Monday, September 26, 2011

#81 โจโฉยึดเมืองชีจิ๋วและเมืองเสียวพ่าย







 เล่าปี่ได้เข้าไปพบโจโฉ จึงรายงานการศึกทั้งปวงให้โจโฉทราบแล้วว่า บัดนี้เมืองเสียวพ่ายเสียแก่ศัตรูแล้ว กวนอู เตียวหุย น้องร่วมสาบานของข้าพเจ้าก็มิรู้ว่าพลัดพรากเป็นตายประการใด แม้กระทั่งครอบครัว บุตรภรรยาและสมัครพรรคพวกจะเป็นตายร้ายดีประการใดก็ไม่แจ้ง ว่าแล้วเล่าปี่ก็ร้องไห้   โจโฉเห็นเล่าปี่ร้องไห้ก็แสร้งร้องไห้ทำทีเป็นสงสารเล่าปี่ตามไปด้วย





จากนั้นโจโฉยกกองทัพไปสบทบ แฮหัวเอี๋ยน ลิเตียน และลิยอย โจโฉครั้นทราบความจึงเข้าไปเยี่ยมแฮหัวตุ้น ซึ่งบัดนี้ป่วยหนัก แฮหัวตุ้นเมื่อรู้สึกตัวว่าโจโฉมาเยี่ยมก็ดีใจ โจโฉจึงสั่งทหารให้พาแฮหัวตุ้นกลับไปรักษาที่เมืองหลวง



ตันก๋ง และจงป้าได้เกลี้ยกล่อมสี่นายโจรเข้าเป็นพวกแล้วยกไปตีหัวเมืองตะวันออก โจโฉได้สั่งให้โจหยินคุมทหารสามพันยกไปตีเมืองเสียวพ่าย ตัวโจโฉพาเล่าปี่และทหารทั้งปวงยกตามลิโป้ไปทางด้านหัวเมืองตะวันออก



โจโฉสั่งให้เคาทูนำทหารออกรบด้วยกองทหารของนายโจรทั้งสี่ ทั้งสองฝ่ายรบกันตั้งแต่เช้าจนเที่ยง กองทัพของนายโจรทั้งสี่ก็เหนื่อยจึงแตกทัพกลับมาหาลิโป้



ลิโป้รู้ข่าวจึงรีบจัดแจงทัพ ขณะที่ลิโป้เตรียมการจัดแจงทหารอยู่นั้น ตันเต๋งได้เข้าไปปรึกษากับตันกุ๋ยผู้บิดาว่า การที่โจโฉยกกองทัพใหญ่มาครั้งนี้เห็นว่าลิโป้คงจะเสียทีแก่โจโฉแน่ เราสองพ่อลูกได้รับอาสาโจโฉทำการเป็นไส้ศึกอยู่ที่เมืองชีจิ๋ว บัดนี้โอกาสทำการมาถึงแล้ว เพราะบิดาท่านได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รักษาเมืองชีจิ๋ว เท่ากับเมืองชีจิ๋วใกล้ตกอยู่กับมือเราแล้ว ข้าพเจ้าจะตามไปในกองทัพของลิโป้ คิดอ่านให้ลิโป้เสียทีแก่โจโฉจงได้ และเมื่อนั้นลิโป้คงจะต้องยกทหารกลับมาเมืองชีจิ๋ว ขอให้บิดาท่านกับบิต๊กรักษาเมืองชีจิ๋วไว้อย่าให้ลิโป้กลับเข้าเมืองได้

แต่แล้วลิโป้ก็เสียรู้แก่ความคิดของสองพี่ลูกตันเต๋งและตันกุ๋ย ตันเต๋งและตันกุ๋ยสองพ่อลูกถูกโจโฉใช้ให้เป็นไส้ศึกอยู่ในเมืองชีจิ๋ว ได้บิดเบือนข้อมูลข่าวสาร สร้างความสับสนและเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นในกองทัพของลิโป้ จนลิโป้ต้องเสียด่านและเสียทั้งเมืองชีจิ๋วให้แก่โจโฉอย่างง่ายดาย

