Showing posts with label บทสรุป. Show all posts
Showing posts with label บทสรุป. Show all posts

Sunday, February 3, 2013

ยุคที่ 7 : โจโฉลงใต้ยึดเมืองเกงจิ๋ว



หลังจากโจโฉปราบอ้วนเสี้ยวเรียบร้อยแล้ว ก็เร่งทหารฝึกฝน รอโอกาสบุกภาคใต้ โดยมีเป้าหมายหลักคือกำจัดเล่าปี่และยึดเมืองเกงจิ๋ว หลังจากได้เมืองเกงจิ๋วแล้วก็จะทำการปราบซุนกวนเมืองกังตั๋งต่อ

เล่าปี่หลังจากพ่ายโจโฉแล้วก็หนีไปพึ่งเล่าเปียว ในช่วงนั้นเองเมืองเกงจิ๋วนั้นเกิดกบฎที่เมืองกังแฮ เล่าเปียวได้แต่ตั้งให้เล่าปี่ทำหน้าที่ไปปราบ โดยเล่าปี่พาขุนพลอย่าง กวนอู เตียวหุย และ จูล่ง จนสามารถปราบกบฎที่เมืองกังแฮได้สำเร็จ เล่าปี่จึงมีความดีความชอบยิ่งนัก ทำให้ชัวมอซึ่งเป็นอีกขั้วอำนาจของเมืองเกงจิ๋วรู้สึกอิจฉาเล่าปี่เป็นอันมาก


ชัวมอ ชัวฮูหยินจึงคิดแผนกำจัดเล่าปี่ นัดเล่าปี่มากินโต๊ะแล้วจากนั้นก็ทำการสังหารเล่าปี่ แต่เล่าปี่ไหวตัวทันจึงควบม้าหนีข้ามแม่น้ำไปยังเทือกเขาโงลังกั๋ง จนได้พบกับปราชญ์ผู้หนึ่งคือ สุมาเต็กโช


สุมาเต็กโชจึงวิเคราะห์ให้เล่าปี่ได้ฟังว่า ตัวเล่าปี่นั้นการใหญ่ยังไม่สำเร็จเพียงเพราะขาดกุนซือ สุมาเต็กโชจึงได้แนะนำปราญช์ผู้พลิ๊กแผ่นดิน 2 คน มีฉายาว่า "ฮกหลง" และ "ฮองซู"  เล่าปี่ได้ keyword มาจึงแสวงหา 2 ผู้นี้ทันที


ต่อมาไม่นานเล่าปี่ได้พบกับกุนซือผู้ฉลาดที่มีนามว่า "ตันฮก" หรือ ชีซี มาเป็นเสนาธิการใหญ่ให้แก่ก๊กเล่าปี่



ต่อมาโจโฉได้สั่งให้โจยินและลิเตียนเป็นแม่ทัพใหญ่ยกทัพลงใต้ปราบเล่าปี่ โดยโจหยินได้ทำศึกโดยใช่ค่ากลพายุหะแต่ ชีซีก็สามารถทำลายค่ายกลของโจหยินลงได้ พูดง่ายชีซีเทพกว่าเยอะ โจหยินได้พ่ายแพ้กลับเมืองฮูโต๋ไป ทำให้โจโฉนั้นโกรธมาก โจโฉได้รู้ว่าเล่าปี่มีกุนซือมือดีมาทำงานให้ด้วย จึงวางแผนจับตัวแม่ของชีซีมาเป็นตัวประกันและหลอกให้ชีซีมาเมืองหลวง

ชีซีเมื่อรู้ข่าวว่ามารดาตัวเองถูกจับตัวจึงรีบลาเล่าปี่ไปยังเมืองหลวง เล่าปี่อาลัยอาวรชีซียิ่งนัก ชีซีได้พบมารดาจึงรู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นอุบายของโจโฉ มารดาของชีซีเห็นลูกตัวเองหลงกลโจโฉจึงรู้สึกอับอาย จากนั้นนางจึงผูกคอตายในที่สุด ชีซีเศร้าโศกเสียใจโจโฉเป็นอันมาที่เป็นตันเหตุให้แม่ตัวเองตาย ชีซีจึงบอกกับตัวเองว่าจะไม่คิดวางแผนช่วยเหลือโจโฉอีก

จากนั้นเล่าปี่จึงออกเดินทางตามหาขงเบ้งที่เขาโงลังกั๋งถึง 3 ครั้งจึงได้พบกับขงเบ้ง ต่อมาขงเบ้งจึงได้มาทำราชการกับเล่าปี่โดยมีตำแหน่งเป็นเสนาธิการใหญ่แก่ก๊กเล่าปี่

