Sunday, February 10, 2013

#186 ล็อบบี้ขั้วอำนาจ



ซุนกวนก็ได้ออกมาพบกับขงเบ้งอีกครั้ง พร้อมทั้งประกาศสงครามกับโจโฉ จึงถามขงเบ้งในเชิงปรึกษาวิธีการว่าจะทำอย่างไรถึงจะชนะโจโฉได้

ขงเบ้งจึงว่า "กองทัพภาคเหนือนั้น เป็นทหารป่า เดินทางมาแสนไกล เปรียบดั่งลูกเกาทัณฑ์พุ่งมาจนสุดแรง แม้โดนผิวหนังก็มิระคายแต่อย่างใด ทหารโจโฉนั้นถนัดการรบแต่ทางบก ส่วนทหารที่ชำนาญทางเรือนั้นก็เป็นทหารของเมืองเกงจิ๋ว ที่พึ่งพ่ายแพ้แก่โจโฉมา หามีกำลังใจไม่"

ซุนกวนได้ฟังก็ชื่นใจจึงสั่งให้ทุกคนแยกย้ายไปพักผ่อนกัน เตียวเจียนเห็นว่าซุนกวนต้องการทำสงครามกับโจโฉ ซึ่งไม่ตรงกับความคิดของตน จึงแอบเข้าไปคุยกับซุนกวน และพูดโน้มน้าวมิให้ซุนกวนทำสงครามกับโจโฉ ซุนกวนเมื่อได้ยินคำของเตียวเจียวก็เกิดลังเลขึ้นอีกครั้ง แล้วรู้สึกกระวนกระวายยิ่งนักมิรู้จะปรึกษาใครดี


แม่ของซุนกวนและซุนเซ็กเคยกล่าวไว้ก่อนตายว่า "ความในให้ปรึกษาเตียวเจียว ความนอกให้ปรึกษาจิวยี่" ซุนกวนจึ่งสั่งให้ทหารไปตามจิวยี่มาพบ ทางโลซกก็เห็นเหล่าที่ปรึกษาเมืองกังตั๋งพากันมาเป่าหูซุนกวนนายตัวเองมิให้ทำสงครามนั้น โลซกก็ยิ่งร้อนใจ จึงรีบไปพบจิวยี่ โดยเล่าความทั้งหมดให้แก่จิวยี่ฟัง เมื่อจิวยี่ได้ฟังก็นิ่งแล้วบอกกับโลซกว่า "ท่านมิต้องกังวล เดี๋ยวข้าพเจ้าจะหาทางจัดการเรื่องนี้เอง" โลซกเล่าความทุกประการพร้อมทั้งเรื่องขงเบ้ง จิวยี่เมื่อได้ยินชื่อ ขงเบ้ง ก็นิ่งเสีย พร้อมทั้งบอกให้โลซกได้พาขงเบ้งมาพบตน


ในวันนั้นทั้งวันจิวยี่มีคนมาพบจำนวนมาก ทั้งเหล่าที่ปรึกษาและเหล่าทหาร ต่างก็รู้ว่า จิวยี่คือขั้วอำนาจอีกขั้ว หากดึงความคิดจิวยี่มาอยู่ฝ่ายของตนแล้วก็จะสามารถเปลี่ยนใจซุนกวนได้ ในขณะที่จิวยี่กำลัง sweet กับเมียคนสวย คือแม่นางเสียวเกี้ยว อยู่ เตียวเจียวและเหล่าขุนนางก็มาขอพบ พร้อมทั้งแจงวเหตุผลมิให้จิวยี่ทำสงคราม เมื่อจิวยี่ได้ฟังก็ตอบเตียวเจียวว่า "ข้าพเจ้ามีความเห็นเช่นเดียวกับพวกท่าน เดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าพเจ้าจะคุยกับซุนกวนเอง" พวกเตียวเจียวได้ยินเช่นนั้นก็ลากลับไป


จิวยี่จึงมาเล่าความให้แม่นางเสียวเกี้ยวฟังทุกประการ จากนั้นก็ sweet กันต่อ หลังจากนั้นไม่นาน เทียเภา อุยกาย ฮันต๋ง สามขุนพลเฒ่ายุคซุนเกี๋ยนก็มาขอพบ พร้อมทั้งแจงว่าให้จิวยี่ทำสงครามกับโจโฉ หลังจากจิวยี่ได้ฟังก็บอกแก่เหล่าทหารว่า "ข้าพเจ้ามีความเห็นเช่นเดียวกับพวกท่าน เดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าพเจ้าจะคุยกับซุนกวนเอง" เทียเภา อุยกาย ฮันต๋ง ได้ยินเช่นนั้นก็ลากลับไป

