Wednesday, August 15, 2012

#167 โจโฉจัดทัพบุกแดนใต้




ฝ่ายแฮหัวตุ้นครั้นพาทหารที่รอดตายกลับไปถึงเมืองฮูโต๋ จับตัวเองมัดแล้วนำตัวเองไปรับโทษกับโจโฉ โจโฉรู้ข่าวศึกก็ออกมารับ แฮหัวตุ้นยอมรับผิดแต่ผู้เดียวจึงขอให้โจโฉนั้นได้ลงโทษประหารตนเองเสีย โจโฉเห็นแฮหัวตุ้นทำผิดแล้วยอมรับผิดก็ใจอ่อนให้อภัยอีกทั้งยังเห็นถึงผลงานเมื่อครั้งหนหลังที่คอยช่วยโจโฉมาตั้งแต่สมัยโจโฉเริ่มตั้งตัว


โจโฉจึงแก้มัดแฮหัวตุ้นแล้วจึงว่า "โทษท่านถึงตายก็จริง แต่ท่านเองก็มีความดีความชอบเมื่อครั้งหนหลัง เราจะยกโทษให้ท่านอีกสักครั้ง อันธรรมดาสงครามนั้นก็มีแพ้มีชนะเป็นเรื่องธรรมดา" โจโฉได้แสดงความเป็นสุดยอดผู้นำอีกครั้ง การที่โจโฉพูดเช่นนี้วิเคราะห์ได้ 2 ข้อคือ

1.โจโฉนั้นต้องการซื้อใจแฮหัวตุ้นและเหล่าทหารทุกคน ในการไว้ชีวิตทหารเอก
2.โจโฉได้บอกแฮหัวตุ้นว่า จะไว้ชีวิตอีกสักครั้ง หมายถึง โจโฉนั้นพยายามลด ego บ้างสงครามของลูกน้อง โดยให้คราวหน้าให้รู้จักระวัง อย่าประมาทและดูหมิ่นคู่ต่อสู้

แฮหัวตุ้นเองเป็นยอดทหารที่ทำความผิดและยอมรับผิดไม่ได้โทษคนอื่นแต่อย่างใด นี่ก็เป็นอีกหนึ่งของยอดทหารเอกของโจโฉ

โจโฉได้รางวัลอิกิ๋มและลิเตียนที่คอยตักเตือนแฮหัวตุ้น จากนั้นโจโฉก็หวนคิดถึงคำพูดของชีซี ที่ว่าบัดนี้เล่าปี่ได้กุนซือระดับสุดยอดกุนซือมาไว้เป็นพวก ทำให้เล่าปี่นั้นเหมือนดั่ง "เสือติดปีก"

วันรุ่งขึ้นโจโฉขอรับสั่งพระเจ้าเหี้ยนเต้จัดทัพใหญ่มุ่งลงใต้ปราบเล่าปี่ เล่าเปียวโดยแบ่งกองทัพออกดังนี้

- โจหยินและโจหองคุมทหาร 10 หมื่น เป็นกองทัพหน้า
- เตียวเลี้ยวและเตียวคับคุมทหาร 10 หมื่น เป็นปีกซ้าย
- แฮหัวตุ้นและแฮหัวเอี๋ยนคุมทหาร 10 หมื่น เป็นปีกขวา
- อิกิ๋มและลิเตียนคุมทหาร 10 หมื่น เป็นกองหลัง
- เคาทูคุมทหาร 3000 เป็นกองสอดแนมส่วนหน้า
- โจโฉคุมทหารที่เหลือทั้งหมดเป็นกองทัพหลวง

นับว่าเป็นการจัดทัพที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่โจโฉจัดทัพมา โจโฉเล็งเห็นว่าศึกครั้งนี้ไม่ใช่กระจอกๆที่จะยกทัพน้อยๆไปแล้วชนะ เพราะศึกครั้งนี้โจโฉต้องการกวาดล้าง เล่าปี่ เล่าเปียว ซุนกวน



ขงหยงผู้ที่มีน้ำใจรักในตัวเล่าปี่เป็นทุนเดิมเห็นโจโฉเดินทัพดังนั้นจึงห้ามปรามโจโฉมิให้โจโฉยกทัพลงใต้ โจโฉเห็นเล่าได้เตรียมทัพเรียบร้อยแล้วขงหยงดันมาเบรคให้เสียการณ์ก็โกรธ สั่งให้ทหารจับตัวขงหยงไปประหารชีวิต พร้อมทั้งครอบครัวของขงหยงทั้งหมด




