Saturday, September 15, 2012

#169 ยุทธวิธีการถอยทัพฉบับขงเบ้ง







ขงเบ้งได้เสนอให้เล่าปี่นั้นย้ายเมือง ไปอยู่ในจุดที่พอสู้ได้ ซึ่งการสงครามของขงเบ้งนั้น จะไม่สู้หากสู้ไม่ได้ และยอมถอยเพื่อไปตั้งหลัก นักรบหลายคนบางครั้งอาจจะคิดแบบวัวชน สู้ตาย แต่คนอย่างขงเบ้งไม่สู้ตายเป็นอันขาด

ขงเบ้งนั้นได้คิดยุทธวิธีในการทำลายล้างกองทัพของโจโฉได้ ถึงแม้นว่าจะไม่สามารถชนะได้แต่ก็ได้ตัดกำลังของโจโฉส่วนหนึ่ง งานของขงเบ้งครั้งนี้ค่อนข้างหนักเนื่องจากว่า

1.ต้องพาเล่าปี่ถอยหนีอย่างปลอดภัย และไม่ใช้การถอยแบบธรรมดา เป็นการถอยแบบ แบกประชาชนใส่หลังไปด้วย
2.หาที่มั่นเพื่อตั้งรับ
3.ทำลายกองทัพของโจโฉบางส่วน

งานค่อนข้างยากเพราะว่าทหารของเล่าปี่เองก็ไม่ได้มีมากนัก หากถอยหนีแบบธรรมดา ก็คงเสียชื่อผู้บัญชาการทัพระดับขงเบ้ง ฮกหลง พญามังกรหลับ ขงเบ้งจึงกำหนดยุทธศาสตร์การสงครามครั้งนี้ได้ว่า


1.ให้เล่าฮองและบิฮอง นำทหารสุ้มในป่า ให้ยกทัพวิ่งสลับซ้ายขวา ให้ฝุ่นตะหลบดูเหมือนว่ามีไพร่พลเยอะ ให้ถ่วงเวลาไว้จนถึงค่ำ จึงปล่อยให้โจโฉเข้าเมือง


2.ให้จูล่งเอาดินปะสิว พร้อมเชื้อไฟไปสาดไว้ที่หลังคาของชาวบ้านที่อพยพหนีไปแล้ว จากนั้นซุ่มทหารไว้รอบเมืองซินเอี๋ยทั้ง 3 ด้าน ปล่อยให้หนีไปด้านเดียวคือทางไปแม่น้ำแปะโห พอกองทัพของโจโฉยกเข้าเมืองแล้ว ช่วงเวลาค่ำคืนทหารของโจโฉพักผ่อน ให้จุดธนูเพลิงพร้อมทั้งเผาเมืองซินเอี๋ย ให้ดินประสิวระเบิด หลังจากนั้นให้ไปสมทบกับกองทัพของเตียวหุย ไล่ตีกองทัพโจโฉ


3.ให้กวนอูยกพลไปที่แม่น้ำแปะโห เอาดินถมทำเป็นเขื่อนกั้นน้ำไว้ หากเห็นทหารของโจโฉแตกทัพมาเมื่อไหร่ ให้ปล่อยน้ำให้ท่วมทหารของโจโฉ พร้อมทั้งไล่ตีอย่าให้เหลือ


4.ให้เตียวหุยยกพลไปสุ้มแถวแม่น้ำแปะโห หากได้ยินเสียงของทหารของโจโฉน้ำท่วมแล้ว ให้เข้าไปตีกระหนาบพร้อมกับกวนอู


พอขงเบ้งรับสั่งแผนการณ์เสร็จ ขงเบ้งจึงชวนเล่าปี่ไปนั่งกินโต๊ะที่เชิงเขา คอยสังเกตุการณ์

ทางด้านกองทัพโจโฉนั้น มีเคาทูเป็นกองหน้า ยกทัพมาพบกับเล่าฮอง เล่าฮองจึงทำตามแผนขงเบ้ง เคาทูเห็นดังนั้นจึงไม่กล้าเข้าไป จากนั้นก็รอกองสมทบของโจหยิน ทั้ง 2 รอดูสถานการณ์จนค่ำไม่เห็นเกิดอะไรขึ้น จึงยกทัพเข้าไปดูก็ไม่พบอะไร เห็นว่ามันค่ำแล้วจึงยกพลเข้าเมืองซินเอี๋ย ตามแผนที่ 1 ของขงเบ้ง