โจโฉรวบรวมพลอีกครั้งโดยส่งแม่ทัพใหญ่ผู้เชี่ยวชาญการสงคราม ดีกรีผู้ร่วมก่อตั้งยุคแรกๆกับโจโฉ รอบนี้ยกทัพใหญ่กว่าเดิมหวังจะเหยียบมึงซินเอี๋ยแหลก ขงเบ้งปราชญ์ผู้พลิ๊กแผ่นดินมาถึงก็ฝึกซ้อมทหารรับมือแฮหัวตุ้น


กวนอู เตียวหุย เดิมทีไม่ชอบหน้าขงเบ้ง ขงเบ้งเองก็รู้ว่าไอ้ 2 คนนี้มันไม่เลื่อมใสในตัวเอง เล่าปี่รู้เหตุการณ์ทุกอย่างเกรงว่าจะเสียการใหญ่จึงมอบดาบอาญาสิทธิ์ให้แก้ขงเบ้ง เอาไว้ปราบกวนอูและเตียวหุย

ขงเบ้งได้วางอุบายเผากองทัพของแฮหัวตุ้นที่เนินพกบ๋องจนราบคาบ ทำให้กวนอูและเตียวหุยเลื่อมใสขงเบ้งยิ่งนัก แฮหัวตุ้นสะบักสะบอมกลับเมืองหลวงอับอายขายหน้าที่ของทัพของตนมีเยอะกว่าแต่แพ้กองทัพของเล่าปี่ที่มีน้อยกว่า



เมื่อโจโฉรู้ข่าวว่าแฮตัวตุ้นทหารเอกของตนพ่ายแพ้ก็เกิดความสงสัยอยู่นักว่าเล่าปี่นั้นมีดีอะไร สรุปคือเล่าปี่ได้เทพขงเบ้งมาช่วยเหลือทำให้โจโฉยิ่งโกรธหนัก ยกทัพใหญ่จำนวน 100 หมื่น โดยโจโฉนำทัพด้วยตัวเอง ยกทัพเหยียบเมืองซินเอี๋ยและเมืองเกงจิ๋วให้ราบคาบ



ต่อมาเล่าเปียวสุขภาพก็ไม่สู้ดีนักอยากจะยกเมืองให้เล่าปี่หลายต่อหลายครั้ง เล่าปี่เล่นบทพระเอกใจบุญไม่ต้องการแย่งชิงเมืองของคนแซ่เดียวกัน ทำให้ขงเบ้งกุนซือผู้แจ้งฟ้าจบดินถึงกับต้องกุมขมับเลย - -a  ถึงแม้นขงเบ้งจะฉลาดในการสงครามดั่งเทพบันดลแต่กองทัพของโจโฉก็ไม่ใช่กระจอกนะครับ ยกมาร่วม 100 หมื่น มีเหรอเมืองเล็กๆอย่างซินเอี๋ยที่เล่าปี่อาศัยอยู่จะต้านอยู่ ถ้าดูกราฟแล้วจะรู้ว่าแสนยานุภาพของทัพโจโฉนั้นมีเยอะจริงๆ รวมทุกก๊กเข้าด้วยกันก็ยังมีทหารไม่เท่าโจโฉ


กองทัพโจโฉไหลมายังกะน้ำท่วม ขงเบ้งถึงกับต้องประกาศว่า "เอาไม่อยู่" จึงเสนอให้เล่าปี่รีบถอยไปอยู่เมืองเกงจิ๋วดีกว่า พอไปถึงเล่าเปียวก็ดันสิ้นบุญไปซะละ ชัวมอยกเล่าจ๋องขึ้นครองเมืองกลัวว่าเล่าปี่จะยึดอำนาจ ก็เลยไม่ให้เล่าปี่เข้าเมือง เล่าปี่เดินทางมาไกลเข้าเมืองไม่ได้ก็ถึงกับเซ็งต้องเร่ร่อนไปอาศัยตามเมืองเล็กๆ พอเล่าปี่ไปโจโฉยกทัพมาชัวมอก็ขี้ขึ้นหัวสิครับ โอ้วววจ๊อตทำไมทหารเยอะเช่นนี้ แทนที่จะจับมือกับเล่าปี่ต้านทัพโจโฉ หาทางออกไม่ได้ในยามวิกฤตที่ปรึกษาเอ๊ะหรือว่าที่ปรึกเสียกันแต่ ต่างก็เสนอให้ "ยอมแพ้เถอะ" รักษาตัวรอดเป็นยอดคน เล่าจ๋องเด็กอมมือมิรู้ความใครว่าไงก็ว่างั้นยอมแพ้ดีกว่า โจโฉยกมาถึงเมืองเกงจิ๋วก็ยึดอำนาจมีเหรอโจโฉจะปล่อยให้เล่าจ๋องอยู่ ตัดต้นไม้ต้องถอนรากถอนโคนจากนั้นก็สังหารเล่าจ๋องและชัวฮูหยิน 2 แม่ลูกตายอย่างอนาจ


