Tuesday, October 23, 2012

#171 อพยพ

เล่าปี่ได้อพยพคนมาหน้าประตูเมืองซงหยง แล้วบอกกับทหารที่อยู่บนกำแพงว่า ให้ไปแจ้งแก่เหล่าจ๋องหลานเราว่าเรายกทัพมาดี มิได้มาชิงเมืองแต่อย่างใด ยกทัพมาครั้งนี้พาประชาชนมาลี้ภัยคุกคามของโจโฉ



ชัวมอทราบความจึงสั่งทหารยิงเกาทัฑณ์ไปที่เล่าปี่ เล่าปี่เห็นเช่นนั้นรีบถอยระยะออกมา จากนั้นมีชายผู้หนึ่ง สวมเกราะขี่ม้าศึกพร้อมทหารอีกร้อยเศษ ฆ่าฟันทหารรักษาประตูเมืองล้มตายลงจนหมดสิ้น เปิดประตูเมืองซงหยงออกแล้วร้องมาทางเล่าปี่ว่า

"ขอเชิญท่านพาอาณาประชาราษฎรเข้ามาในเมืองซงหยง ข้าพเจ้าอุยเอี๋ยนชาวเมืองงีหยง จะช่วยเหลือท่านกำจัดไอ้พวกนี้เอง" ชัวมอเห็นดังนั้นก็โกรธ ยกทัพลงมาสู้รบกับอุ๋ยเอี๋ยน เล่าปี่เห็นทหารเมืองเกงจิ๋วรบกันเองก็จึงตัดสินใจถอยห่างเพราะคิดว่าตัวเองเป็นตนเหตุของการแตกคอกัน


ขงเบ้งจึงเสนอว่าให้ไปอาศัยที่เมืองกังเหลง ซึ่งเป็นหัวเมืองขึ้นต่อเมืองเกงจิ๋ว เป็นชัยภูมิที่พอจะป้องกันรักษาตัวไม่ให้ได้รับอันตรายได้ เล่าปี่ได้ฟังก็เห็นชอบ จึงออกคำสั่งให้ทหารและราษฎรทั้งปวงเคลื่อนออกจากประตูเมืองซงหยงตรงไปทางเมืองกังเหลงทันที

จากนั้นขงเบ้งจึงเขียนหนังสือสั่งให้จูกัดจุนผู้น้องให้พาครอบครัวตนหนีออกจากเมืองซงหยงทันที ขงเบ้งเองก็รู้ว่าหากไม่ทำเช่นนั้นโจโฉก็ต้องจับครอบครัวตนเป็นตันประกันเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับชีซีมาแล้ว


การเดินทางของเล่าปี่นั้นล่าช้าเนื่องจากพาประชาชนมาด้วย จนมาถึงเมืองกังเหลง ขงเบ้งรู้ข่าวว่าโจโฉกำลังเคลื่อนพลมาไกล้ถึงเมืองกังเหลงแล้ว ขงเบ้งจึงสั่งกวนอูให้ไปแจ้งแก่เล่ากี๋ที่เมืองกังแฮ ยกทัพมาช่วยเมืองกังเหลงทันที จากนั้นกวนอูพร้อมซุนเขียนจึงรีบเดินทางไปหาเล่ากี๋


จากนั้นขงเบ้งจึงสั่งให้เตียวหุยคุ้มกันหลัง ส่วนจู่ลงให้คุ้มกันครอบครัวของเล่าปี่พร้อมอาเต๊าลูกเล็กของเล่าปี่อีกด้วย


เมื่อเล่าจองทราบข่าวว่าโจโฉยกทัพมาถึงเมืองซงหยงดินแดนของเมืองเกงจิ๋วแล้วก็ตกใจ เรียกที่ปรึกษามาหารือ ได้ข้อสรุปว่า "ให้ยอมแพ้แก่โจโฉ" แล้วก็รับกองทัพโจโฉเข้ามาในเมือง



Sunday, October 7, 2012

ก่อนศึกเซ็กเพ็กจะเริ่ม





ก่อนศึกเซ็กเพ็กก้องโลกจะเริ่ม เรามาวิเคราะห์สถานการณ์กันดีกว่า  โจโฉนั้นตั้งตัวได้ก่อนก๊กอื่นๆหลังจากปราบปรามอ้วนเสี้ยวภาคเหนือสำเร็จทัพโจโฉก็ใหญ่แบบน่ากลัวมาก แทบจะไม่มีใครกล้าต่อกรกับโจโฉเลย เป้าหมายของโจโฉค่อนข้างชัดเจนก็คือกวาดล้าง เล่าปี่ที่เคยหักหลัง และเล่าเปียวที่เคยร่วมมือกับเตียวสิ้วตีโจโฉ โจโฉนั้นเตรียมกรีฑาทัพลงใต้ ทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือนไปถึงดินแดนกังตั๋งของซุนกวน 

