสิน ก๊กสุดท้ายที่โจโฉยกทัพไปปราบก็คือก๊กของเตียวล่อที่ปกครองเมืองฮันต๋ง ที่โจโฉยกทัพไปตีเพื่อชิงความได้เปรียบจากเล่าปี่ แต่ท้ายที่สุดก็โดนเล่าปี่ช่วงชิง

จากโจโฉผู้ที่ทรยศคนทั้งโลก กลายเป็นถูกโลกทรยศ เป็นผู้ที่ถูกหักหลังมากที่สุดในสามก๊ก ดังนั้นโจโฉมีนิสัยขี้ระแวงก็ไม่แปลก

มาสรุปอีกที
โจโฉไปตีโตเกี๋ยมโดนลิโป้แอบยกมาตี
โจโฉไปตีอ้วนสุดโดนเตียวสิ้วและเล่าเปียวยกมาตี
โจโฉไปตีเตียวสิ้วโดนอ้วนเสี้ยวยกมาตี
โจโฉไปตีอ้วนเสี้ยวโดนเล่าปี่ยกทัพมาตี

Tuesday, April 5, 2016

Q Samkok เกมสามก๊กแนวใหม่จากแดนมังกร น่ารักคิกขุ คาวาอี้ เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบแล้ว วันนี้!!



Q Samkok เกมสามก๊กแนวใหม่จากแดนมังกร น่ารักคิกขุ คาวาอี้
เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบแล้ว วันนี้!!


สิ้นสุดการรอคอย!! ได้เวลาที่เหล่าขุนพลเบบี้จะมาลงสนามรบ โดยพกพาความน่ารักบ๊องแบ๊วมาเอาใจขาโจ๋ ในการประลองศึกผ่านตัวละครจากวรรณกรรมชื่อดัง สามก๊ก มากกว่า 60 ขุนพล ที่มาพร้อมสกิลสุดโหด ที่สำคัญโหลดฟรี!!!

Q-Samkok เป็นเกม Turn-Based Strategy แนวใหม่ โดยขุนพลแต่ละคนจะอยู่ในร่างเบบี้ตัวน้อย คาบจุกนมแบ๊วๆ ซึ่งแตกต่างกับเกมอื่นๆ โดยการวางแผนนั้นจะใช้การสลับตัวของขุนพลทั้ง 10 ตัว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมยุทธการแผน 36 ที่นำไปใช้จริงในสนามรบ ฝ่าฟันอุปสรรคนับล้านตามวรรณกรรมสามก๊ก





 

ที่สำคัญ Q samkok ยังได้รับ “รางวัล 10 เกมส์สร้างสรรค์ยอดเยี่ยม" ในงานผู้สร้างนานาชาติประจำปี 2015 ที่จัดขึ้นที่ประเทศจีน  เนื้อหาในเกมเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน รถจะติด ฝนจะตก แดดจะออก ขอเพียงมีโทรศัพท์พร้อมอินเตอร์เนต ก็สนุกได้แบบไม่ขาดตอนเลยล่ะ


พิเศษสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่! พบกับกิจกรรมมากมายที่รอให้เหล่าทารกผู้กล้าทั้งหลายได้สัมผัสความสนุกสนานอลังการ “ไอเทมฟรีเพียบ แจกแบบไม่มีกั๊ก”

กิจกรรมที่ 1 :  ออนไลน์ครบ 7 วัน รับไปเลย! ขุนพลลิโป้ 3 ดาว


กิจกรรมที่ 2 :  ล็อกอินประจำวัน รับขุนพลตัวเทพประจำเดือน เพชร และ ไอเทมเจ๋งๆ อีกมากมาย


กิจกรรมที่ 3 :  ออนไลน์รับของ เพียงแค่ออนไลน์ต่อเนื่องอยู่ในเกม เล่นไปเรื่อยๆ ก็ได้รับของเจ๋งๆ ฟรีไปเลย!!! ยิ่งออนไลน์นานเท่าไหร่ ของรางวัลยิ่งมากขึ้นเป็นเท่าตัว


นอกจากที่กล่าวไปแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ตื่นตา เร้าใจ อีกมากมายในเกม เหมาะสำหรับผู้เล่นที่รักการ Battle ไม่ว่าจะเป็น 10 อันดับค่าพลัง, 10 อันดับเลเวลสูงสุด เป็นต้น พูดกันมาขนาดนี้แล้วอย่ามัวลังเล! รีบไปโหลดกันให้ไวเลย!!


เปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ ปรับเปลี่ยนได้ดั่งใจนึก
พิชิตศึกด้วยแผน ทหารนับแสนมิอาจสู้หมื่น


สามารถติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Facebook:  https://www.facebook.com/qsamkok
Website:  https://qsamkok.i9games.com/
Youtube:  https://youtu.be/nmqTvG4ss5w
กลุ่มพูดคุย:  https://www.facebook.com/groups/QSamkokThai


Saturday, April 2, 2016

โจโฉสอนลูก



โจโฉทำศึกกับเล่าปี่ที่เขาเตงกุนสัน โจโฉพ่ายแพ้กลับมา กองทัพโจเจียง ผู้ซึ่งเป็นบุตรคนที่สองของโจโฉ ได้ยกทัพมาช่วยโจโฉ ทันทีที่โจโฉเห็นโจเจียงก็อุทานขึ้นมาว่า "เจ้าหนวดเหลืองบุตรเรามาถึงแล้ว การซึ่งจะสู้รบกับเล่าปี่เห็นจะไม่เป็นไรนัก"

โจเจียงผู้นี้เป็นคนที่มีฝีมือการรบมาที่สุดในบรรดาบุตรทั้งสี่ของโจโฉ ชอบขี่ม้า ยิงธนู มีฝีมือกล้าแกร่ง โจโฉเห็นเช่นนั้นจึงสอนบุตรคนนี้ไปว่า

โจโฉ : "เจ้าไม่สนใจอ่านหนังสือ เอาแต่ขี่ม้ายิงเกาทัณฑ์ อันฝีมืออาวุธนั้น แม้จะฝึกปรือจนแข็งกล้าสักปานไหน ก็เอาชนะคนได้เพียงสิบคน ยี่สิบคน หรือร้อยคน ไม่อาจบัญชาคนเรือนแสนเรือนล้านได้ ไม่อาจครองใจอาณาประชาราษฎรทั้งปวงได้ หากแม้นคิดจะสร้างชื่อลือชาให้ปรากฏก็จำต้องศึกษาศิลปศาสตร์ การปกครอง และพิชัยสงคราม แต่ถ้าคิดจะเป็นเพียงทหารมีฝีมือก็จงฝึกปรือเกาทัณฑ์หอกทวนต่อไปเถิด"
(ถอดบทความมาจากสามก๊กฉบับแปลใหม่ และ สามก๊กฉบับคนขายชาติ)

โจเจียง : "อันเกิดเป็นชายชาตทหารนั้น ควรเอาตัวอย่างเว่ยชิงกับคว้อชี่ปิง (ยอดขุนพลในสมัยพระเจ้าฮั่นบู๊เต้) สามารถคุมพลนับแสน วิชาต่อสู้สำหรับตัวลูกผู้ชายก็ต้องหมายศึกษาให้แกร่งกล้าเสมอกัน จึงจะนำคนทั้งปวงให้ยำเกรงได้"

นี่ก็เป็นอีกตอนที่มีบรรยากาศพ่อสอนลูกในวรรณกรรมสามก๊ก ซึ่งบรรยากาศแบบนี้ก็มักจะเห็นที่ตัวละครของโจโฉและสุมาอี้ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องการสอนลูก

อย่าลืมว่าลูกคือชีวิตนึงที่ไม่ใช่ชีวิตเรา ลูกก็มีทางของเขา มีความฝันของเขา มีความชอบของเขา อย่าเลี้ยงลูกด้วยปมของตัวเอง ผู้เป็นพ่อเป็นแม่นั้นเป็นเพียงผู้เสนอแนะแนวทาง คอยสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ คอยส่งเสริมในส่งที่เขารัก พ่อแม่หลายคนแนะนำแต่สิ่งดีๆให้ลูก แต่ไม่เคยถามว่าลูกอยากได้ไหม จริงอยู่ที่ว่าพ่อแม่คือครูของลูก แต่ครูที่ดีที่สุดนั้นก็คือ "ตัวลูกเอง"