เหลือแต่ชัวมอ โจโฉยังไงก็ไม่ปล่อยไว้แต่เห็นว่าอ๊ะไอ้หมอนี่เก่งทางเรือ อีกทั้งทหารโจโฉรบเป็นแต่ทางอกจึงเก็บชัวมอไว้ใช้งานแต่งตั้งเป็นแม่ทัพใหญ่บรรชาการทหารเรือ ชัวมอเห็นยศตัวเอง up แบบก้าวกระโดดก็หลงระเริงแต่หารู้ไม่ว่าจะโดนโจโฉตัดคอในภายหลัง ฮ่าๆๆ

พอยึดเมืองเกงจิ๋วสำเร็จก็ไล่ตีเล่าปี่ต่อสิครับ เล่าปี่รู้ว่าโจโฉจะบุกมาก็เสียวตูดจึงปรึกษาขงเบ้งว่าจะทำยังไงดี ขงเบ้งแนะให้เล่าปี่หนีเข้าไปไกล้ดินแดนซุนกวนให้มากที่สุด ลากสงครามไปหาซุนกวน เล่าปี่ก็เห็นด้วยแถมยังเล่นบทพระเอกอีกรอบบอกขงเบ้งว่า "เราจะไม่ทอดทิ้งประชาชน เราจะเอาประชาชนไปด้วย" เอาแล้วไงเข้งเบ้งปวดหัวตื๊บอีกรอก = ='' แค่หนีธรรมดาก็ยังไม่รู้ว่าจะดีได้หรือปล่าว รอบนี้ต้องแบกประชาชนจำนวนมากเดินเท้าทั้กเด็ก ผู้หญิง คนแก่ เหมือนดั่งกับเอาเหล็กก้อนใหญ่ผูกขาตัวเองหนีเสือ เล่าปี่ทำประชานิยมซื้อใจประชาชน เออก็ดีนะแต่งานเข้าขงเบ้ง 555


ขงเบ้งต้องงัดอุบายถอยทัพสกัดเสืออย่างโจโฉให้เล่าปี่ได้เดินลากหินขึ้นภูเขา (เปรียบเปรย) ทั้งกลิ้งหิน ทั้งเผาทัพ ทั้งไขแม่น้ำท่วม ทหารโจโฉตายเป็นเบือ แต่ก็ช่วยได้ไม่นาน ทหารม้ากับคนเดินเท้าวิ่งไล่กันยังกะกระต่ายกับเต่า ในที่สุดก็หนีไม่ทัน เล่าปี่เห็นท่าไม่ดีกูหนีก่อนดีกว่า ประชาชนเอ้ยเอาคาถานี้ไป "อัตตาหิ อัตโนนาโถ"  ลูกเมียหนีไม่ทันเจอไล่ตามตีตามฆ่า จูล่งทหารหล่อของเล่าปี่โชว์แมน ไปตามหาลูกเมียของเล่าปี่แต่ก็สามารถช่วยได้แต่อาเต๊า(ลูกเล่าปี่)

ทหารโจโฉเยอะเหลือเกิน แต่ยอดขุนพลจูล่งแห่งเสียงอีสาน เอ้ยเสียงสานต้องสร้างตำนานหน่อยซะแล้ว ลุยเดี่ยวฝ่าทัพของโจโฉ โจโฉเห็นฝีมือก็มีใจรักคนมีความสามารถอยากสะสมคนเก่งจึงประกาศให้ลูกน้องห้ามฆ่าจูล่งให้จับเป็น เอ้ยทำงั้นได้ยังไงหว่า - -'' จากนั้นทหารโจโฉตายเป็นเบือจูล่งหนีไปได้ ฮ่าๆ โจโฉน่าจะประกาศให้สังหารอาเต๊าแล้วเก็บจูล่งไว้นะ 555


ในที่สุดเล่าปี่ก็หนีไปยังเมืองกังแฮได้สำเร็จ โดยเมืองกังแฮนั้นมีเล่ากี๋ที่ได้ลี้ภัยการเมืองหลบหนีการสังหารจากชัวมอจึงได้ตั้งหลักที่นี่ เมืองกังแฮเป็นชายแดนที่ติดกับเมืองกังตั๋ง ซุนกวนบอกว่างานเข้ากูแล้ว ทำไมไม่หนีไปทางอื่นวะ ขงเบ้งคงขำนิดๆว่าซุนกวนมึงโดนแน่ๆ ไฟกำลังจะลามมาบ้านตัวเองซุนกวนก็กลัวขี้ขึ้นหัวเหมือนกัน แต่ไม่ได้ๆนะต้องรักษามาดไว้ก่อน ด้วยเลือดของลูกเสือเราจะยอมไม่ได้!! เหล่าที่ปรึกษาเห็นกราฟของทัพโจโฉถึงกับโอ้โห ยกทัพมาแบบนี้เอาเมืองกูไปเลยหล่ะกัน ที่ปรึกษาซุนกวนมีเยอะแต่ไร้ประสิทธิภาพ การสงครามไม่ได้เรื่อง ถ้ามีก็มีแต่จิวยี่และโลซก ทั้ง 2 สามารถเป็นเสาหลักผลักดันให้ซุนกวนบอกซุนกวนว่า "อย่ายอมแพ้เลย"


