Sunday, April 24, 2011

#28 ผู้ีถูกสาบแช่ง 10 ทิศ





หลังจากตั๋งโต๊ะเผาเมืองหลวงลกเอี๋ยงแล้วก็มาตั้งราชธานีใหม่ที่เมืองเตียงอัน ก็กำเริมความชั่ว ความโฉด ความโหด และ ความหื่น ออกมา ทำให้ตั๋งโต๊ะได้ฉายาว่า "ผู้ีถูกสาบแช่ง 10 ทิศ"

- ตั๋งโต๊ะตีคนเสมอพระเจ้าเหี้ยนเต้
- แต่งตั้งพักพวกเข้ามาครอบครองขุนนางในเมืองหลวง
- ริบเงินชาวบ้านมาสร้างเมืองหลวงและเข้ากระเป๋าตัวเอง
- ยึดเงินหลวงเข้ากระเป๋าตัวเอง
- คัดเลือกหญิงงานจากชาวบ้านเข้ามาบำเรอตน
- ใช้ราชโองการปลอมตามใจชอบ

ตั๋งโต๊ะแสดงอำนาจของตนโดยการตั้งเตาน้ำร้อนแล้วตัดแขนตัดขาตัดคอผู้คน เอามาลงต้มน้ำร้อนเพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู ขุนนางต่างๆจึงไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งแต่อย่างใด



ยิงคนชั่วครองเมืองแถมตั๋งโต๊ะยังมีทหารเอกอย่างลิโป้ซึ่งเป็นลูกบุญธรรมก็ยากที่จะล้มล้ายได้ ขุนต่างที่มีใจรักพระเจ้าเหี้ยนเต้ก็ได้แต่ทอดถอนใจกับการกระทำของตั๋งโต๊ะ ต่างคนต่างก็พยายามหาวิธีกำจัดตั๋งโต๊ะอย่างลับๆ


#27 สิ้นบุญเสือขาวแห่งกังตัง




ซุนเกี๋ยนนั้นมีบุตร 4 คนคือ ซุนเซ็ก ซุนกวน ซุนเสียง และ ซุนของ
ซุนเกี๋ยนนั้นเวลาไปทำสงครามที่ไหนก็จะให้ซุนเซ็กนั้นตามไปด้วย หวังว่าจะให้ซุนเซ็กมีประสบการณ์ในการรบ

ซุนเกี๋ยนนั้นได้ครองเมืองเตียงสาก็เริ่มเป็นใหญ่ในดินแดนนี้มีกองกำลังและทหารเพิ่มขึ้น จากความแค้นระหว่างตัวกับเล่าเปียวนั้นยังคงมีแต่ครั้งหนหลัง ซุนเกี๋ยนจึงตัดสินใจจะยกทัพไปตีเมืองเกงจิ๋วที่เล่าเปียวครองอยู่ทหารหลายคนคัดค้่านแต่ซุนเกี๋ยนก็ไม่ฟัง ซุนเซ็กได้ยินจึงขออาสาตามไปด้วย


ทางด้านเล่าเปียวเมื่อรู้ว่ากองทัำพเมืองเตียงสานั้นมารุกรานจึงสั่งให้ หองจอและชัวมอ ทหารเอกของตนออกรบ ทั้ง 2 กองทัพต่างก็เข้ารบการเป็นสามารถ แต่ของทัพของ หองจอและชัวมอ สู้รบกับเทียเทาและอุยกายไม่ได้ ทหารเมืองเกงจิ๋วนั้นจึงวางอุบายสุ้มทหารเกาทัณฑ์ไว้ข้างทางของซอกเขาแคบ ล่อให้ซุนเกี๋ยนเข้ามา ซุนเกี๋ยนนั้นเิดินทางผ่านไปซอกเขานั้นก็โดนเกาทัณฑ์เป็นจำนวนมากยิงเข้ามาหาตน ยากที่จะหลบหนีซุนเกี๋ยนโดนเกาทัณฑ์เป็นอันมากจนสิ้นชีวิตไปในที่สุด ซุนเกี๋ยน "เสือขาวแห่งกังตัง" ได้จบชีวิตที่ซอกเขาฮีสัน อาจเป็นอาถรรพ์ของตราหยกก็เป็นได้....