วิเคราะห์
จิวยี่นั้นเป็นคนที่จงรักภัคดีต่อตระกูลซุน โดยมีเป้าหมายที่แน่วแน่อยู่แล้วคือ ทำสงครามกับโจโฉ แต่เมื่อโดนเหล่าที่ปรึกษาและทหาร มาเจรจาด้วย จิวยี่จึงตัดบทว่า เห็นด้วยแก่ทุกฝ่าย เพราะจิวยี่ไม่ต้องการ ต่อความยาว สาวความยืด จิวยี่ก็มิได้สนใจกับเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เรื่องที่จิวยี่สนใจนั้นคือคนที่ชื่อว่า จูกัดเหลียง ขงเบ้ง


ต่อมา จูกัดกิ๋น และ ลิห้อม ก็เดินสวนทางกับจิวยี่ต่างก็ทักทายกัน จิวยี่จึงถาม จูกันกิ๋นว่า มีความเห็นประการใดในศึกครั้งนี้ จูกันกิ๋นจึงว่า ตัวข้าพเจ้าเองก็ไม่ขอออกความเห็น เนื่องจากว่า จูกัดเหลียงขงเบ้ง ซึ่งเป็นน้องชายของตนได้ข้ามน้ำมาเป็นทูตและขอให้ซุนกวนนายเราทำสงครามกับโจโฉ ในจริงก็ต้องการทำสงคราม แต่จูกัดกิ๋น จึงขอวางตัวแบบนี้จึงจะดูเหมาะสมกว่า


ต่อมากำเหลง และ เหล่าทีทหารก็มาขอพบจิวยี่อีกครั้ง จิวยี่จึงบอกกำเหลงว่า วันนี้ขอให้พวกท่านกลับไปก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะออกราชการคุยกับซุนกวนเอง


จากนั้นโลซกจึงพาขงเบ้งมาพบกับจิวยี่ดั่งที่ จิวยี่ต้องการ สุดยอด 2 ที่ปรึกษาของจ๊ก๊กและง่อก๊กกำลังจะ เผชิญหน้ากันแล้ว....


Sunday, February 3, 2013

ยุคที่ 7 : โจโฉลงใต้ยึดเมืองเกงจิ๋ว



หลังจากโจโฉปราบอ้วนเสี้ยวเรียบร้อยแล้ว ก็เร่งทหารฝึกฝน รอโอกาสบุกภาคใต้ โดยมีเป้าหมายหลักคือกำจัดเล่าปี่และยึดเมืองเกงจิ๋ว หลังจากได้เมืองเกงจิ๋วแล้วก็จะทำการปราบซุนกวนเมืองกังตั๋งต่อ

เล่าปี่หลังจากพ่ายโจโฉแล้วก็หนีไปพึ่งเล่าเปียว ในช่วงนั้นเองเมืองเกงจิ๋วนั้นเกิดกบฎที่เมืองกังแฮ เล่าเปียวได้แต่ตั้งให้เล่าปี่ทำหน้าที่ไปปราบ โดยเล่าปี่พาขุนพลอย่าง กวนอู เตียวหุย และ จูล่ง จนสามารถปราบกบฎที่เมืองกังแฮได้สำเร็จ เล่าปี่จึงมีความดีความชอบยิ่งนัก ทำให้ชัวมอซึ่งเป็นอีกขั้วอำนาจของเมืองเกงจิ๋วรู้สึกอิจฉาเล่าปี่เป็นอันมาก


ชัวมอ ชัวฮูหยินจึงคิดแผนกำจัดเล่าปี่ นัดเล่าปี่มากินโต๊ะแล้วจากนั้นก็ทำการสังหารเล่าปี่ แต่เล่าปี่ไหวตัวทันจึงควบม้าหนีข้ามแม่น้ำไปยังเทือกเขาโงลังกั๋ง จนได้พบกับปราชญ์ผู้หนึ่งคือ สุมาเต็กโช