ซุนกวนได้ข่าวลือทำไมทหารโจโฉเยอะอย่างนี้ จึงส่งโลซกไปเป็น spy สืบข่าวทัพโจโฉ เข้าทางขงเบ้งเลย ขงเบ้งจึงเดือนทางไปเมืองกังตั๋งกับโลซกทันที





Saturday, August 11, 2012

ยุคที่ 6 : สงครามกัวต๋อโจโฉปราบภาคเหนือ




โจโฉยกทัพรบกับอ้วนเสี้ยวหลายต่อหลายครั้ง อ้วนเสี้ยวส่งทหารเอกผู้กล้าแกร่งอย่างงันเหลียงออกทำศึก กองทัพทหารของโจโฉทั้งทหารเอก ทหารรองไม่สามารถสู้งันเหลียงได้ โจโฉจึงเรียกตัวกวนอูมาช่วย กวนอูควบม้าเซ็กเธาว์สังหารงันเหลียงตาย กองทัพอ้วนเสี้ยวจึงระส่ำระสาย


อ้วนเสี้ยวพอรู้ว่างันเหลียงทหารเอกของตนตายไปก็โกรธจึงสั่งให้บุนทิวออกรบ บุนทิวเองก็เป็นทหารที่มีฝีมือไม่แพ้งันเหลียง แต่ก็มิอาจต้านทานพละกำลังของเทพกวนอูได้ แบบว่าเก่งเว่อร์ อ้วนเสี้ยวรู้ว่ากวนอูสังหารทหารเอกของตนถึง 2 คนก็โกรธเล่าปี่คิดว่าเล่าปี่เป็นใส้ศึก เล่าปี่จึงอ้างว่ากวนอูยังมิรู้ว่าเล่าปี่ยังมีชีวิตอยู่ เล่าปี่จึงขออาสาอ้วนเสี้ยวเขียนจดหมายถึงกวนอู เรียกตัวกวนอูมาหา ทีนี้อ้วนเสี้ยวก็จะได้ตัวกวนอูมาเป็นพวก อ้วนเสี้ยวเห็นว่ากวนอูนั้นมีฝีมือกว่าทหารเอกของตนก็ยินดี แต่ทั้งหมดนี้เป็นแผนของเล่าปี่ เพื่อที่เล่าปี่จะได้พบกวนอูและหนีอ้วนเสี้ยวไปตั้งตัว


กวนอูเมื่อไหร่ข่าวเล่าปี่จึงหาทางร่ำลาโจโฉ แต่โจโฉก็ไม่ยอมพบ โจโฉนั้นมีใจต้องการรักษากวนอูไว้กับตน แต่ก็ทำไม่ได้ โจโฉจึงไปส่งกวนอู ผูกใจกวนอูซ้ำแล้วซ้ำเล่า กวนอูแหกด่านพากครอบครัวเล่าปี่อย่างยากลำบาก ได้ไปพักอาศัยกับหลวงจีนเภาเจ๋ง กวนอูหักด่านของโจโฉสังหารทหารโจโฉเป็นอันมาก โจโฉได้สั่งให้แฮหัวตุ้นนำใบเบิกทาง มาให้แก่กวนอู เพื่อผูกน้ำใจกวนอูอีกครั้ง กวนอูจึงรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณโจโฉเป็นอันมาก


กวนอูได้พบกวนเป๋งจึงรับกวนเป๋งมาเป็นลูกบุญธรรม และกวนอูได้พบจิวฉอง จิวฉองยอมรับใช้กวนอูถึงวันตาย ต่อมา เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ก็ได้พบกันอีกครั้ง เล่าปี่จึงหนีจากอ้วนเสี้ยวไปอยู่กับเล่าเปียว เพราะคิดว่าคนอย่างอ้วนเสี้ยวคงไม่สามารถรับศึกกับโจโฉได้