หลังจากซุนเกี๋ยนตายบารมีของซุนเกี๋ยนนั้นได้ตกทอดไปสู่ซุนเซ็กผู้เป็นบุตร ทหารต่างก็เคารพซุนเซ็กเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงทำนุเบารุงซุนเซ็กให้เป็นใหญ่สืบต่อไป ซุนเซ็กนั้นมีความกล้าหารไม่แพ้บิดาและยังมีสติปัญญาเป็นอันมาก ซุนเซ็กจึงสืบทอดเจตนารมผู้พ่อต่อไป

#26 เล่าปี่พบจูล่ง

VS
อ้วนเสี้ยวกับกองซุนจ้านได้ออกรบกัน อ้วนเสี้ยวนั้นส่งทหารเอก บุนทิว ไปจับตัวกองซุนจ้าน ส่วนกองซุนจ้านส่ง 4 ทหารเอกตนเข้ารบกับบุนทิว ผ่านไปแค่เพลงเดียว บุนทิวก็สังหารทหารเอกของกองซุนจ้านได้ 1 คนส่วน 3 คนที่เหลือกลัวจึงรีบหนีไป

บุนทิวได้โอกาสจึงเข้ารบกับกองทัพกองซุนจ้านทำให้ทหารของกองซุนจ้านตายเป็นอย่างมาก บุนทิวนั้นเป็นทหารที่มีฝีมือเป็นอย่างมากแม้ขนาดหลายคนรุมก็ยังสู้ไม่ได้ กองซุนจ้านเห็นท่าไม่ดีจึงรีบหนี บุนทิวจึงมุ่งเข้าไปเพื่อที่จะไปสังหารกองซุนจ้าน กองซุนจ้านขี่ม้าสะดุดก้อนหินล้มใจก็คิดว่าคงไม่มีชีวิตรอดกลับไป


บุนทิวเร่งม้าเอาทวงแทงกองซุนจ้าน ทันใดนั้นเอง บุรุษไร้นามคนนึงก็โผล่มาสกัดทวนของบุนทิวไว้ ทั้ง 2 สู้รบกันอย่างสูสี ไม่รู้แพ้รู้ชนะ บุนทิวนั้นกลัวเสียทีจึงถอยกลับไป

ชายหนุ่มที่มาช่วยกองซุนจ้านผู้นั้นมีหน้าผากและคิ้วใหญ่ ตาโต หน้าคม (หล่อ) ถือทวน มีรูปร่างกล้าหาญเป็นอย่างยิ่ง กองซุนจ้านถึงถามว่า ท่านผู้นี้ชื่ออะไร บุรุษผู้นั้นตอบไปว่า




ข้าชื่อ "จูล่ง" เป็นชาวเสียงสาน เดิมเป็นทหารยามสังกัดกองทัพของอ้วนเสี้ยว แต่อ้วนเสี้ยวนั้นไม่มีคุณธรรม บ้ายศ ข้าจึงหนีมาอยู่ป่า ผ่านมาทางนี้ก็เลยช่วยเอาไว้ กองซุนจ้านก็จึงชวนจูล่งไปทำราชการด้วย จูล่งก็รับคำ แต่กองซุนจ้านนั้นให้ จูล่ง ทำตำแหน่งกองระวังหลัง ดูแลเสบียง

วันต่อมาสงครามระหว่างกองซุนจ้านและอ้วนเสี้ยวก็เกิดอีกครั้ง โดยอ้วนเสี้ยวสั่งให้งันเหลียง และ บุนทิว ออกรบ ส่วนกองซุนจ้านก็ยังคงให้จูล่งเป็นทัพป้องกันเสบียงเช่นเคย -*-

งันเหลียงและบุนทิวเข้ารับกับทหารเอกของกองซุนจ้านแต่กองทัพกองซุนจ้านสู้ไม่ได้ถอยมาจนถึงกองหลัง จูล่งเห็นจึงควบม้าเข้าไปช่วย จู่ล่งขวบมาไปทางซ้ายทางซ้ายก็แตก ควบม้าไปทางขวาทางขวาก็แตก ไม่มีผู้ใดต้านทานได้ แต่ทหารของอ้วนเสี้ยวนั้นเยอะกว่าได้ล้อมจูล่งและกองซุนจ้านไว้