Saturday, August 11, 2012

ยุคที่ 6 : สงครามกัวต๋อโจโฉปราบภาคเหนือ




โจโฉยกทัพรบกับอ้วนเสี้ยวหลายต่อหลายครั้ง อ้วนเสี้ยวส่งทหารเอกผู้กล้าแกร่งอย่างงันเหลียงออกทำศึก กองทัพทหารของโจโฉทั้งทหารเอก ทหารรองไม่สามารถสู้งันเหลียงได้ โจโฉจึงเรียกตัวกวนอูมาช่วย กวนอูควบม้าเซ็กเธาว์สังหารงันเหลียงตาย กองทัพอ้วนเสี้ยวจึงระส่ำระสาย


อ้วนเสี้ยวพอรู้ว่างันเหลียงทหารเอกของตนตายไปก็โกรธจึงสั่งให้บุนทิวออกรบ บุนทิวเองก็เป็นทหารที่มีฝีมือไม่แพ้งันเหลียง แต่ก็มิอาจต้านทานพละกำลังของเทพกวนอูได้ แบบว่าเก่งเว่อร์ อ้วนเสี้ยวรู้ว่ากวนอูสังหารทหารเอกของตนถึง 2 คนก็โกรธเล่าปี่คิดว่าเล่าปี่เป็นใส้ศึก เล่าปี่จึงอ้างว่ากวนอูยังมิรู้ว่าเล่าปี่ยังมีชีวิตอยู่ เล่าปี่จึงขออาสาอ้วนเสี้ยวเขียนจดหมายถึงกวนอู เรียกตัวกวนอูมาหา ทีนี้อ้วนเสี้ยวก็จะได้ตัวกวนอูมาเป็นพวก อ้วนเสี้ยวเห็นว่ากวนอูนั้นมีฝีมือกว่าทหารเอกของตนก็ยินดี แต่ทั้งหมดนี้เป็นแผนของเล่าปี่ เพื่อที่เล่าปี่จะได้พบกวนอูและหนีอ้วนเสี้ยวไปตั้งตัว


กวนอูเมื่อไหร่ข่าวเล่าปี่จึงหาทางร่ำลาโจโฉ แต่โจโฉก็ไม่ยอมพบ โจโฉนั้นมีใจต้องการรักษากวนอูไว้กับตน แต่ก็ทำไม่ได้ โจโฉจึงไปส่งกวนอู ผูกใจกวนอูซ้ำแล้วซ้ำเล่า กวนอูแหกด่านพากครอบครัวเล่าปี่อย่างยากลำบาก ได้ไปพักอาศัยกับหลวงจีนเภาเจ๋ง กวนอูหักด่านของโจโฉสังหารทหารโจโฉเป็นอันมาก โจโฉได้สั่งให้แฮหัวตุ้นนำใบเบิกทาง มาให้แก่กวนอู เพื่อผูกน้ำใจกวนอูอีกครั้ง กวนอูจึงรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณโจโฉเป็นอันมาก


กวนอูได้พบกวนเป๋งจึงรับกวนเป๋งมาเป็นลูกบุญธรรม และกวนอูได้พบจิวฉอง จิวฉองยอมรับใช้กวนอูถึงวันตาย ต่อมา เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ก็ได้พบกันอีกครั้ง เล่าปี่จึงหนีจากอ้วนเสี้ยวไปอยู่กับเล่าเปียว เพราะคิดว่าคนอย่างอ้วนเสี้ยวคงไม่สามารถรับศึกกับโจโฉได้


ทางฝ่ายซุนเซ็กได้แผ่อำนาจอิทธิพลเหนือฝั่งใต้ของแม่น้ำแยงซีอย่างกว้างขวาง จะเป็นรองก็แต่โจโฉ วันหนึ่งซุนเซ็กไปล่าสัตว์ในป่าโดนลอบทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เทียเภารู้ข่าวจึงรีบขวบมาไปช่วย ในหนังสือกล่าวว่า "คนหนึ่งเอาทวนแทงถูกเท้าซ้ายซุนเซ็ก คนหนึ่งเอาเกาทัณฑ์ยิงถูกหน้าผากซุนเซ็ก"


ผ่านไปไม่นานซุนเซ็กก็เริ่มหายดีเหลือแต่แผลของเกาทัณฑ์ที่อาบยาพิษ หมอที่รักษาซุนเซ็กได้บอกแก่ซุนเซ็กว่า มิให้เกิดอารมณ์โทสะแต่อย่างใดมิฉะนั้น พิษจะกำเริบอาจจะทำให้ถึงแก่ความตายได้ ซุนเซ็กได้พบกับนักพรตในลัทธิเต๋าหรือเต้าหยินคนหนึ่งชื่อ  อิเกียด ที่ชาวบ้านต่างก็กราบไหว้ ซุนเซ็กไม่ต้องการให้ชาวบ้านงมงายจังจับตัวอิเกียดมาประหาร ต่อมาซุนเซ็กก็โดนผีอีเกียดหลอกจนป่วยแถมยังมีพิษเกาฑัณอีก ซุนเซ็กจึงถึงแก่ความตาย