สุมาเต็กโชจึงวิเคราะห์ให้เล่าปี่ได้ฟังว่า ตัวเล่าปี่นั้นการใหญ่ยังไม่สำเร็จเพียงเพราะขาดกุนซือ สุมาเต็กโชจึงได้แนะนำปราญช์ผู้พลิ๊กแผ่นดิน 2 คน มีฉายาว่า "ฮกหลง" และ "ฮองซู"  เล่าปี่ได้ keyword มาจึงแสวงหา 2 ผู้นี้ทันที


ต่อมาไม่นานเล่าปี่ได้พบกับกุนซือผู้ฉลาดที่มีนามว่า "ตันฮก" หรือ ชีซี มาเป็นเสนาธิการใหญ่ให้แก่ก๊กเล่าปี่



ต่อมาโจโฉได้สั่งให้โจยินและลิเตียนเป็นแม่ทัพใหญ่ยกทัพลงใต้ปราบเล่าปี่ โดยโจหยินได้ทำศึกโดยใช่ค่ากลพายุหะแต่ ชีซีก็สามารถทำลายค่ายกลของโจหยินลงได้ พูดง่ายชีซีเทพกว่าเยอะ โจหยินได้พ่ายแพ้กลับเมืองฮูโต๋ไป ทำให้โจโฉนั้นโกรธมาก โจโฉได้รู้ว่าเล่าปี่มีกุนซือมือดีมาทำงานให้ด้วย จึงวางแผนจับตัวแม่ของชีซีมาเป็นตัวประกันและหลอกให้ชีซีมาเมืองหลวง

ชีซีเมื่อรู้ข่าวว่ามารดาตัวเองถูกจับตัวจึงรีบลาเล่าปี่ไปยังเมืองหลวง เล่าปี่อาลัยอาวรชีซียิ่งนัก ชีซีได้พบมารดาจึงรู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นอุบายของโจโฉ มารดาของชีซีเห็นลูกตัวเองหลงกลโจโฉจึงรู้สึกอับอาย จากนั้นนางจึงผูกคอตายในที่สุด ชีซีเศร้าโศกเสียใจโจโฉเป็นอันมาที่เป็นตันเหตุให้แม่ตัวเองตาย ชีซีจึงบอกกับตัวเองว่าจะไม่คิดวางแผนช่วยเหลือโจโฉอีก

จากนั้นเล่าปี่จึงออกเดินทางตามหาขงเบ้งที่เขาโงลังกั๋งถึง 3 ครั้งจึงได้พบกับขงเบ้ง ต่อมาขงเบ้งจึงได้มาทำราชการกับเล่าปี่โดยมีตำแหน่งเป็นเสนาธิการใหญ่แก่ก๊กเล่าปี่

โจโฉรวบรวมพลอีกครั้งโดยส่งแม่ทัพใหญ่ผู้เชี่ยวชาญการสงคราม ดีกรีผู้ร่วมก่อตั้งยุคแรกๆกับโจโฉ รอบนี้ยกทัพใหญ่กว่าเดิมหวังจะเหยียบมึงซินเอี๋ยแหลก ขงเบ้งปราชญ์ผู้พลิ๊กแผ่นดินมาถึงก็ฝึกซ้อมทหารรับมือแฮหัวตุ้น


กวนอู เตียวหุย เดิมทีไม่ชอบหน้าขงเบ้ง ขงเบ้งเองก็รู้ว่าไอ้ 2 คนนี้มันไม่เลื่อมใสในตัวเอง เล่าปี่รู้เหตุการณ์ทุกอย่างเกรงว่าจะเสียการใหญ่จึงมอบดาบอาญาสิทธิ์ให้แก้ขงเบ้ง เอาไว้ปราบกวนอูและเตียวหุย

ขงเบ้งได้วางอุบายเผากองทัพของแฮหัวตุ้นที่เนินพกบ๋องจนราบคาบ ทำให้กวนอูและเตียวหุยเลื่อมใสขงเบ้งยิ่งนัก แฮหัวตุ้นสะบักสะบอมกลับเมืองหลวงอับอายขายหน้าที่ของทัพของตนมีเยอะกว่าแต่แพ้กองทัพของเล่าปี่ที่มีน้อยกว่า



เมื่อโจโฉรู้ข่าวว่าแฮตัวตุ้นทหารเอกของตนพ่ายแพ้ก็เกิดความสงสัยอยู่นักว่าเล่าปี่นั้นมีดีอะไร สรุปคือเล่าปี่ได้เทพขงเบ้งมาช่วยเหลือทำให้โจโฉยิ่งโกรธหนัก ยกทัพใหญ่จำนวน 100 หมื่น โดยโจโฉนำทัพด้วยตัวเอง ยกทัพเหยียบเมืองซินเอี๋ยและเมืองเกงจิ๋วให้ราบคาบ