จูล่งเห็นได้ทีจึงรีบตีฝ่าออกมาแต่งันเหลียงและบุนทิวก็ไล่ตามตี ทันใดนั้นเอง กองทัพของ 3 พี่น้องสวนท้อ เล่าปี่ กวนอู เตียวหุยก็เข้ามาช่วย จนกองทัพอ้วนเสี้ยวถอยหนีกลับไป



กองซุนจ้านจึงขอบคุณเล่าปี่และแนะนำจูล่งให้กับเล่าปี่รู้จัก เล่าปี่ได้เห็นจูล่งก็รู้ว่าบุรุษผู้นี้นั้นเก่งกาจมากใคร่ได้ตัวมาไว้เป็นพวกของตัวเองแต่ติดตรงเป็นคนของเพื่อนตัวเองจึงไม่กล้าทำเช่นนั้น ตัวจูล่งเองก็เห็นเล่าปี่เป็นคนโอบอ้อมอารีใจก็อยากทำราชการเล่าปี่เช่นกัน

และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นบุญและวาสนาทำให้เล่าปี่และจู่ลงมาพบกัน....

วิเคราห์
นี่เป็นความแตกต่างกันระหว่างกองซุนจ้านและเล่าปี่ ถึงแม้จะเรียนมาจากสำนักเดียวกัน แต่วิสัยทัศน์การมองคนก็แต่กต่างกัน เล่าปี่มองจูล่งแค่แว๊บเดียวก็รู้แล้วว่าบุรุษผู้นี้เก่งกาจยิ่งนัก แต่กองซุนจ้านกลับไม่ไว้วางใจใช้คนเก่งอีกทั้งยังมอบงานที่ไม่สมกับฝีมือให้จูล่งทำเสียอีก..



#25 อ้วนเสี้ยวยึดเมืองกิจิ๋ว



ฮันฮกรู้ว่ากองซุนจ้านจะมีตีก็ตกใจ อีกทั้งรู้ว่า 3 พี่น้องสวนท้อนั้นได้ทำราชการอยู่กับกองซุนจ้าน อีกทั้งก่อนหน้านี้ได้เห็นฝีมือของ กวนอู มาแล้วก็เลยเกิดความกลัวประชุมหารือรับมือกัน สุดท้ายก็ต้องส่งหนังสือขอความช่วยเหลือจากอ้วนเสี้ยวเพราะคิดว่าตัวเองเคยมีคุณแก่อ้วนเสี้ยวมาก่อน

วิเคราะห์
นี่ก็เป็นการตัดสินใจผิดพลาดของฮันฮกที่ไม่รู้ใจคนอย่างอ้วนเสี้ยว อีกทั้งยังมีตัวอย่างให้เห็นแล้วตั้งแต่สมัยโฮจิ๋นเรียกตั๋งโต๊ะเข้าเมือง แล้วตั๋งโต๊ะก็ยึดเมือง คราวนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับคราวนั้น

หลังจากอ้วนเสี้ยวได้เข้ามาเมืองกิจิ๋วก็ได้ยึดอำนาจไว้ทั้งหมดสิ้น แต่งตัวพวกของตัวเองเป็นขุนนางแล้วถอดฮันฮกออกจากตำแหน่งเจ้าเมือง ฮันฮกเสียใจเป็นอย่างมากที่หลงเชื่อคนอย่างอ้วนเสี้ยว จากนั้นจึงหนีไปอยู่เมืองตันลิว ก็เป็นว่าอ้วนเสี้ยวนั้นใช้เวลาเพียง 1 วันยึดเมืองกิจิ๋วไว้เป็นของตัวเองโดยไม่เสียทหารซักคน



กองซุนจ้านเมื่อรู้ว่าอ้วนเสี้ยวเข้าไปยึดเมืองกิจิ๋วได้แล้วก็แปลกใจว่าอ้วนเสี้ยวนั้นทำไมถึงเข้าไปยึดก่อนตามที่ได้นัดหมายไว้ ใจนึงก็คิดว่าตัวเองเสียรู้ว่าเป็นเครื่องมือให้อ้วนเสี้ยว จึงตัดสินใจส่งจดหมายไปหาอ้วนเสี้ยวเพื่อทวงสินบนที่เคยให้ไว้ จึงส่งกองซุนอวดไปเมืองกิจิ๋ว แต่ก็ไม่สำเร็จแถมถูกอ้วนเสี้ยวใช้อุบายสังหารกองซุนอวดตายแล้วป้ายความผิดให้ตั๋งโต๊ะ