ทางฝ่ายซุนเซ็กได้แผ่อำนาจอิทธิพลเหนือฝั่งใต้ของแม่น้ำแยงซีอย่างกว้างขวาง จะเป็นรองก็แต่โจโฉ วันหนึ่งซุนเซ็กไปล่าสัตว์ในป่าโดนลอบทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เทียเภารู้ข่าวจึงรีบขวบมาไปช่วย ในหนังสือกล่าวว่า "คนหนึ่งเอาทวนแทงถูกเท้าซ้ายซุนเซ็ก คนหนึ่งเอาเกาทัณฑ์ยิงถูกหน้าผากซุนเซ็ก"


ผ่านไปไม่นานซุนเซ็กก็เริ่มหายดีเหลือแต่แผลของเกาทัณฑ์ที่อาบยาพิษ หมอที่รักษาซุนเซ็กได้บอกแก่ซุนเซ็กว่า มิให้เกิดอารมณ์โทสะแต่อย่างใดมิฉะนั้น พิษจะกำเริบอาจจะทำให้ถึงแก่ความตายได้ ซุนเซ็กได้พบกับนักพรตในลัทธิเต๋าหรือเต้าหยินคนหนึ่งชื่อ  อิเกียด ที่ชาวบ้านต่างก็กราบไหว้ ซุนเซ็กไม่ต้องการให้ชาวบ้านงมงายจังจับตัวอิเกียดมาประหาร ต่อมาซุนเซ็กก็โดนผีอีเกียดหลอกจนป่วยแถมยังมีพิษเกาฑัณอีก ซุนเซ็กจึงถึงแก่ความตาย


หลังจากซุนเซ็กตายไปซุนกวนผู้น้องก็ได้สืบต่ออำนาจซุนเซ็กได้แนะนำให้ซุนกวนถ้ามีการในให้ปรึกษาเตียวเจียว หากมีการศึกสงครามให้ปรึกษาจิวยี่ ซุนกวนหลังจากได้รับอำนาจมาก็เร่งหาบุคลากรมาร่วมทัพ ซุนกวนได้โลซกและได้จูกัดกิ๋น มาเป็นที่ปรึกษา



ก่อนที่จะเริ่มศึกกัวต่อมาวิเคราะห์กองทัพของโจโฉและกองทัพของอ้วนเสี้ยวกัน ในยุคนี้ถึงแม้จะมีหลายก๊ก ไม่ว่าจะเป็นก๊กเล่าปี่ ก๊กเล่าเปียว ก๊กเล่าเจี้ยง ก๊กม้าเท้ง ก๊กซุนเซ็ก ก๊กเตียวสิ้ว ก๊กเตียวล่อ แต่ก็มีอยู่แค่ 2 ก๊กมียิ่งใหญ่ที่สุดในตอนนี้นั่นก็คือก๊กของโจโฉและก๊กของอ้วนเสี้ยว สงครามศึกกัวต๋อถือว่าเป็นมวยถูกคู่จริงๆ เป็นมวยรุ่นเฮวี่เวสเลยก็ว่าได้ มีความสูสีในหลายๆเรื่อง แต่ถ้าถามความได้เปรียบอ้วนเสี้ยวนั้นได้เปรียบมากกว่า



เสบียง
เสบียงของอ้วนเสี้ยวนั้นมีมากกว่าโจโฉเรียกว่ากินขาดเลย โจโฉยิ่งทำศึกยืดยื้อยิ่งเสียเปรียบ

ทหาร
เรื่องทหารก็เป็นของอ้วนเสี้ยวอีกนั่นแหละมีมากกว่าโจโฉเป็นเท่าตัว โจโฉนั้นมีศึกรอบด้านเวลายกทัพไปสู้กับอ้วนเสี้ยวไม่สามารถยกทหารทั้งหมดไปได้ โจโฉยกไปเพียง 7 หมื่น แต่อ้วนเสี้ยวนั้นยกมาถึง 70 หมื่น ต่างกันเป็น 10 เท่าเลย

ที่ปรึกษา
ทางด้านทีปรึกษาของอ้วนเสี้ยวและโจโฉนั้นก็ไม่ใช่ขี้ๆเลย อ้วนเสี้ยวมีที่ปรึกษาเก่งๆหลายต่อหลายคน เสียอย่างเดียวทุกคนต่างก็แก่งแย่งชิงดียิงเด่นกัน ต่างกับที่ปรึกษาของโจโฉที่ค่อนข้างมีวินัย

แม่ทัพ
แม่ทัพของโจโฉนั้นมีมากมาย เก่งกาจ แต่ถ้าเทียบเรื่องฝีมือแล้วแม่ทัพของอ้วนเสี้ยวนั้นถือว่าสุดยอดกว่าแบบเป็นตำนานเลยก็ว่าได้ นั่นคืองันเหลียง & บุนทิว บอกได้เลยว่าแม่ทัพของโจโฉนั้นสู้ตัวต่อตัวนั้นยากลำบาก แต่โจโฉโชคดีที่มีกวนอูช่วยรบ กวนอูจึงสังหารทหารเอก 2 คนนั้นตายทำให้ด้านกำลังทหารของอ้วนเสี้ยวนั้นอ่อนแอลง