ต่อมาเล่าเปียวสุขภาพก็ไม่สู้ดีนักอยากจะยกเมืองให้เล่าปี่หลายต่อหลายครั้ง เล่าปี่เล่นบทพระเอกใจบุญไม่ต้องการแย่งชิงเมืองของคนแซ่เดียวกัน ทำให้ขงเบ้งกุนซือผู้แจ้งฟ้าจบดินถึงกับต้องกุมขมับเลย - -a  ถึงแม้นขงเบ้งจะฉลาดในการสงครามดั่งเทพบันดลแต่กองทัพของโจโฉก็ไม่ใช่กระจอกนะครับ ยกมาร่วม 100 หมื่น มีเหรอเมืองเล็กๆอย่างซินเอี๋ยที่เล่าปี่อาศัยอยู่จะต้านอยู่ ถ้าดูกราฟแล้วจะรู้ว่าแสนยานุภาพของทัพโจโฉนั้นมีเยอะจริงๆ รวมทุกก๊กเข้าด้วยกันก็ยังมีทหารไม่เท่าโจโฉ


กองทัพโจโฉไหลมายังกะน้ำท่วม ขงเบ้งถึงกับต้องประกาศว่า "เอาไม่อยู่" จึงเสนอให้เล่าปี่รีบถอยไปอยู่เมืองเกงจิ๋วดีกว่า พอไปถึงเล่าเปียวก็ดันสิ้นบุญไปซะละ ชัวมอยกเล่าจ๋องขึ้นครองเมืองกลัวว่าเล่าปี่จะยึดอำนาจ ก็เลยไม่ให้เล่าปี่เข้าเมือง เล่าปี่เดินทางมาไกลเข้าเมืองไม่ได้ก็ถึงกับเซ็งต้องเร่ร่อนไปอาศัยตามเมืองเล็กๆ พอเล่าปี่ไปโจโฉยกทัพมาชัวมอก็ขี้ขึ้นหัวสิครับ โอ้วววจ๊อตทำไมทหารเยอะเช่นนี้ แทนที่จะจับมือกับเล่าปี่ต้านทัพโจโฉ หาทางออกไม่ได้ในยามวิกฤตที่ปรึกษาเอ๊ะหรือว่าที่ปรึกเสียกันแต่ ต่างก็เสนอให้ "ยอมแพ้เถอะ" รักษาตัวรอดเป็นยอดคน เล่าจ๋องเด็กอมมือมิรู้ความใครว่าไงก็ว่างั้นยอมแพ้ดีกว่า โจโฉยกมาถึงเมืองเกงจิ๋วก็ยึดอำนาจมีเหรอโจโฉจะปล่อยให้เล่าจ๋องอยู่ ตัดต้นไม้ต้องถอนรากถอนโคนจากนั้นก็สังหารเล่าจ๋องและชัวฮูหยิน 2 แม่ลูกตายอย่างอนาจ


เหลือแต่ชัวมอ โจโฉยังไงก็ไม่ปล่อยไว้แต่เห็นว่าอ๊ะไอ้หมอนี่เก่งทางเรือ อีกทั้งทหารโจโฉรบเป็นแต่ทางอกจึงเก็บชัวมอไว้ใช้งานแต่งตั้งเป็นแม่ทัพใหญ่บรรชาการทหารเรือ ชัวมอเห็นยศตัวเอง up แบบก้าวกระโดดก็หลงระเริงแต่หารู้ไม่ว่าจะโดนโจโฉตัดคอในภายหลัง ฮ่าๆๆ