กองซุนจ้านเสียรู้ให้แก่อ้วนเสี้ยวก็เสียใจเป็นอย่างมากอีกทั้งกองซุนอวดที่เป็นน้องชายต้องมาตายเสียอีก ดังนั้นกองซุนจ้านจึงรวบรวมกำลังพลเพื่อที่จะไปตีอ้วนเสี้ยวเพื่อล้างแค้น แล้วนี่ก็เป็นสงครามระหว่างขุนพลอีกรอบที่มีสาเหตุมาจากอ้วนเสี้ยว



Saturday, April 23, 2011

#24 อ้วนเสี้ยววางแผนยึดกิจิ๋ว



ทางด้านฝ่ายอ้วนเสี้ยวนั้นก็ได้รวบรวมทหารเอาไว้เป็นอันมากอีกทั้งยังหาที่ปรึกษาอย่าง อองกี่ มาร่วมอีกด้วย ตอนนี้กองทัพของอ้วนเสี้ยวเริ่มที่จะเข้มเข็งขึ้น อ้วนเสี้ยวนั้นมีทหารเอกที่มีฝีมือดีอยู่ 2 คนคือ งันเหลียง และ บุนทิว ทั้ง 2 คนนี้ก็ถือว่าเป็นยอดทหารเอกแห่งยุคเช่นกัน (คาดว่าฝีมือคงสู้ลิโป้ไม่ได้)

กองทัพอ้วนเสี้ยวมีทั้งทหารฝ่ายบุ๋นและบู้ที่พร้อมรบ แต่กองทัพของอ้วนเสี้ยวนั้นใหญ่มาก อาศัยอยู่เมืองโห้ลายที่เป็นเมืองเล็กเสบียงไม่เพียงพอ ฮันฮกเจ้าเมืองกิจิ๋วเป็นคนมีน้ำใจจึงให้ทหารนำเสบียงไปให้แก่อ้วนเสี้ยว

*ทางตอนเหนือนั้นเมืองที่อุดมสมบูรณ์นั้นมีอยู่ 2 เมืองใหญ่ๆคือ เมืองกิจิ๋วที่มีฮันฮกเป็นเจ้าเมือง และเมืองปักเป๋งที่มีกองซุนจ้านเป็นเจ้าเมือง


อ้วนเสี้ยวนั้นได้รับความช่วยเหลือจากฮันฮกแทนที่จะสำนึกบุญคุณแต่กลับคิดจะชิงเมืองกิจิ๋วมาเป็นของตัวเอง ห้องกีที่ปรึกษาของอ้วนเสี้ยวได้เสนอว่า อ้วนเสี้ยวนั้นเปรียบเสมือนจรเข้ใหญ่ที่มาอยู่น้ำตื้น จะทำอะไรก็ขัดสน จึงออกอุบายให้อ้วนเสี้ยวได้ยึดเมืองกิจิ๋วไว้เป็นของตัวเอง

ห้องกีนั้นเสนออุบายโดยบอกให้อ้วนเสี้ยวส่งหนังสือและสินบนไปให้กองซุนจ้านที่เมืองปักเป๋ง ให้ยกทัพมาตีเมืองกิจิ๋วหากตีสำเร็จจะแบ่งเมืองและทรัพย์สินให้ครึ่งหนึ่ง

เมื่อเป็นแบบนั้นแล้วฮันฮกเจ้าเมืองกิจิ๋วก็คงขอร้องให้เรา(อ้วนเสี้ยว)ไปช่วยเป็นแน่แท้ หลังจากเรายกทัพไปช่วย เราก็ถือโอกาสยึดเมืองกิจิ๋วเสียเลย แต่ถ้าฮันฮกไม่ขอให้เราไปช่วยและจะต่อสู้กับกองซุนจ้านเพียงลำพัง เราจึงค่อยยกทัพตีขนาบด้านหลังก็คงยึดเมืองไว้ได้โดยง่าย

เมื่อกองซุนจ้านได้รับหนังสือจากอ้วนเสี้ยวแล้วก็เกิดความโลภอีกทั้งยังคิดว่าถ้าตนได้ครอบครองเมืองกิจิ๋วกับเมืองปักเป๋ง กองทัพของตัวเองก็จะขยายใหญ่ขึ้นและมีอำนาจมากขึ้น จึงรับทำตามข้อเสนอของอ้วนเสี้ยว