ทางด้านเมืองเสียวพ่ายตันเต๋งก็วางแผนยึดเมืองโดยออกอุบายให้โกสุ้นและเตียวเลี้ยวยกทัพออกมา แล้วจากนั้นก็มอบเมืองให้แก่โจหยิน ลิโป้รู้ว่าเสียเมืองเสียวพ่ายแล้วก็โกรธ 2 พ่อลูกตังเต๋งและตันกุ๋ยยิ่งนัก

ลิโป้เสียเมืองชีจิ๋ว เสียด่านเสียวก๋วน จึงหวังจะมาตั้งหลักที่เมืองเสียวพ่ายทำการศึกกับโจโฉ แต่ครั้นต้องเสียเมืองเสียวพ่ายไปอีกเมืองหนึ่งและเห็นว่าเมืองเสียวพ่ายเป็นเมืองเล็ก ทหารโจโฉอยู่รักษาเมืองไม่มากนัก จึงคิดจะยึดเมืองเสียวพ่าย ดังนั้นลิโป้จึงสั่งทหารให้เคลื่อนทัพไปที่เมืองเสียวพ่าย

ครั้นลิโป้เข้าไปใกล้กำแพงเมืองเห็นตันเต๋งยืนอยู่บนเชิงเทิน ลิโป้จึงร้องด่าตันเต๋งว่าทั้งตันกุ๋ยและตันเต๋งสองพ่อลูกเป็นคนเนรคุณ สู้อุตส่าห์อุปถัมภ์ค้ำชูเลี้ยงดูอย่างเต็มที่ แต่กลับมาทรยศหักหลัง

ตันเต๋งได้ยินลิโป้ด่าว่าเช่นนั้นจึงลำเลิกบุญคุณเอากับลิโป้ว่า ตัวท่านนี้เจรจาหามีความละอายต่อฟ้าดินไม่ เพราะตัวเรานั้นไม่ใช่ข้าของท่าน หากเป็นข้าในแผ่นดินพระเจ้าเหี้ยนเต้ เราสิกลับทำคุณไว้กับท่าน จำไม่ได้หรือว่าเมื่อครั้งที่อ้วนสุดยกกองทัพใหญ่มาจะกำจัดท่านนั้น ก็ได้อาศัยความคิดเราสองพ่อลูกจึงรอดจากความตายมาได้ ไฉนจึงมาตู่ว่าเราทรยศ

ในขณะที่กองทัพลิโป้กำลังเข้าตีเมืองเสียวพ่ายอยู่นั้น เตียวหุยซึ่งแตกทัพหนีมาตั้งหลักอยู่ที่หุบเขา ได้ทราบความว่าลิโป้เสียกลความคิดตันเต๋งและกำลังยกเข้าตีเมืองเสียวพ่าย จึงรีบพาทหารมาเพื่อจะล้างแค้นลิโป้ ครั้นเห็นทหารลิโป้กำลังเข้าตีเมือง เตียวหุยจึงสั่งทหารให้ตีตลบหลังกองทัพลิโป้

ลิโป้กับเตียวหุยจึงเข้ารบกัน ลิโป้เห็นว่าทหารตนโดนกองทัพของเตียวหุยและโจหยินล้อมจึงรีบตีฝ่าหนีออกมา จากนั้นกวนอูก็เข้ามาช่วยเตียวหุยเข้าตีกองทัพของลิโป้

 กวนอู เตียวหุย พบกันก็มีความยินดี ต่างคนต่างเข้าสวมกอดแล้วร้องไห้ ถามความถึงเล่าปี่จากกันและกัน เตียวหุยจึงว่าบัดนี้ได้ทราบข่าวเล่าปี่พี่เราว่าได้เข้าด้วยโจโฉแล้ว และโจโฉได้ยกกองทัพมาเมืองเสียวพ่าย คาดว่าพี่เราคงจะติดตามมาในกองทัพด้วย จึงชวนกันไปหาเล่าปี่ที่กองทัพโจโฉ เล่าปี่เมื่อได้ทราบว่ากวนอู และเตียวหุยมาหาก็ดีใจรีบวิ่งออกจากค่ายมารับน้องร่วมสาบานทั้งสองคน  ต่างคนต่างสวมกอดด้วยความดีใจ