หลังจากซุนเซ็กตายไปซุนกวนผู้น้องก็ได้สืบต่ออำนาจซุนเซ็กได้แนะนำให้ซุนกวนถ้ามีการในให้ปรึกษาเตียวเจียว หากมีการศึกสงครามให้ปรึกษาจิวยี่ ซุนกวนหลังจากได้รับอำนาจมาก็เร่งหาบุคลากรมาร่วมทัพ ซุนกวนได้โลซกและได้จูกัดกิ๋น มาเป็นที่ปรึกษา



ก่อนที่จะเริ่มศึกกัวต่อมาวิเคราะห์กองทัพของโจโฉและกองทัพของอ้วนเสี้ยวกัน ในยุคนี้ถึงแม้จะมีหลายก๊ก ไม่ว่าจะเป็นก๊กเล่าปี่ ก๊กเล่าเปียว ก๊กเล่าเจี้ยง ก๊กม้าเท้ง ก๊กซุนเซ็ก ก๊กเตียวสิ้ว ก๊กเตียวล่อ แต่ก็มีอยู่แค่ 2 ก๊กมียิ่งใหญ่ที่สุดในตอนนี้นั่นก็คือก๊กของโจโฉและก๊กของอ้วนเสี้ยว สงครามศึกกัวต๋อถือว่าเป็นมวยถูกคู่จริงๆ เป็นมวยรุ่นเฮวี่เวสเลยก็ว่าได้ มีความสูสีในหลายๆเรื่อง แต่ถ้าถามความได้เปรียบอ้วนเสี้ยวนั้นได้เปรียบมากกว่า



เสบียง
เสบียงของอ้วนเสี้ยวนั้นมีมากกว่าโจโฉเรียกว่ากินขาดเลย โจโฉยิ่งทำศึกยืดยื้อยิ่งเสียเปรียบ

ทหาร
เรื่องทหารก็เป็นของอ้วนเสี้ยวอีกนั่นแหละมีมากกว่าโจโฉเป็นเท่าตัว โจโฉนั้นมีศึกรอบด้านเวลายกทัพไปสู้กับอ้วนเสี้ยวไม่สามารถยกทหารทั้งหมดไปได้ โจโฉยกไปเพียง 7 หมื่น แต่อ้วนเสี้ยวนั้นยกมาถึง 70 หมื่น ต่างกันเป็น 10 เท่าเลย

ที่ปรึกษา
ทางด้านทีปรึกษาของอ้วนเสี้ยวและโจโฉนั้นก็ไม่ใช่ขี้ๆเลย อ้วนเสี้ยวมีที่ปรึกษาเก่งๆหลายต่อหลายคน เสียอย่างเดียวทุกคนต่างก็แก่งแย่งชิงดียิงเด่นกัน ต่างกับที่ปรึกษาของโจโฉที่ค่อนข้างมีวินัย

แม่ทัพ
แม่ทัพของโจโฉนั้นมีมากมาย เก่งกาจ แต่ถ้าเทียบเรื่องฝีมือแล้วแม่ทัพของอ้วนเสี้ยวนั้นถือว่าสุดยอดกว่าแบบเป็นตำนานเลยก็ว่าได้ นั่นคืองันเหลียง & บุนทิว บอกได้เลยว่าแม่ทัพของโจโฉนั้นสู้ตัวต่อตัวนั้นยากลำบาก แต่โจโฉโชคดีที่มีกวนอูช่วยรบ กวนอูจึงสังหารทหารเอก 2 คนนั้นตายทำให้ด้านกำลังทหารของอ้วนเสี้ยวนั้นอ่อนแอลง

ความเป็นผู้นำ
ทุกท่านน่าจะเคยอ่านถึงบทวิเคราะห์ความเป็นผู้นำระหว่างโจโฉและอ้วนเสี้ยว ที่กุยแกได้วิเคราะห์ ติดตามอ่านได้ที่ บทวิเคราะห์


โจโฉและอ้วนเสี้ยวยกทัพมาเผชิญหน้ากัน อ้วนเสี้ยวนั้นมีสิมโพยเป็นที่ปรึกษาการสงคราม โจโฉทำศึกกับอ้วนเสี้ยวได้ไม่นานก็เริ่มขาดเสบียง อยู่ได้ไม่นาน เขาฮิวที่ปรึกษาอ้วนเสี้ยวอีกคนเสนอให้อ้วนเสี้ยวทำลายกองเสบียงโจโฉ แต่อ้วนเสี้ยวนั้นไม่ฟังความ เขาฮิวน้อยใจที่อ้วนเสี้ยวเชื่อสิมโพยมากกว่า เขาฮิวจึงย้ายข้างมาอยู่กับโจโฉ ซึ่งเดิมทีเขาฮิวนั้นเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กับโจโฉมาก่อน