วิเคราะห์
การกระทำของอ้วนเสี้ยวครั้งนี้นอกจากจะไม่ตั้งหน้าตั้งตาต่อสู้ทรราชตั๋งโต๊ะแล้ว ยังก่อสงครามระหว่างขุนศึกอยู่เรื่อยๆ ทำให้ขุนศึกต้องบาดหมางกันทำให้แผ่นดินยิ่งเกิดจราจลมากขึ้น ถ้าหากอ้วนเสี้ยวตั้งหน้าตั้งตาเมื่อครั้งรวบรวมทัพ 18 หัวเมือง ก็ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้...


#จากใจเจ้าของ blog

ผ่านมาแล้ว 23 ตอน เขียนมาซะยาว ยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ผมชื่อนพครับ ชอบสามก๊กเป็นอย่างมาก อ่านด้วย ดูหนังด้วย เล่นเกมด้วย ว่างๆ add twitter มาคุยกันได้ @Losociety

จุดประสงค์
แรกเริ่มอยากจะเขียนสรุปให้ตัวเองกลับมาอ่านเล่นๆแบบย่อๆ โดยเอารูปจากเกม Romance of the three kingdoms ภาค 11 มาเป็นภาพประกอบ เนื่องจากว่า สามก๊ก นั้นตัวละครค่อนข้างเยอะ จำไม่ค่อยได้หรอก แต่ถ้าดูหน้าแล้วอาจจะจำได้ง่ายกว่าเดิม ก็เลยเอาภาพประกอบมาลงด้วย แถมผมยังแอบวิเคราะห์ในมุมมองของผมไว้อีกด้วย อันไหนรู้สึกขัดๆสามารถแชร์กันได้นะครับ ยินดีที่จะร่วมแชร์ ^ ^

ข้อแรกคือเอาไว้ทบทวนแบบย่อๆสำหรับคนที่เคยอ่านจบมาแล้ว

ข้อต่อมาคือเอาไว้ให้คนเริ่มหัดอ่านได้รู้เนื้อเรื่องคร่าวๆและผมแนะนำให้ไปอ่านฉบับที่สมบูรณ์ว่านี้อีกรอบ ถือซะว่าจุดประกายการอ่านสามก๊ก

ข้อสามเพื่อความสนุกแล้วความรักในสามก๊กของตัวผมเอง

ส่วนเนื่อเรื่องนี้ผมอ่านแล้วสรุปแบบย่อๆ มาจากหลายๆฉบับไม่ว่าจะเป็น สามก๊กฉบับพระยาพระคลัง (หน), สามก๊กฉบับคนขายชาติ, สามก๊กฉบับนักบริหาร เป็นตัน อ่านแล้วมาสรุปลงอีกที เนื้อหาอาจจะผิดเพี้ยนเพราะผมสรุปไม่ดีบ้างเล็กน้อยก็ขออภัยเป็นอย่างสูงนะครับ (-/\-)

ช่วงแรกๆผมมี copy มาบ้างทำให้ภาษาอาจจะงงๆ ช่วงหลังๆผมเขียนเองอาจจะยิ่งงงกว่าเดิม เขียนผิดบ้างถูกบ้างก็ขออภัยมือใหม่หัดเขียน

สุดท้ายนี้ก็หวังว่าจะให้ความสนุกเพลิดเพลินกับการอ่าน ขอบพระคุณที่คนที่เข้ามาอ่านเป็นอย่างยิ่ง ขอบคุณครับ (-/\-)

Friday, April 22, 2011

#23 เล่าเปียวรบกับซุนเกี๋ยน



หลังจากต่างคนต่างแยกทาง กองซุนจ้านก็กลับไปยังเมืองปักเป๋ง เล่าปี่ก็กลับไปครองเมืองเพ็งงวนก๋วน
ทางด้านโจโฉหลังจากแยกจากอ้วนเสี้ยวแล้วก็คิดการใหญ่ต่อไปจึงมาอยู่เหมืองเอ๊งจิ๋ว
ซุนเกี๋ยนก็ไปคีองเมืองเตียงสาเพื่อจะคิดตั้งตัวเป็นใหญ่เช่นกัน