ความเป็นผู้นำ
ทุกท่านน่าจะเคยอ่านถึงบทวิเคราะห์ความเป็นผู้นำระหว่างโจโฉและอ้วนเสี้ยว ที่กุยแกได้วิเคราะห์ ติดตามอ่านได้ที่ บทวิเคราะห์


โจโฉและอ้วนเสี้ยวยกทัพมาเผชิญหน้ากัน อ้วนเสี้ยวนั้นมีสิมโพยเป็นที่ปรึกษาการสงคราม โจโฉทำศึกกับอ้วนเสี้ยวได้ไม่นานก็เริ่มขาดเสบียง อยู่ได้ไม่นาน เขาฮิวที่ปรึกษาอ้วนเสี้ยวอีกคนเสนอให้อ้วนเสี้ยวทำลายกองเสบียงโจโฉ แต่อ้วนเสี้ยวนั้นไม่ฟังความ เขาฮิวน้อยใจที่อ้วนเสี้ยวเชื่อสิมโพยมากกว่า เขาฮิวจึงย้ายข้างมาอยู่กับโจโฉ ซึ่งเดิมทีเขาฮิวนั้นเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กับโจโฉมาก่อน


เขาฮิวจึงเสนอให้โจโฉโจมทีคลังเสบียงของอ้วนเสี้ยวโดยบอกจุดพิกัดทุกตำแหน่งให้แก่โจโฉ โจโฉยินดีจึงทำตามเขาฮิว โจโฉจึงสามารถทำลายล้างกองเสบียงของอ้วนเสี้ยวจนย่อยยับ เมื่ออาหารหมดอ้วนเสี้ยวก็อยู่ไม่ได้นานกองทัพเริ่มระสำระสาย โจโฉจึงเข้าตีทัพของอ้วนเสี้ยวแตกและได้ทหารเอกอย่างเตียวคับมาอยู่เป็นสังกัดของโจโฉ อ้วนเสี้ยวเสียท่ากลัวเสียหน้าที่แต่ก่อนเหล่าที่ปรึกษาต่างก็ได้ตักเตือน อ้วนเสี้ยวจึงสั่งประหารเหล่าที่ปรึกษาหลายต่อหลายคน


ที่ปรึกษาของอ้วนเสี้ยวก็เก่งๆกันทั้งนั้น ถ้าที่ปรึกษาของอ้วนเสี้ยวนั้นร่วมมือกันดีๆกองทัพโจโฉก็คงสู้ไม่ได้ อ้วนเสี้ยวจึงยกทัพกลับรักษาตัวอยู่ที่เมืองกิจิ๋ว ทางฝ่ายเล่าปี่ก็ถือโอกาสยกทัพเข้าตีเมืองหลวง


กุยแกได้วางแผนให้โจโฉทำลายทัพของเล่าปี่อย่างย่อยยับอีกครั้ง เล่าปี่แตกทัพหนีไปอยู่กับเล่าเปียว พอเสร็จศึกเล่าปี่ โจโฉจึงเตรียมทัพยกทัพปราบอ้วนเสี้ยวจนอ้วนเสี้ยวถึงแก่ความตาย หลังจากอ้วนเสี้ยวตายแล้วลูกของอ้วนเสี้ยวทั้ง 3 คน (อ้วนถำ อ้วนฮี อ้วนซง) ต่างก็แก่งแย่งชิงดีกัน ไม่มีความปรองดองกัน ทำศึกห้ำหั่นกัน เมื่อโจโฉเห็นกองทัพลูกของอ้วนเสี้ยวร่อยหลอลง โจโฉจึงยกทัพปราบอ้วนถำได้สำเร็จ


โจโฉยกทัพยึดเมืองกิจิ๋วได้สำเร็จส่วนหนึ่งเป็นความดีความชอบของเขาฮิว เขาฮิวเมื่อพาโจโฉชนะศึกก็ลืมตนยกตนเทียบเท่ากับโจโฉ เคาทูไม่พอใจเขาฮิวจึงสังหารเขาฮิวถึงแก่ความตาย กุยแกป่วยหนักได้เขียนแผนการครั้งสุดท้ายให้แก่โจโฉ โจโฉรำพันว่า "กุยแกตายแต่ยังหนุ่ม เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งตน"  อ้วนซงและอ้วนฮีได้หนีไปอาศัยอยู่กับลูกของกองซุนจ้าน  เมื่อเวลา 90 วันผ่านไปกองซุนของก็ได้ตัดหัวของอ้วงซงและอ้วนฮีตามแผนของกุยแก


โจโฉชนะศึกภาคเหนือทำให้กองทัพโจโฉเติบโตขึ้นเป็นอันมาก เป้าหมายต่อไปของโจโฉก็คือยกทัพลงใต้ปราบหัวเมืองต่างๆ ซึ่งก็มีก๊กของเล่าเปียว ก๊กของเล่าปี่ และ ก๊กของซุนกวน นั่นเอง!