เล่าปี่เองหนีหัวซุกหัวซุนไปอาศัยใบบุญเล่าเปียว แต่แล้วเล่าเปียวสุขภาพก็ไม่สู้ดีนักอยากจะยกเมืองให้เล่าปี่หลายต่อหลายครั้ง เล่าปี่เล่นบทพระเอกใจบุญไม่ต้องการแย่งชิงเมืองของคนแซ่เดียวกัน ทำให้ขงเบ้งกุนซือผู้แจ้งฟ้าจบดินถึงกับต้องกุมขมับเลย - -a  ถึงแม้นขงเบ้งจะฉลาดในการสงครามดั่งเทพบันดลแต่กองทัพของโจโฉก็ไม่ใช่กระจอกนะครับ ยกมาร่วม 100 หมื่น มีเหรอเมืองเล็กๆอย่างซินเอี๋ยที่เล่าปี่อาศัยอยู่จะต้านอยู่ ถ้าดูกราฟแล้วจะรู้ว่าแสนยานุภาพของทัพโจโฉนั้นมีเยอะจริงๆ รวมทุกก๊กเข้าด้วยกันก็ยังมีทหารไม่เท่าโจโฉ

กองทัพโจโฉไหลมายังกะน้ำท่วม ขงเบ้งถึงกับต้องประกาศว่า "เอาไม่อยู่" จึงเสนอให้เล่าปี่รีบถอยไปอยู่เมืองเกงจิ๋วดีกว่า พอไปถึงเล่าเปียวก็ดันสิ้นบุญไปซะละ ชัวมอยกเล่าจ๋องขึ้นครองเมืองกลัวว่าเล่าปี่จะยึดอำนาจ ก็เลยไม่ให้เล่าปี่เข้าเมือง เล่าปี่เดินทางมาไกลเข้าเมืองไม่ได้ก็ถึงกับเซ็งต้องเร่ร่อนไปอาศัยตามเมืองเล็กๆ พอเล่าปี่ไปโจโฉยกทัพมาชัวมอก็ขี้ขึ้นหัวสิครับ โอ้วววจ๊อตทำไมทหารเยอะเช่นนี้ แทนที่จะจับมือกับเล่าปี่ต้านทัพโจโฉ หาทางออกไม่ได้ในยามวิกฤตที่ปรึกษาเอ๊ะหรือว่าที่ปรึกเสียกันแต่ ต่างก็เสนอให้ "ยอมแพ้เถอะ" รักษาตัวรอดเป็นยอดคน เล่าจ๋องเด็กอมมือมิรู้ความใครว่าไงก็ว่างั้นยอมแพ้ดีกว่า โจโฉยกมาถึงเมืองเกงจิ๋วก็ยึดอำนาจมีเหรอโจโฉจะปล่อยให้เล่าจ๋องอยู่ ตัดต้นไม้ต้องถอนรากถอนโคนจากนั้นก็สังหารเล่าจ๋องและชัวฮูหยิน 2 แม่ลูกตายอย่างอนาจ

เหลือแต่ชัวมอโจโฉยังไงก็ไม่ปล่อยไว้แต่เห็นว่าอ๊ะไอ้หมอนี่เก่งทางเรือ อีกทั้งทหารโจโฉรบเป็นแต่ทางอกจึงเก็บชัวมอไว้ใช้งานแต่งตั้งเป็นแม่ทัพใหญ่บรรชาการทหารเรือ ชัวมอเห็นยศตัวเอง up แบบก้าวกระโดดก็หลงระเริงแต่หารู้ไม่ว่าจะโดนโจโฉตัดคอในภายหลัง ฮ่าๆๆ