อ้วนเสี้ยวนั้นยังไม่หายแค้นซุนเกี๋ยนอีกทั้งด้วยความโลภของตัวเองที่ต้องการยึดครองตราหยก จึงเริ่มคิดแผนการชั่ว จึงส่งหนังสือไปให้เล่าเปียวที่เกงจิ๋ว ให้ไปตีซุนเกี๋ยวโดยอ้างว่าจะเอาตราหยกคืนแก่พระเจ้าเหี้ยนเต้ เล่าเปียวจึงตกลงทำตามจึงยกทัพไปตีซุนเกี๋ยน ทางด้านซุนเกี๋ยนโดนทัำพของเล่าเปียวล้อมแทบจะเอาตัวไม่รอดทันใดนั้น 3 ทหารเสือของซุนเกี๋๋ยนที่มี เทียเภา อุยกาย ฮันต๋ง ได้ช่วยซุนเกี๋ยนออกจากวงล้อมได้แล้วเดินทางหนีกลับเมืองเตียงสาอีกทั้งยังเสียทหารเป็นอันมาก ส่วนทางด้านกองทัพของเล่าเปียวได้ัรับชัยชนะ แต่ก็ไม่สามารถนำตราหยกกลับมาได้



VS


หลังจากซุนเกี๋ยนตีผ่าวงล้อมกลับเมืองเตียงสาได้สำเร็จก็คิดจะตั้งตัวขึ้นเป็นเจ้า อีกทั้งยังประกาศรับสมัครผู้มีสติปัญญาความสามารถเข้าร่วมกองทัพ สุ้มกำลังทหารและกองทัพเรือ

ทางด้านเล่าเปียวเมื่อรู้ว่าซุนเกี๋ยนสุ้มกำลังเตรียมรบ เล่าเปียวก็เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อตนเองจึงเร่งสุ้มทหารและกองทัพเรือเช่นกัน

ความสัมพันธ์ระหว่างเมืองเตียงสาของซุนเกี๋ยนและเมืองเกงจิ๋วของเล่าเปียว พร้อมที่จะทำสงครามกันได้ทุกเมื่อต่างคนต่างระวังและคุมเชิงของอีกฝ่าย


วิเคราะห์
และนี่ก็เป็นสงครามแรกระหว่างขุนพลและขุนพล แทนที่อ้วนเสี้ยวจะร่วมกำจัดทรราชตั๋งโต๊ะแต่กลับก่อสงครามระหว่างขุนพลเกิดขึ้นเสียอีกและทำให้บ้านเมืองยิ่งเกิดความวุ่นวายทำให้ขุนศึกในแผ่นดินเริ่มบาดหมางต่อกัน






Thursday, April 21, 2011

#22 ตั๋งโต๊ะย้ายเมืองหลวง





ตั๋งโต๊ะเสียขวัญเป็นอย่างมากที่เสียฮัวหยงและักองทัพลิโป้ยังพ่ายแพ้่อีกด้วย จึงปรึกษากับกุนซือลิยูว่าจะทำประการใดต่อไป ลิยูจึงบอกว่าขณะนี้กองทัพเราเสียขวัญจึงขอให้ตั๋งโต๊ะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เมือง เตียงอัน ตั๋งโต๊ะได้ยินได้ฟังก็จึงเห็นด้วย

หลังจากนั้นตั๋งโต๊ะก็ได้เชิญพระเจ้าเหี้ยนเต้ออกไปตั้งราชธานีใหม่ที่เมืองเตียงอัน ริบทรัพของเศษฐีเพื่อเอาไปเป็นทุนในการก่อสร้างเมืองใหม่ ประหารคนสกุล อ้วน ที่อาศัยอยู่เมืองหลวงทั้งหมด อพยพผู้คนในเมืองหลวงไปยังเมืองเตียงอัีนทั้งหมดใครขวางทางถูกฆ่าทิ้ง แล้วยังขุนศพของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ทั้งหลายที่ฝังในเมืองหลวง ย้ายไปเมืองเตียงอันเสียสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินที่ฝั่งอยู่ก็ยังริบเอามาเป็นของตัวเอง ฉุดหญิงสาวมาบำเรอตัวเอง ใครเจ็บป่วยระหว่างทางก็ถูกฆ่าทิ้งเสียหมด อีกทั้งยังเผาเมืองหลวงให้วอดวาย