เขาฮิวจึงเสนอให้โจโฉโจมทีคลังเสบียงของอ้วนเสี้ยวโดยบอกจุดพิกัดทุกตำแหน่งให้แก่โจโฉ โจโฉยินดีจึงทำตามเขาฮิว โจโฉจึงสามารถทำลายล้างกองเสบียงของอ้วนเสี้ยวจนย่อยยับ เมื่ออาหารหมดอ้วนเสี้ยวก็อยู่ไม่ได้นานกองทัพเริ่มระสำระสาย โจโฉจึงเข้าตีทัพของอ้วนเสี้ยวแตกและได้ทหารเอกอย่างเตียวคับมาอยู่เป็นสังกัดของโจโฉ อ้วนเสี้ยวเสียท่ากลัวเสียหน้าที่แต่ก่อนเหล่าที่ปรึกษาต่างก็ได้ตักเตือน อ้วนเสี้ยวจึงสั่งประหารเหล่าที่ปรึกษาหลายต่อหลายคน


ที่ปรึกษาของอ้วนเสี้ยวก็เก่งๆกันทั้งนั้น ถ้าที่ปรึกษาของอ้วนเสี้ยวนั้นร่วมมือกันดีๆกองทัพโจโฉก็คงสู้ไม่ได้ อ้วนเสี้ยวจึงยกทัพกลับรักษาตัวอยู่ที่เมืองกิจิ๋ว ทางฝ่ายเล่าปี่ก็ถือโอกาสยกทัพเข้าตีเมืองหลวง


กุยแกได้วางแผนให้โจโฉทำลายทัพของเล่าปี่อย่างย่อยยับอีกครั้ง เล่าปี่แตกทัพหนีไปอยู่กับเล่าเปียว พอเสร็จศึกเล่าปี่ โจโฉจึงเตรียมทัพยกทัพปราบอ้วนเสี้ยวจนอ้วนเสี้ยวถึงแก่ความตาย หลังจากอ้วนเสี้ยวตายแล้วลูกของอ้วนเสี้ยวทั้ง 3 คน (อ้วนถำ อ้วนฮี อ้วนซง) ต่างก็แก่งแย่งชิงดีกัน ไม่มีความปรองดองกัน ทำศึกห้ำหั่นกัน เมื่อโจโฉเห็นกองทัพลูกของอ้วนเสี้ยวร่อยหลอลง โจโฉจึงยกทัพปราบอ้วนถำได้สำเร็จ


โจโฉยกทัพยึดเมืองกิจิ๋วได้สำเร็จส่วนหนึ่งเป็นความดีความชอบของเขาฮิว เขาฮิวเมื่อพาโจโฉชนะศึกก็ลืมตนยกตนเทียบเท่ากับโจโฉ เคาทูไม่พอใจเขาฮิวจึงสังหารเขาฮิวถึงแก่ความตาย กุยแกป่วยหนักได้เขียนแผนการครั้งสุดท้ายให้แก่โจโฉ โจโฉรำพันว่า "กุยแกตายแต่ยังหนุ่ม เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งตน"  อ้วนซงและอ้วนฮีได้หนีไปอาศัยอยู่กับลูกของกองซุนจ้าน  เมื่อเวลา 90 วันผ่านไปกองซุนของก็ได้ตัดหัวของอ้วงซงและอ้วนฮีตามแผนของกุยแก


โจโฉชนะศึกภาคเหนือทำให้กองทัพโจโฉเติบโตขึ้นเป็นอันมาก เป้าหมายต่อไปของโจโฉก็คือยกทัพลงใต้ปราบหัวเมืองต่างๆ ซึ่งก็มีก๊กของเล่าเปียว ก๊กของเล่าปี่ และ ก๊กของซุนกวน นั่นเอง!