โจหยินและเคาทูเข้ายืดเมืองได้ก็สั่งให้ทหารพักผ่อน ต่อมาไม่นานก็ได้ยินเสียงคลื้นเคลง เห็นเล่าปี่และขงเบ้งนั่งกินเหล้ากันที่เชิงเขาอย่างสนุกสนาน เคาทูจึงยกทัพไปยังจุดที่ขงเบ้งอยู่ เคาทูพาทหารกำลังขึ้นเขา จากนั้นขงเบ้งจึงสั่งให้ทหารกลิ้นหินลงมา ทับกองทัพของเคาทูล้มตายเป็นอันมาก เคาทูเห็นเสียทีจึงถอยทัพหนีกลับเมือง


อุบายนี้ขงเบ้งเบนความสนใจไม่ให้โจหยินและเคาทูตรวจสอบดินปะสิวที่หลังคานั่นเอง ต่อมาจูล่งก็ทำตามแผนยิงธนูเพลิงเผาเมือง ดินปะสิวแตกระเบิดทำให้ทหารของโจหยินและเคาทูล้มตายเป็นอันมาก ทั้ง 2 พยายามตีฝาแต่โดนล้ม พอทหารหนีไปยังลุ่มแม่น้ำแปะโหได้


พอถึงลุ่มแม่น้ำแปะโหไปพบกับกวนอูซึ่งรออยู่ก่อนหน้านี้ กวนอูจึงปล่อยน้ำไหลท่วมทหารของโจหยินและเคาทูตายเป็นอันมาก จากนั้นกวนอูก็ไกล่ตีไปเรื่อยๆ ทางด้านเตียวหุยได้ยินเสียงตามที่ขงเบ้งให้ไว้ จึงยกทัพไปตีกระหนาบและมีจูล่งมาสมทบอีกแรง งานนี้โจหยินและเคาทูโดนโจมตีอย่างหนักหน่วงเสียทหารเป็นจำนวนมาก ต้องพ่ายแพ้แบบยับเยิน กลับไปหาโจโฉรายงานความให้โจโฉได้ฟังทุกประการ

และนี่ก็เป็นสุดยอดแผนของยอดกุนซือฮกหลง ขงเบ้ง พญามังกรหลับแห่งเทือกเขาโงลังกั๋ง



#168 เล่าเปียวสิ้นบุญ เล่าปี่สละเมืองซินเอี๋ย




โจโฉได้สั่งซุนฮกรักษาเมืองหลวงให้และให้ทำหน้าที่จัดส่งเสบียงแก่กองทัพกำหนดเป้าหมายให้กองทัพหน้าเข้าตีเมืองซินเอี๋ยเพื่อปราบเล่าปี่ ทางฝ่ายเมืองเกงจิ๋ว อาการป่วยของเล่าเปียวมีอาการป่วยไกล้ที่จะตายแล้ว เล่าเปียวคิดว่าลูกทั้ง 2 ของตนคงไม่มีปัญญารักษาเมือง เล่าเปียวจึงเรียกตัวเล่าปี่เข้ามาพบ

เล่าปี่ทราบความแล้วก็ตกใจ จึงปรึกษากับขงเบ้งว่าบัดนี้เล่าเปียวป่วยหนักควรที่จะคิดอ่านประการใด ขงเบ้งจึงแนะนำว่า เล่าเปียวเรียกท่านไปทั้งนี้คงต้องการยกเมืองเกงจิ๋วให้แก่ท่าน จงรับเอาเมืองเกงจิ๋วเสีย มิฉะนั้นจะไม่สามารถต้านทัพรับมือโจโฉได้

จากนั้นเล่าปี่จึงไปพบกับเล่าเปียว เล่าเปียวจึงยกเมืองเกงจิ๋วให้แก่เล่าปี่ตามที่ขงเบ้งคาดการณ์ไว้ แต่เล่าปี่ไม่กล้ารับเพราะไม่ต้องการชิงเมืองจากคนแซ่เดียวกัน จากนั้นไม่นานเล่าเปียวก็ถึงแก่กรรม


ชัวมอและแม่นางชัวฮูหยินจึงแต่ตั้ง เล่าจ๋อง ซึ่งเป็นบุตรของแม่นางชัวฮูหยิน ขึ้นเป็นเจ้าเมือง ซึ่งเล่าจ๋องนั้นมีอายุเพียง 14 ปี  ถ้าเป็นตามธรรมเนียมแล้วก็ควรที่จะให้เล่ากี๋ แต่เล่ากี๋เกรงภัยจึงต้องหลีไปลี้ภัยที่เมืองกังแฮ