วิเคราะห์
การออกอุบายย้ายเมืองหลวงนั้น เป็นอุบายที่เหลวไหลเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นว่า ลิยูกับตั๋โต๊ะนั้น ขี้ขลาด การต่อสู้พึ่งเริ่มก็กลัวเสียแล้ว ทั้งๆที่กองทัพ 18 หัวเมืองนั้น ยิ่งไร้น้ำยาด้วยการนำทัพของอ้วนเสี้ยว เมื่อเทียบกับสติปัญญาของลิยูแล้วลิยูเหนือกว่าอ้วนเสี้ยวเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่คิดไม่ฝันว่าลิยูจะออกอุบายแบบไร้สติปัญญาเช่นนี้




ซุนเกี๋ยนนั้นได้เข้าไปยังราชวังเดิมเห็นแสงพุ่งไปยังท้อฟ้าจึงสั่งให้ทหารไปดู ทหารเห็นแสงนั้นอยู่บริเวณแม่น้ำจึงลงไปดูได้พบกับตราหยกเป็นดวงคราพระลัญจกร จึงคิดว่านี่คงเป็นวาสนาของตัวเองที่จะได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน อำนาจและความโลภจึงครอบงำซุนเกี๋ยนเสียทั้งหมด

อ้วนเสี้ยวนั้นจับได้ว่าซุนเกี๋ยนนั้นมีตราหยกจึงเรียกซุนเกี๋ยนเข้ามาคุย แต่ซุนเกี๋ยนก็ปฎิเสธเสียงแข็ง พร้อมยังสาบาณว่าถ้าโกหกขอให้มีอันเป็นไป แต่อ้วนเสี้ยวก็ไม่เชื่อ ทั้งคู่ขัดเย้งกันขั้นรุนแรง ซุนเกี๋ยนจึงรีบหนีออกจากทัพ 18 หัวเมือง



ทางฝ่ายด้านโจโฉเมื่อรู้ว่าตั๋งโต๊ะหนี จึงเสนอให้อ้วนเสี้ยวถือโอกาสไล่ตามตีจึงจะได้ชัย แต่อ้วนเสี้ยวไม่เห็นด้วย โจโฉโกรธมากจึงด่าอ้วนเสี้ยวแล้วก็อาสาไปไล่ตีตั๋งโต๊ะแทน แต่ก็เสียทีกลับมา จากนั้นก็แยกทางกับอ้วนเสี้ยวณ.บัดนั้น....


ทางด้านเล่าปี่ กองซุนจ้านก็เห็นท่าไม่ดีจึงขอตัวกลับเมืองด้วยเหมือนกันและแล้วกอง 18 หัวเมืองก็แตกแยกเป็นเสี่ยงๆ เป็นก๊กๆ และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของสามก๊ก ขุนพลต่างฝ่ายต่างก็แย่งชิงกันเป็นใหญ่และจะยิ่งเข้มข้นมากกว่าเดิมขึ้นเรื่อยๆ




Tuesday, April 19, 2011

#21 แย่งชิงอำนาจ







ซุนเกี๋ยนนั้นได้อาสาเป็นกองทัพหน้าออกรบกับกองทัพเมืองหลวง ซุนเกี๋ยนนั้นเป็นคนที่มีฝีืมือและกล้าหาญจึงชอบอาสาในการสู้ศึกต่างๆ กองทัพซุนเกี๋ยนในตอนนั้นมีทหารเอกอยู่ 3 คนคือ เทียเภา ฮันต๋ง อุยกาย ทั้ง 3 นั้นเป็นทหารที่มีฝีืมือเป็นอย่างมาก ซุนเกี๋ยนนั้นรบกับกองทัำพเมืองหลวงหลายต่อหลายครั้งจนไกล้ที่จะยึดเมืองหลวงได้แล้ว แต่ติดปัญหาเรื่องเสบียงไกล้จะหมด จึงให้ทหารส่งจดหมายไปใ้ห้อ้วนสุด ที่เป็นคนดูแลเสบียงทั้งหมด แต่อ้วนสุดไม่ยอมส่งเสบียงให้และคบคิดกับอ้วนเสี้ยวเพื่อไม่ต้องการให้ซุนเกี๋ยนชนะศึก เพราะกลัวว่าซุนเกี๋ยนจะกุมอำนาจเมืองหลวงทั้งหมดเช่นเดียวกับตั๋งโต๊ะ อ้วนเสี้ยว อ้วนสุด นั้นต้องการที่จะยึดครองทั้งหมดเป็นของสกุลอ้วน