Thursday, August 9, 2012

ยุคที่ 5 : แก่งแย่ง ชิงดี ทำลายล้าง



หลังจากโจโฉและเล่าปี่ได้ทำศึกกับลิโป้มายาวนาน เมื่อได้ชัยชนะแล้วโจโฉจึงพาเล่าปี่เข้าเมืองหลวงกราบทูลความดีความชอบให้แก่เล่าปี่ นับว่าเป็นการแจ้งเกิดของเล่าปี่อย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อครั้นทำศึกกับโจรโพกผ้าเหลืองเล่าปี่ก็ได้สร้างผลงานไว้เยอะแต่โดนพวกเหล่าขุนนางและขันทีต่างๆ discredit ไว้หมดเสียสิ้น แต่ครั้งนี้โจโฉได้กราบทูลให้



พระเจ้าเหี้ยนเต้ไม่รู้จักเล่าปี่มาก่อนจึงถามเชื้อสายสรุปได้ว่าเล่าปี่เป็นเชื้อพระวงศ์ พระเจ้าฮั่นเกงเต้ ลำดับศักดิ์แล้วมีฐานะเป็นพระเจ้าอา ของพระเจ้าเหี้ยนเต้ เล่าปี่จึงได้เป็นพระเจ้าอาตั้งแต่นั้นมา เหล่าปี่ปรึกษาโจโฉต่างก็ให้ความเห็นแก่โจโฉว่าควรที่จะรีบกำจัดเล่าปี่เสียเกรงว่าเล่าปี่ในภายภาคหน้านั้นจะมีอำนาจในเมืองหลวง โจโฉจึงว่าอำนาจสิทธิขาดทั้งหมดอยู่ที่ตน ดังนั้นเล่าปี่จึงยังไม่ใช่ศรัตรูในตอนนี้




ต่อมาโจโฉจึงวางแผนดูพลังอำนาจของตนจึงรับสั่งให้พระเจ้าเหี้ยนเต้ประพาสป่าล่าสัตว์ โจโฉได้แสดงท่าทีจาบจ้วงพระเจ้าเหี้ยนแต้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าต่อต้านและท้าทายอำนาจของโจโฉ พระเจ้าเหี้ยนเต้กลับมารู้ศึกกังวลกลัวว่าโจโฉจะล้มอำนาจตนจึงรับสั่งให้ตังสินขนนางผู้ภรรคดีมาเข้าเฝ้าและวางแผนช่วยตน พระเจ้าเหี้ยนเต้จึงเขียนราชโองการเลือดรับสั่งให้เหล่าขุนนางวางแผนล้มอำนาจโจโฉให้ได้ เหล่าขุนนางรวมทั้งตังสิน เล่าปี่ ม้าเท้งต่างก็ลงนามร่วมมือกันล้มล้างอำนาจของโจโฉ


โจโฉได้สั่งให้ลูกน้องคอยจับตาดูพฤติกรรมของเล่าปี่ เล่าปี่นั้นเกรงว่าโจโฉนั้นจะล่วงรู้ถึงสติปัญญาและอุดมการณ์กอบกู้ราชวงศ์ฮั่นของตน เล่าปี่จึงแสร้งทำเป็นปลูกผักทุกวันๆ วันหนึ่งโจโฉจึงเชิญเล่าปี่มากินโต๊ะ เพื่อหยังเชิงสติปัญญาของเล่าปี่ แต่เล่าปี่เองก็เก็บเอาไว้อย่างมิชิด พูดจากับโจโฉอย่างระมัดระวัง หลังจากหลุดพ้นจากโจโฉได้แล้ว เล่าปี่จึงขออาสาโจโฉไปปราบอ้วนสุด โจโฉจึงอนุญาติให้เล่าปี่ไป เล่าปี่ใช้แผนหนีออกจากเมืองหลวงเพราะเกรงว่าจะเป็นภัย โจโฉรู้ว่าเล่าปี่หนีตนออกไปตั้งอำนาจก็โกรธแค้นเล่าปี่เป็นอันมาก





เล่าปี่เมื่อหนีโจโฉมาได้ก็เตรียมทัพรบกับอ้วนสุด อ้วนสุดสู้ไม่ได้แตกทัพหนีจนเส้นเลือดในสมองแตกตาย ต่อมาไม่นานอ้วนเสี้ยวก็เตรียมทัพใหญ่เข้าตีเมืองหลวง ศึกระหว่างอ้วนเสี้ยวและโจโฉจึงเริ่มขึ้น อ้วนเสี้ยวสั่งให้ตันหลิมเขียนพรรณนาความชั่วช้าที่เป็นเผด็จการทรราชย์ของโจโฉเพื่อสร้างความชอบธรรมในการเข้าตีเมืองหลวง ในขณะที่โจโฉนั้นป่วยเป็นโรคปวดหัวเมื่อทหารได้อ่านจดหมายที่ตันหลิมเขียนด่า ทำให้โจโฉโกรธมากถึงมากที่สุดเลือดไหลเวียนได้ดีทำให้โจโฉหายป่วย

ก่อนศึกกัวต๋อจะเริ่มโจโฉต้องระวังหลายด้าน ต้องเรียกว่าระวังศึก 4 ด้านเลยก็ว่าได้ ทิศเหนือโจโฉต้องสู้กับอ้วนเสี้ยว และต้องระวังม้าเท้งจากทิศตะวันตก ระวังเล่าปี่จากทิศตะวันออก ระวังเตียวสิ้วและเล่าเปียวทิศใต้