หลังจากที่ชัวมอยึดอำนาจเมืองเกงจิ๋วแต่งตั้งเล่าจ๋องแล้ว จากนั้นก็เล็งเป้าหมายไปที่ เล่าปี่และเล่ากี๋ แทนที่จะสามัคคีกันสู้กับโจโฉ แต่ต้องมาสู้กันเองซะงั้น แถวไม่วางแผนการรบสู้กับโจโฉด้วย

โจโฉยกทัพเข้ามาไกล้จะถึงแล้วก็ทำให้เล่าจ๋องหวั่น จึงเรียกขุนนางมาประชุม เหล่าขุนนางกลัวตายจึงเสนอให้เล่าจ๋องยอมแพ้โจโฉ จึงสั่งให้ชัวต๋งนำหนังสือยอมแพ้ไปให้แก่โจโฉ

โจโฉรู้ความดังนั้นก็ยินดีและให้ชัวต๋งกลับไป ซึ่งระหว่างทางนั้นกวนอูได้จับตัวชัวต๋งมาสืบสวนก็รู้ความว่า เล่าเปียวตาย ชัวมอแต่งตั้งเล่าจ๋องเป็นเจ้าเมือง แถมยังส่งหนังสือยกเมืองให้แก่โจโฉเสียอีก กวนอูจึงรีบไปแจ้งเล่าปี่ เล่าปี่รู้ข่าวเล่าเปียวก็ร้องไห้


เอียเจี้ยขุนนางเก่าเมืองเกงจิ๋ว ที่ชอบคอเล่าปี่เป็นทุนเดิมก็เสนอให้เล่าปี่ยิงเมืองเกงจิ๋วจากชัวมอ แต่เล่าปี่ก็มิฟังความ เล่าปี่ไม่ต้องการชิงเมืองเกงจิ๋วและรู้ั้งรู้ว่าเมืองซินเอี๋ยไม่มีทางรับมือโจโฉได้ เล่าปี่จึงเลือกทางหนีสละเมืองซินเอี๋ยและอพยพประชาชนด้วย


จากนั้นเล่าปี่จึงปรึกษาขงเบ้งต่อไปว่าท่านจะวางแผนคิดอ่านรับมือกับกองทัพโจโฉครั้งนี้ประการใด 

ขงเบ้งจึงว่า "เมื่อท่านตัดสินใจดังนี้ ข้าพเจ้าก็มีแต่ต้องคล้อยตามการตัดสินใจของท่าน แต่วันหนึ่งท่านจะได้สำนึกถึงผลของการตัดสินใจครั้งนี้"

ขงเบ้งพยายามจะแอบตำหนิเล่าปี่นิดๆ เพื่อให้เล่าปี่รู้สำนึก จากนั้นขงเบ้งจึงกล่าวต่อไปว่า

ขงเบ้ง "กองทัพโจโฉยกมาครั้งนี้ท่านอย่าได้ปรารมภ์เลย ข้าพเจ้าจะคิดอ่านผันผ่อนรับมือกับกองทัพของโจโฉเอง เมื่อครั้งศึกทุ่งพกบ๋องข้าพเจ้าได้ใช้คบเพลิงไม่กี่อันก็ล้างผลาญกองทัพแฮหัวตุ้นจนหมดสิ้น แต่ทว่าจำเป็นที่จะต้องรีบเคลื่อนย้ายกองทัพและราษฎรไปเมืองอ้วนเซียเป็นการด่วน"

จากนั้นขงเบ้งและเล่าปี่จึงประกาศว่า "กองทัพโจโฉยกมาครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก หากตั้งรับอยู่ที่เมืองซินเอี๋ยจักเป็นอันตราย จำจะต้องถอยไปอยู่ที่เมืองอ้วนเซีย หากผู้ใดเต็มใจที่จะติดตามท่านไปก็ให้เตรียมตัวข้าวของสิ่งสินและพร้อมอพยพไปพร้อมกัน"

เล่าปี่และขงเบ้งพยายามสร้างความชอบธรรม ไม่ทิ่งประชาชน แต่ก็แอบกั้กๆโยนการตัดสินใจให้ประชาชนว่า ใครอยากไปก็ไป หากไปแล้วลำบากนั้นก็คือการตัดสินใจของประชาชนเอง