Thursday, August 9, 2012

ยุคที่ 5 : แก่งแย่ง ชิงดี ทำลายล้าง



หลังจากโจโฉและเล่าปี่ได้ทำศึกกับลิโป้มายาวนาน เมื่อได้ชัยชนะแล้วโจโฉจึงพาเล่าปี่เข้าเมืองหลวงกราบทูลความดีความชอบให้แก่เล่าปี่ นับว่าเป็นการแจ้งเกิดของเล่าปี่อย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อครั้นทำศึกกับโจรโพกผ้าเหลืองเล่าปี่ก็ได้สร้างผลงานไว้เยอะแต่โดนพวกเหล่าขุนนางและขันทีต่างๆ discredit ไว้หมดเสียสิ้น แต่ครั้งนี้โจโฉได้กราบทูลให้



พระเจ้าเหี้ยนเต้ไม่รู้จักเล่าปี่มาก่อนจึงถามเชื้อสายสรุปได้ว่าเล่าปี่เป็นเชื้อพระวงศ์ พระเจ้าฮั่นเกงเต้ ลำดับศักดิ์แล้วมีฐานะเป็นพระเจ้าอา ของพระเจ้าเหี้ยนเต้ เล่าปี่จึงได้เป็นพระเจ้าอาตั้งแต่นั้นมา เหล่าปี่ปรึกษาโจโฉต่างก็ให้ความเห็นแก่โจโฉว่าควรที่จะรีบกำจัดเล่าปี่เสียเกรงว่าเล่าปี่ในภายภาคหน้านั้นจะมีอำนาจในเมืองหลวง โจโฉจึงว่าอำนาจสิทธิขาดทั้งหมดอยู่ที่ตน ดังนั้นเล่าปี่จึงยังไม่ใช่ศรัตรูในตอนนี้




ต่อมาโจโฉจึงวางแผนดูพลังอำนาจของตนจึงรับสั่งให้พระเจ้าเหี้ยนเต้ประพาสป่าล่าสัตว์ โจโฉได้แสดงท่าทีจาบจ้วงพระเจ้าเหี้ยนแต้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าต่อต้านและท้าทายอำนาจของโจโฉ พระเจ้าเหี้ยนเต้กลับมารู้ศึกกังวลกลัวว่าโจโฉจะล้มอำนาจตนจึงรับสั่งให้ตังสินขนนางผู้ภรรคดีมาเข้าเฝ้าและวางแผนช่วยตน พระเจ้าเหี้ยนเต้จึงเขียนราชโองการเลือดรับสั่งให้เหล่าขุนนางวางแผนล้มอำนาจโจโฉให้ได้ เหล่าขุนนางรวมทั้งตังสิน เล่าปี่ ม้าเท้งต่างก็ลงนามร่วมมือกันล้มล้างอำนาจของโจโฉ


โจโฉได้สั่งให้ลูกน้องคอยจับตาดูพฤติกรรมของเล่าปี่ เล่าปี่นั้นเกรงว่าโจโฉนั้นจะล่วงรู้ถึงสติปัญญาและอุดมการณ์กอบกู้ราชวงศ์ฮั่นของตน เล่าปี่จึงแสร้งทำเป็นปลูกผักทุกวันๆ วันหนึ่งโจโฉจึงเชิญเล่าปี่มากินโต๊ะ เพื่อหยังเชิงสติปัญญาของเล่าปี่ แต่เล่าปี่เองก็เก็บเอาไว้อย่างมิชิด พูดจากับโจโฉอย่างระมัดระวัง หลังจากหลุดพ้นจากโจโฉได้แล้ว เล่าปี่จึงขออาสาโจโฉไปปราบอ้วนสุด โจโฉจึงอนุญาติให้เล่าปี่ไป เล่าปี่ใช้แผนหนีออกจากเมืองหลวงเพราะเกรงว่าจะเป็นภัย โจโฉรู้ว่าเล่าปี่หนีตนออกไปตั้งอำนาจก็โกรธแค้นเล่าปี่เป็นอันมาก