โจโฉต้องลงใต้ปราบเตียวสิ้วให้สิ้นสร้างก่อนที่จะขึ้นเหนือ โจโฉจงส่งเล่าหัวไปเกลี้ยกล่อมเตียวสิ้ว กาเซี่ยงที่ปรึกษาของเตียวสิ้วเห็นว่าควรยอมแพ้ เตียวสิ้วจึงยอมแพ้และเป็นพวกของโจโฉตั้งแต่นั้นมา เล่าเปียวเมื่อรู้ว่าเตียวสิ้วยอมแพ้เล่าเปียวก็เหมือนแพ้ด้วยไม่กล้าที่จะบุกตีเมืองหลวงอีก


เล่าขุนทางที่ต้องการล้างอำนาจโจโฉได้ปรุงยาพิษให้โจโฉดื่ม แต่โจโฉไหวตัวทันจึงรอดตาย โจโฉจึงต้องทำการล้างบางเหล่าขุนนางที่สมรู้ร่วมคิดทุกคน สังหารพวกตังสินจนหมดสิ้นกว่า 700 คน รวมทั้งพระสนมเอกของพระเจ้าเหี้ยนเต้ เพื่อเป็นการขู่ให้พระเจ้าเหี้ยนเต้ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก โจโฉสังหารโหดล้างบางแต่ยังเหลือผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 2 คนก็คือ ม้าเท้งและเล่าปี่


โจโฉเตรียมทัพทำศึกกับเล่าปี่ เล่าปี่มีกำลังน้อยกว่าสู้โจโฉไม่ได้เล่าปี่จึงแตกทัพกระเจิง 3 พี่น้องเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย หายไปคนละทิศละทางเล่าปี่จึงไปอาศัยกับอ้วนเสี้ยว เตียวหุยหนีเข้าไปเพื่อลี้ภัย กวนอูรับหน้าที่ดูแลครอบครัวเล่าปี่ ถูกล้อมโจโฉจึงสั่งให้เตียวเลี้ยวไปเกลี้ยกล่อมกวนอู กวนอูรับปากว่าจะยอมแพ้หากโจโฉรับปากสัญญา 3 ประการคือ

กวนอูจึงบอกว่าจะทำตามหากโจโฉ 3 ข้อที่ต้องการ กวนอูก็จะยอม แล้วกวนอูจึงแจง 3 ข้อว่า

1 จะต้องยอมรับว่าเป็นการอยู่รับราชการในพระเจ้าเหี้ยนเต้ ไม่ใช่รับใช้โจโฉ
2 ห้ามมิให้ผู้ใดเข้ามาใกล้พี่สะใภ้ทั้งสอง
3 วันเวลาใดถ้าหากเรารู้ว่าเล่าปี่พี่เราอยู่แห่งหนใด ถึงมาตรแม้นว่าเรายังมิได้ลาโจโฉ เราก็จะไปหาเล่าปี่ในทันที

โจโฉใคร่อยากได้ตัวกวนอูจึงรับปากรับกวนอูมาไว้ในกองทัพ โจโฉซื้อใจกวนอูต่างๆนาๆ มอบสิ่งของเงินทางให้กวนอูก็ไม่ต้องการ โจโฉจึงให้ม้าเซ็กเธาว์แก่กวนอู กวนอูน้อมรับ เอ๊ะแปลกจัง 3 พี่น้องสวนท้อต่างคนต่างไม่รู้ข่าวกัน โจโฉเมื่อปราบเล่าปี่ได้แล้วก็เตรียมทัพขึ้นเหนือสู้กับอ้วนเสี้ยว


Wednesday, August 1, 2012

ยุคที่ 4 : โจโฉยึดดินแดนภาคกลาง




หลังจากโจโฉได้อำนาจรัฐไว้ในมือแล้ว โจโฉจึงตั้งเป้าหมายแรกคือกำจัดศัตรูหมายเลข 1 นั่นก็คือลิโป้ เนื่องจากว่าลิโป้เคยบุกยึดตีเมืองตันลิวซึ่งเป็นเมืองของโจโฉในสมัยโจโฉเริ่มตั้งตัวดังนั้นศัตรูของโจโฉตอนนี้ก็มีแค่ลิโป้เพียงคนเดียว แต่บัดนี้ลิโป้ได้หนีมาอาศัยอยู่กับเล่าปี่ เตียวหุยไม่พอใจที่ลิโป้มาอยู่ด้วยโกรธแค้นที่ลิโป้ได้เคยสังหารพ่อบุญธรรมของตัวเองไปถึง 2 คน เตียงหุยเลยคิดว่าลิโป้นั้นเป็นคนเนรคุณคน แต่เล่าปี่ก็ได้ห้ามปราบเตียวหุยมิให้ไปทำร้ายแก่ลิโป้ เล่าปี่จึงให้ลิโป้ไปครองเมืองเสียวพ่ายซึ่งเป็นเมืองในสังกัดของเมืองชีจิ๋ว