กองทัพ 18 หัวเมืองนั้นก็ไม่เปิดศึกอย่างจริงๆจังๆเสียที ต่างคนต่างเห็นแก่ตัว มาด้วยผลประโยชน์ทั้งสิ้น กองทัพเยอะก็เป็นเหมือนกองทัพน้อย มีการขัดแย้งภายในอีกด้วย นี้ก็คือเคล้าลางแห่งความปราชัยของกองทัพ 18 หัวเมือง





Sunday, April 10, 2011

#20 สามพี่น้องสวนท้อสู้กับลิโป้

หลังจากที่กวนอู อาสาไปตัดหัว ฮัวหยง เตียวหุยน้องเล็กแห่งสวนท้อของเล่าปี่ก็ต้องการทำผลงานบ้าง จึงขออาสาไปจับตั๋งโต๊ัััะมา อ้วนสุด(น้องอ้วนเสี้ยว) จึงตะหวาดด่าเตียวหุยว่า เป็นทหารต่ำไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง บักอาจมาอาสา จากนั้นจึงไล่เตียวหุยออกไป โจโฉเห็นเหตุการณ์มาตลอดจึงเข้ามาห้ามแล้วจึงพูดว่า ในสงครามแบบนี้ไม่ควรถือยศถือศักดิ์ ใครเก่งกล้ามีความสามารถเราควรจะผลักดันจึงจะถูก แต่อ้วนสุดนั้นงอแงบอกว่า ถ้าเห็นแก่ทหารเลวพวกนี้ตนเองก็ไม่ขออยู่ร่วมกองทัพต่อไป





โจโฉเห็นท่าไม่ดีเดี๋ยวจะเสียการใหญ่จึงบอกกองซุนจ้านให้นำตัว 3 พี่น้องสวนท้อออกไปก่อน เตียหุยฮึกฮัด ด่าอ้วนสุดไปจนสุดทาง ภายหลังจากนั้นโจโฉจึงแอบไปเลียงส่ง 3 พี่น้องสวนท้อเป็นการผูกใจไว้อีกชั้น อีกทั้งยังเ่อ่ยปากชวนเล่าปี่มาทำการด้วย แต่เล่าปี่นั้นปฎิเสธบอกว่าหากยังเข้าร่วมกับโจโฉเดี๋ยวกองทัพ 18 หัวเมืองจะว่าเอา เพราะพึ่งถูกไล่มาเมื่อกี้ โจโฉก็เสียดายเป็นอย่างยิ่ง

วิเคราะห์
โจโฉนั้นเป็นผู้นำที่ไม่ถือยศถือศักดิ์ มองฝีมือเป็นหลักใครทำดีก็สนับสนุน ใึคร่รักคนเก่งต้องการเอามาเป็นพวกด้วย จึงทำการผูกใจไว้และชักชนมาเป็นพวก เพราะโจโฉก็คงรู้ว่าในอนาคตนั้น เล่าปี่คงเป็นคู่แข่งคนสำคัญของตัวเองในภายภาคหน้า
ส่วนเล่าปี่จากสาเหตุที่ไม่ยอมเข้าร่วมกับโจโฉ เล่าปี่เองคงไม่อยากเป็นเบี้ยล่างใคร เล่าปี่เองก็คงจะรู้ว่าโจโฉนั้นเป็นคู่แข่งคนสำคัญของตัวเองในภายภาคหน้าเช่นกัน

VS
หลังจากฮัวหยงตาย ตั๋งโต๊ะโกรธมากจึงสั่งให้ลิโป้เป็นแม่ทัพใหญ่ออกรบ ส่วนกองทัพ 18 หัวเมืองรู้ว่าลิโป้ซึ่งมีฝีืมือเก่งกว่าฮัวหยงหลายเท่า มารบด้วยตัวเองจึงกลัวไม่มีใครกล้าออกไปสู้รบด้วย ทันใดนั้นเอง เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย จึงควบม้า ออกไปรบกับลิโป้ การรบครั้งนี้เป็นการรุม 3 ต่อ 1 ลิโป้เองจึงไม่อาจสู้ฝีมือ 3 พี่น้องได้จึงรีบถอยทัพกลับไป