พอยึดเมืองเกงจิ๋วสำเร็จก็ไล่ตีเล่าปี่ต่อสิครับ เล่าปี่รู้ว่าโจโฉจะบุกมาก็เสียวตูดจึงปรึกษาขงเบ้งว่าจะทำยังไงดี ขงเบ้งแนะให้เล่าปี่หนีเข้าไปไกล้ดินแดนซุนกวนให้มากที่สุด ลากสงครามไปหาซุนกวน เล่าปี่ก็เห็นด้วยแถมยังเล่นบทพระเอกอีกรอบบอกขงเบ้งว่า "เราจะไม่ทอดทิ้งประชาชน เราจะเอาประชาชนไปด้วย" เอาแล้วไงเข้งเบ้งปวดหัวตื๊บอีกรอก = ='' แค่หนีธรรมดาก็ยังไม่รู้ว่าจะดีได้หรือปล่าว รอบนี้ต้องแบกประชาชนจำนวนมากเดินเท้าทั้กเด็ก ผู้หญิง คนแก่ เหมือนดั่งกับเอาเหล็กก้อนใหญ่ผูกขาตัวเองหนีเสือ เล่าปี่ทำประชานิยมซื้อใจประชาชน เออก็ดีนะแต่งานเข้าขงเบ้ง 555

ขงเบ้งต้องงัดอุบายถอยทัพสกัดเสืออย่างโจโฉให้เล่าปี่ได้เดินลากหินขึ้นภูเขา (เปรียบเปรย) ทั้งกลิ้งหิน ทั้งเผาทัพ ทั้งไขแม่น้ำท่วม ทหารโจโฉตายเป็นเบือ แต่ก็ช่วยได้ไม่นาน ทหารม้ากับคนเดินเท้าวิ่งไล่กันยังกะกระต่ายกับเต่า ในที่สุดก็หนีไม่ทัน เล่าปี่เห็นท่าไม่ดีกูหนีก่อนดีกว่า ประชาชนเอ้ยเอาคาถานี้ไป "อัตตาหิ อัตโนนาโถ"  ลูกเมียหนีไม่ทันเจอไล่ตามตีตามฆ่า จูล่งทหารหล่อของเล่าปี่โชว์แมน ไปตามหาลูกเมียของเล่าปี่แต่ก็สามารถช่วยได้แต่อาเต๊า(ลูกเล่าปี่) 

ทหารโจโฉเยอะเหลือเกิน แต่ยอดขุนพลจูล่งแห่งเสียงอีสาน เอ้ยเสียงสานต้องสร้างตำนานหน่อยซะแล้ว ลุยเดี่ยวฝ่าทัพของโจโฉ โจโฉเห็นฝีมือก็มีใจรักคนมีความสามารถอยากสะสมคนเก่งจึงประกาศให้ลูกน้องห้ามฆ่าจูล่งให้จับเป็น เอ้ยทำงั้นได้ยังไงหว่า - -'' จากนั้นทหารโจโฉตายเป็นเบือจูล่งหนีไปได้ ฮ่าๆ โจโฉน่าจะประกาศให้สังหารอาเต๊าแล้วเก็บจูล่งไว้นะ 555

ในที่สุดเล่าปี่ก็หนีไปยังเมืองกังแฮได้สำเร็จ เมืองกังแฮเป็นชายแดนที่ติดกับเมืองกังตั๋ง ซุนกวนบอกว่างานเข้ากูแล้ว ทำไมไม่หนีไปทางอื่นวะ ขงเบ้งคงขำนิดๆว่าซุนกวนมึงโดนแน่ๆ ไฟกำลังจะลามมาบ้านตัวเองซุนกวนก็กลัวขี้ขึ้นหัวเหมือนกัน แต่ไม่ได้ๆนะต้องรักษามาดไว้ก่อน ด้วยเลือดของลูกเสือเราจะยอมไม่ได้!! เหล่าที่ปรึกษาเห็นกราฟของทัพโจโฉถึงกับโอ้โห ยกทัพมาแบบนี้เอาเมืองกูไปเลยหล่ะกัน ที่ปรึกษาซุนกวนมีเยอะแต่ไร้ประสิทธิภาพ การสงครามไม่ได้เรื่อง ถ้ามีก็มีแต่จิวยี่และโลซก ทั้ง 2 สามารถเป็นเสาหลักผลักดันให้ซุนกวนบอกซุนกวนว่า "อย่ายอมแพ้เลย"

ซุนกวนได้ข่าวลือทำไมทหารโจโฉเยอะอย่างนี้ จึงส่งโลซกไปเป็น spy สืบข่าวทัพโจโฉ เข้าทางขงเบ้งเลย ขงเบ้งจึงเดือนทางไปเมืองกังตั๋งกับโลซก ใช้ลิ้นพญามารยุซุนกวนสู้โจโฉได้สำเร็จ :) 