ต่อมาโจโฉจึงยืมมือเล่าปี่สังหารลิโป้ด้วยการเขียนจดหมายให้เล่าปี่ไปกำจัดลิโป้ แต่เล่าปี่ไม่ทำตามเนื่องจากว่าไม่ต้องการเป็นศักรูกับลิโป้ เมื่อโจโฉรู้ว่าเล่าปี่ไม่กำจัดลิโป้ตามจดหมายของตนก็โกรธ ซุนฮกที่ปรึกษาคนสำคัญเสนอว่าให้ส่งหนังสือไปยุเล่าปี่และอ้วนสุดรบกัน เมื่อหนังสือไปถึงอ้วนสุด อ้วนสุดต้องการขยายดินแดนอยู่แล้วก็จึงยกทัพรบกับเล่าปี่ เล่าปี่เองไม่อยากที่จะขัดใจโจโฉ(ทั้งที่เคยขัดใจโจโฉที่ไม่ยอมยกไปตีลิโป้) จึงยกทัพออกไปรบกับอ้วนสุด เล่าปี่และอ้วนสุดจึงเป็นศัตรูกันตั้งแต่นั้นมา


เล่าปี่และกวนอูยกทัพไปรบกับอ้วนสุดโดยให้เตียวหุยรักษาเมือง เตียวหุยรักษาเมืองแต่ก็ไม่ได้อยู่ในวินัยจึงดื่มสุราโบยทหารและพ่อตาของลิโป้ พ่อตาของลิโป้โดนโบยจึงไปฟ้องลิโป้ ลิโป้โกรธจึงยกทัพจากเมืองเสียวพ่ายไปยึดเมืองชีจิ๋วทำให้เล่าปี่เสียเมือง เตียวหุยเมามายไม่มีทางสู้จึงหนีออกไปหาเล่าปี่


เล่าปี่รู้ข่าวว่าเสียงเมืองจึงถอยทัพเลิกศึกกับอ้วนสุด เพื่อไปขอโทษแก่ลิโป้และขอลิโป้ว่าตนจะไปรักษาเมืองเสียวพ่ายให้ ลิโป้จึงให้เล่าปี่ไปครองเมืองเสียวพ่าย  อ้วนสุดรู้ข่าวก็เตรียมไพร่พลเพื่อที่จะยกไปตีเมืองเสียวพ่ายกำจัดเล่าปี่ โดยอ้วนสุดส่งหนังสือไปให้ลิโป้ไปตีเล่าปี่อีกทาง ลิโป้เป็หนี้บุญคุญเล่าปี่อยู่อีกทั้งยังไม่ต้องการแตกหักกับเล่าปี่และอ้วนสุด ลิโป้จึงเล่นบทนักปรองดอง ยิงเกาฑัณเสี่ยงทายหากยิงลอดผ่านรูได้จึงขอให้อ้วนสุดและเล่าปี่ทั้งสองจงปรองดองแก่กัน ลิโป้ก็ยิงได้สำเร็จจึงทำให้เล่าปี่และอ้วนสุดสงบศึกกันได้พักหนึ่ง

ลิโปครองเมืองชีจิ๋วแต่เหล่าขุนนางก็ไม่ได้ชอบลิโป้เลย ตันเต๋งและตันกุ๋ย 2 พ่อลูกชอบคอกับเล่าปี่มากกว่าจึงเป็นไส้ศึกในเมือง ทางฝ่ายเตียวหุยโกรธแค้นลิโป้มากประมาณว่าไม่กินเส้นกัน เตียวหุยจึงไปขโมยม้าลิโป้ ทำให้ลิโป้โกรธยกทัพไปตีเมืองเสียงพ่าย เล่าปี่ต้านไว้ไม่อยู่จึงหนีไปอยู่กับโจโฉ