เล่าปี่เมื่อหนีโจโฉมาได้ก็เตรียมทัพรบกับอ้วนสุด อ้วนสุดสู้ไม่ได้แตกทัพหนีจนเส้นเลือดในสมองแตกตาย ต่อมาไม่นานอ้วนเสี้ยวก็เตรียมทัพใหญ่เข้าตีเมืองหลวง ศึกระหว่างอ้วนเสี้ยวและโจโฉจึงเริ่มขึ้น อ้วนเสี้ยวสั่งให้ตันหลิมเขียนพรรณนาความชั่วช้าที่เป็นเผด็จการทรราชย์ของโจโฉเพื่อสร้างความชอบธรรมในการเข้าตีเมืองหลวง ในขณะที่โจโฉนั้นป่วยเป็นโรคปวดหัวเมื่อทหารได้อ่านจดหมายที่ตันหลิมเขียนด่า ทำให้โจโฉโกรธมากถึงมากที่สุดเลือดไหลเวียนได้ดีทำให้โจโฉหายป่วย

ก่อนศึกกัวต๋อจะเริ่มโจโฉต้องระวังหลายด้าน ต้องเรียกว่าระวังศึก 4 ด้านเลยก็ว่าได้ ทิศเหนือโจโฉต้องสู้กับอ้วนเสี้ยว และต้องระวังม้าเท้งจากทิศตะวันตก ระวังเล่าปี่จากทิศตะวันออก ระวังเตียวสิ้วและเล่าเปียวทิศใต้



โจโฉต้องลงใต้ปราบเตียวสิ้วให้สิ้นสร้างก่อนที่จะขึ้นเหนือ โจโฉจงส่งเล่าหัวไปเกลี้ยกล่อมเตียวสิ้ว กาเซี่ยงที่ปรึกษาของเตียวสิ้วเห็นว่าควรยอมแพ้ เตียวสิ้วจึงยอมแพ้และเป็นพวกของโจโฉตั้งแต่นั้นมา เล่าเปียวเมื่อรู้ว่าเตียวสิ้วยอมแพ้เล่าเปียวก็เหมือนแพ้ด้วยไม่กล้าที่จะบุกตีเมืองหลวงอีก


เล่าขุนทางที่ต้องการล้างอำนาจโจโฉได้ปรุงยาพิษให้โจโฉดื่ม แต่โจโฉไหวตัวทันจึงรอดตาย โจโฉจึงต้องทำการล้างบางเหล่าขุนนางที่สมรู้ร่วมคิดทุกคน สังหารพวกตังสินจนหมดสิ้นกว่า 700 คน รวมทั้งพระสนมเอกของพระเจ้าเหี้ยนเต้ เพื่อเป็นการขู่ให้พระเจ้าเหี้ยนเต้ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก โจโฉสังหารโหดล้างบางแต่ยังเหลือผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 2 คนก็คือ ม้าเท้งและเล่าปี่


โจโฉเตรียมทัพทำศึกกับเล่าปี่ เล่าปี่มีกำลังน้อยกว่าสู้โจโฉไม่ได้เล่าปี่จึงแตกทัพกระเจิง 3 พี่น้องเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย หายไปคนละทิศละทางเล่าปี่จึงไปอาศัยกับอ้วนเสี้ยว เตียวหุยหนีเข้าไปเพื่อลี้ภัย กวนอูรับหน้าที่ดูแลครอบครัวเล่าปี่ ถูกล้อมโจโฉจึงสั่งให้เตียวเลี้ยวไปเกลี้ยกล่อมกวนอู กวนอูรับปากว่าจะยอมแพ้หากโจโฉรับปากสัญญา 3 ประการคือ

กวนอูจึงบอกว่าจะทำตามหากโจโฉ 3 ข้อที่ต้องการ กวนอูก็จะยอม แล้วกวนอูจึงแจง 3 ข้อว่า

1 จะต้องยอมรับว่าเป็นการอยู่รับราชการในพระเจ้าเหี้ยนเต้ ไม่ใช่รับใช้โจโฉ
2 ห้ามมิให้ผู้ใดเข้ามาใกล้พี่สะใภ้ทั้งสอง
3 วันเวลาใดถ้าหากเรารู้ว่าเล่าปี่พี่เราอยู่แห่งหนใด ถึงมาตรแม้นว่าเรายังมิได้ลาโจโฉ เราก็จะไปหาเล่าปี่ในทันที

โจโฉใคร่อยากได้ตัวกวนอูจึงรับปากรับกวนอูมาไว้ในกองทัพ โจโฉซื้อใจกวนอูต่างๆนาๆ มอบสิ่งของเงินทางให้กวนอูก็ไม่ต้องการ โจโฉจึงให้ม้าเซ็กเธาว์แก่กวนอู กวนอูน้อมรับ เอ๊ะแปลกจัง 3 พี่น้องสวนท้อต่างคนต่างไม่รู้ข่าวกัน โจโฉเมื่อปราบเล่าปี่ได้แล้วก็เตรียมทัพขึ้นเหนือสู้กับอ้วนเสี้ยว