ยิ่งพูดยิ่งมัน ขอพักไว้ก่อนเอาไว้ว่างๆค่อยๆ

#170 เกลี้ยกล่อมให้ยอม


หลังจากโจหยินและเคาทูแม่ทัพใหญ่ทั้ง 2 ซึ่งเป็นกองหน้าที่พ่ายแพ้กลับมา ยอมรับโทษกับโจโฉทุกประการ โจโฉเห็นว่าเป็นทหารเก่าที่เคยมีความชอบในอดีตก็เห็นใจ

โจโฉยิ่งโกรธเล่าปี่เป็นอันมาก โจโฉจึงรีบทัพใหญ่เข้าไปยึดเมืองซินเอี๋ยได้สำเร็จ ทางฝ่ายเล่าปี่นั้นหนีไปยังเมืองอ้วนเซียได้สำเร็จพร้อมทั้งอพยพประชาชนไปด้วย โจโฉก็ยิ่งโกรธหนักคิดว่าเล่าปี่นั้นใช้ประชาชนเป็นเกราะป้องกันตน


เล่าหัวให้ความเห็นว่าให้โจโฉอย่าพึ่งเข้าตี ควรสร้างความชอบธรรมเสียก่อน โดยส่งคนไปเกลี้ยกล่อมเล่าปี่ให้ยอมแพ้ หากเล่าปี่ไม่ยอมแพ้จึงเป็นความชอบธรรมที่ฝ่ายเราจะเข้าโจมตี

โจโฉจึงว่า ควรที่จะให้ใครไปเกลี้ยกล่อมเล่าปี่ เล่าปี่จึงว่าให้ชีซีดีที่สุด จริงอยู่ที่ชีซีชอบคอกับเล่าปี่ แต่ก็คงไม่หนีไปอยู่กับเล่าปี่แน่นอนเนื่องจากว่า ชีซีผู้นี้เป็นคนมีความกตัญญูรู้คุณมารดา โจโฉก็เห็นชอบด้วย จึงสั่งให้ชีซีเป็นทูตไปกล่อมเล่าปี่ให้ยอมแพ้


ชีซีเดินทางไปพบกับเล่าปี่ เล่าปี่ ขงเบ้งและชีซี ได้พบกันก็ดีใจทักทายกัน ชีซีจึงว่าเมืองอ้วนเซียนั้นเล็กไม่สามารถรับมือกับโจโฉได้จึงขอให้หาที่มั่นอื่นเสีย ชีซีนั้นได้เล่าความตื้นลึก หนาบางของกองทัพโจโฉให้เล่าปี่ฟัง โดยชีซีนั้นไม่ปริปากบอกให้เล่าปี่ยอมแพ้ตามคำสั่งของโจโฉเลย ซึ่งชีซีรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่ายังไงเล่าปี่ก็ไม่ยอมแพ้

จากนั้นชีซีจึงขอลากลับ เล่าปี่ชวนให้ชีซีอยู่ด้วย ชีซีจึงปฎิเสธไป พร้อมทั้งเล่าเหตุผลว่าต้องดูแลหลุมศพมารดา ว่าแล้วชีซีก็ลากลับไป

ก็นับเป็นว่านี่คือความสุดยอดของกุนซืออีกคนของโจโฉเช่นกันที่วิเคราะห์ชีซีได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

โจโฉรู้ข่าวว่าชีซีกลับมาพร้อมทั้งเล่าปี่ไม่ยอมแพ้ โจโฉก็โกรธสั่งทหารเตรียมพร้อมยกทัพไปยังเมืองอ้วนเซีย

หลังจากชีซีกลับไปเล่าปี่จึงปรึกษาขงเบ้งว่าอีกไม่นานโจโฉคงจะยกทัพมายังเมืองอ้วนเซีย ควรจะทำประการใด้ดี ขงเบ้งจึงว่าอันเมืองอ้วนเซียนั้น ทหารน้อย เสบียงน้อง ชัยภูมิไม่ดี ไม่สามารถรับศึกใหญ่ได้ ควรยกทัพไปยังเมืองซงหยง (เมืองหลวงแคว้นเกงจิ๋ว) เพราะเป็นหัวเมืองใหญ่

เล่าปี่เห็นด้วยและตัดสินใจพาประชาชนไปด้วย ในระหว่างการเดินทางก็แสนจะลำบากเล่าปี่เห็นประชาชนเดือนร้อน เล่าปี่ก็ร้องให้ คิดว่าตัวเองนั้นตัดสินใจผิด