โจโฉเห็นเล่าปี่หนีร้อนมาพึ่งเย็นจึงต้อนรับเล่าปี่เป็นอย่างดี แต่ซุนฮกที่ปรึกษาของโจโฉให้ความเห็นว่าควรที่กำจัดเล่าปี่เนื่องจากว่าเล่าปี่นั้นมีสติปัญญาเป็นอันมาก อาจจะเป็นศรัตรูแก่เราในภายภาคหน้า แต่โจโฉก็ยังมิได้ทำตามจึงรอหยังเชิงเล่าปี่เสียก่อน โจโฉเตรียมทัพเพื่อที่จะไปปราบลิโป้ แต่แล้วเตียวเจที่เคยเป็นทหารของตั๋งโต๊ะ ก็ยกทัพมาตีเมืองหลวง โจโฉสู้รบกับเตียวเจ สามารถสังหารเตียวเจได้ แต่แล้วเตียวสิ้วผู้เป็นหลานของโจโฉรู้ข่าวก็โกรธ เตียวสิ้วจึงร่วมมือกับเล่าเปียวรบกับโจโฉ


ทางฝ่ายเตียวสิ้วนั้นมียอดกุนซือสมองใสอย่างกาเซี่ยงช่วยเหลือการรบ ทำให้พอที่จะสู้รบปรบมือกับโจโฉได้ โจโฉยกทัพมาตั้งค่ายพบกับแม่นางเจ๋าซือผู้เป็นภรรยาเตียวเจ โจโฉจึงหลับนอนกับแม่นางเจ๋าซือ จนโจโฉมิได้ตรวจตรากองทหารและไม่คิดจะกลับเมืองฮูโต๋ เมื่อเตียวสิ้งรู้ข่าวก็โกรธปรึกษากับกาเซี่ยงยกทัพมาตีโจโฉ เผาทัพโจโฉไหม้วอดวาย การศึกครั้งนี้ทำให้โจโฉเสียทหารเอกอย่างเตียนอุยไปพร้อมทั้งโจงั่งลูกชายและโจอันบิ๋นตายลงในสงครามนั้น ศึกครั้งนี้โจโฉถึงกับพูดว่า "แม้ศึกครั้งนี้จะเสียบุตรและหลานไป แต่มิได้เศร้าโศกเสียใจเท่ากับการเสียเตียนอุย"  โจโฉจึงถอยทัพกลับไปรักษาตัวที่เมืองหลวง


ทางด้านอ้วนสุดหลังจากได้ตราหยกแล้วก็ตั้งตัวเองเป็นฮ่องเต้แบบไม่เจียมบอดี้ ทำให้โจโฉ เล่าปี่ ซุนเซ็ก ลิโป้ จับมือกัน รุมตีอ้วนสุด จนย่อยยับ แต่อ้วนสุดก็หนีไปได้ หลังจากนั้นโจโฉก็กลับมาเตรียมทัพกำจัดเตียวสิ้วและเล่าเปียว แต่ก็ยังไม่สามารถชนะศึกได้ โจโฉจึงเลิกศึกกลับไปตั้งตัวใหญ่



อ้วนเสี้ยวก็เตรียมพลขยายอาณเขตตั้งใจจะตีโจโฉแต่ก็โดนกองซุนจ้านแอบเข้าตี อ้วนเสี้ยวกับกองซุนจ้านจึงรบกัน โจโฉพักพื้นกองทัพและสั่งให้เล่าปี่รบกับลิโป้ เล่าปี่พ่ายแพ้ลิโป้แตกทัพกลับไปหาโจโฉ โจโฉรู้ข่าวจึงเตรียมทัพใหญ่บุกลิโป้ ลิโป้และตันก๋งนั้นไม่สามารถต้านทานกองทัพโจโฉได้ อีกทั้งในเมืองยังมีใส่ศึกอย่างตันเต๋งและตันกุ๋ยทำให้ลิโป้พ่ายแพ้หนีไปอาศัยแห้ฝือ โจโฉจึงยึดเมืองเสียวพ่ายได้สำเร็จ


ลิโป้พ่ายแพ้สงครามแล้วก็ไม่มีใจอยากจะสู้กินเหล้าสุราเมามาย ลิโป้ไม่รู้จะสู้ยังไงจึงขอความช่วยเหลืออ่วนสุดโดยจะมอบลูกสาวของลิโป้ไปให้ลูกชายอ้วนสุด แต่แล้วแผนการก็ล้มเหลวโดนกองทัพเล่าปี่สกัดทาง โจโฉจึงวางแผนไขน้ำท่วมเมืองทำให้ลิโป้เข้าตาจน จากนั้นก็ลูกนายทหารหักหลังด้วยการมัดตัวลิโป้ไว้อย่างแน่นหนาลิโป้หมดทางสู้ทำให้โจโฉยึดเมืองแห้ฝือได้สำเร็จ โจโฉจึงตัดคอลิโป้และตันก๋งที่ปรึกษา และได้เตียวเลี้ยวมาเป็นทหารเอก โจโฉขยายอาณาเขตทางภาคกลางไว้หมดสิ้น ก๊กของลิโป้ก็ดับสูญไป