พอยึดเมืองเกงจิ๋วสำเร็จก็ไล่ตีเล่าปี่ต่อสิครับ เล่าปี่รู้ว่าโจโฉจะบุกมาก็เสียวตูดจึงปรึกษาขงเบ้งว่าจะทำยังไงดี ขงเบ้งแนะให้เล่าปี่หนีเข้าไปไกล้ดินแดนซุนกวนให้มากที่สุด ลากสงครามไปหาซุนกวน เล่าปี่ก็เห็นด้วยแถมยังเล่นบทพระเอกอีกรอบบอกขงเบ้งว่า "เราจะไม่ทอดทิ้งประชาชน เราจะเอาประชาชนไปด้วย" เอาแล้วไงเข้งเบ้งปวดหัวตื๊บอีกรอก = ='' แค่หนีธรรมดาก็ยังไม่รู้ว่าจะดีได้หรือปล่าว รอบนี้ต้องแบกประชาชนจำนวนมากเดินเท้าทั้กเด็ก ผู้หญิง คนแก่ เหมือนดั่งกับเอาเหล็กก้อนใหญ่ผูกขาตัวเองหนีเสือ เล่าปี่ทำประชานิยมซื้อใจประชาชน เออก็ดีนะแต่งานเข้าขงเบ้ง 555


ขงเบ้งต้องงัดอุบายถอยทัพสกัดเสืออย่างโจโฉให้เล่าปี่ได้เดินลากหินขึ้นภูเขา (เปรียบเปรย) ทั้งกลิ้งหิน ทั้งเผาทัพ ทั้งไขแม่น้ำท่วม ทหารโจโฉตายเป็นเบือ แต่ก็ช่วยได้ไม่นาน ทหารม้ากับคนเดินเท้าวิ่งไล่กันยังกะกระต่ายกับเต่า ในที่สุดก็หนีไม่ทัน เล่าปี่เห็นท่าไม่ดีกูหนีก่อนดีกว่า ประชาชนเอ้ยเอาคาถานี้ไป "อัตตาหิ อัตโนนาโถ"  ลูกเมียหนีไม่ทันเจอไล่ตามตีตามฆ่า จูล่งทหารหล่อของเล่าปี่โชว์แมน ไปตามหาลูกเมียของเล่าปี่แต่ก็สามารถช่วยได้แต่อาเต๊า(ลูกเล่าปี่)

ทหารโจโฉเยอะเหลือเกิน แต่ยอดขุนพลจูล่งแห่งเสียงอีสาน เอ้ยเสียงสานต้องสร้างตำนานหน่อยซะแล้ว ลุยเดี่ยวฝ่าทัพของโจโฉ โจโฉเห็นฝีมือก็มีใจรักคนมีความสามารถอยากสะสมคนเก่งจึงประกาศให้ลูกน้องห้ามฆ่าจูล่งให้จับเป็น เอ้ยทำงั้นได้ยังไงหว่า - -'' จากนั้นทหารโจโฉตายเป็นเบือจูล่งหนีไปได้ ฮ่าๆ โจโฉน่าจะประกาศให้สังหารอาเต๊าแล้วเก็บจูล่งไว้นะ 555


ในที่สุดเล่าปี่ก็หนีไปยังเมืองกังแฮได้สำเร็จ โดยเมืองกังแฮนั้นมีเล่ากี๋ที่ได้ลี้ภัยการเมืองหลบหนีการสังหารจากชัวมอจึงได้ตั้งหลักที่นี่ เมืองกังแฮเป็นชายแดนที่ติดกับเมืองกังตั๋ง ซุนกวนบอกว่างานเข้ากูแล้ว ทำไมไม่หนีไปทางอื่นวะ ขงเบ้งคงขำนิดๆว่าซุนกวนมึงโดนแน่ๆ ไฟกำลังจะลามมาบ้านตัวเองซุนกวนก็กลัวขี้ขึ้นหัวเหมือนกัน แต่ไม่ได้ๆนะต้องรักษามาดไว้ก่อน ด้วยเลือดของลูกเสือเราจะยอมไม่ได้!! เหล่าที่ปรึกษาเห็นกราฟของทัพโจโฉถึงกับโอ้โห ยกทัพมาแบบนี้เอาเมืองกูไปเลยหล่ะกัน ที่ปรึกษาซุนกวนมีเยอะแต่ไร้ประสิทธิภาพ การสงครามไม่ได้เรื่อง ถ้ามีก็มีแต่จิวยี่และโลซก ทั้ง 2 สามารถเป็นเสาหลักผลักดันให้ซุนกวนบอกซุนกวนว่า "อย่ายอมแพ้เลย"


ซุนกวนได้ข่าวลือทำไมทหารโจโฉเยอะอย่างนี้ จึงส่งโลซกไปเป็น spy สืบข่าวทัพโจโฉ เข้าทางขงเบ้งเลย ขงเบ้งจึงเดือนทางไปเมืองกังตั๋งกับโลซกทันที