จากนั้นโจโฉจึงจัดระเบียบการปรกครองเมืองชีจิ๋วและเมืองเสียวพ่ายใหม่และเตรียมกำลังเพื่อกำจัดลิโป้ต่อไป



#80 เล่าปี่กินคน



เล่าปี่และซุนเขียนเดินทางในป่าด้วยความยากลำบาก เสบียงก็หมดสิ้นลง ค่ำลงถึงบ้านใดก็เข้าอาศัยและขออาหารราษฎรประทังชีวิต เล่าปี่ก็พาซุนเขียนเข้าไปขออาศัย เจ้าของบ้านชื่อว่าเล่าอั๋น เห็นเล่าปี่กับซุนเขียนก็ออกมารับ สอบถามความกันแล้วเล่าอั๋นก็มีความยินดีเพราะเห็นเป็นคนแซ่เดียวกัน จัดเรือนพักของตัวเองให้เป็นที่อาศัยของเล่าปี่ และซุนเขียน

 เล่าอั๋นอยู่ที่บ้านกับภรรยา เป็นคนยากจนเข็ญใจ ทำไร่ปลูกผัก หาของป่าเป็นอาชีพ ครั้นได้เวลาอาหารก็ไม่มีสิ่งใดนำมาเลี้ยงดูเล่าปี่ ครั้นจะออกไปหาอาหารก็ไม่ทันเพราะเป็นเวลากลางคืน เล่าอั๋นจึงตัดสินใจฆ่าภรรยาของตัวเสียแล้วเชือดเอาเนื้อที่แขนและสะโพกเอามาทำเป็นอาหารเลี้ยงดูเล่าปี่และซุนเขียน

 เล่าปี่และซุนเขียนกินอาหารที่เล่าอั๋นยกมาให้ เห็นเนื้อนั้นมีกลิ่นและรสผิดจากที่เคยกินก็สงสัยจึงถามเล่าอั๋นว่าอาหารนี้ทำจากเนื้ออะไร เล่าอั๋นจึงบ่ายเบี่ยงเลี่ยงไปว่าเมื่อเช้านี้ข้าพเจ้าล่าเก้งได้ตัวหนึ่ง เล่าปี่ฟังแล้วก็สิ้นสงสัย จึงกินอาหารนั้นกับซุนเขียนจนอิ่มหนำสำราญ

ครั้นรุ่งขึ้นเล่าปี่และซุนเขียนจึงคารวะขอบคุณและขออำลาเล่าอั๋น ในขณะที่เล่าปี่และซุนเขียนเข้าไปแก้เชือกม้าจึงได้พบศพของภรรยาเล่าอั๋นก็ตกใจ จึงถามเล่าอั๋นว่าเป็นศพของผู้ใดมาทิ้งไว้ที่นี่

เล่าอั๋นเข้าใจว่าเล่าปี่ทราบความก็ยอมรับความจริงว่าได้สังหารภรรยาตนแล้วเอาเนื้อทำเป็นอาหารเลี้ยงเล่าปี่และซุนเขียน เล่าปี่ได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจและมีน้ำใจสงสารก็ร้องไห้แล้วว่าเทพยดาได้ลงโทษข้าพเจ้ารุนแรงยิ่งนัก  อาหารมื้อค่ำของคืนก่อนได้ทำลายครอบครัวของท่านลงไปเป็นที่สลดใจของข้าพเจ้าอย่างหาที่สุดมิได้ ข้าพเจ้าจะจดจำไว้ไม่มีวันลืมเลือน มีโอกาสวันใดจะขอทดแทนคุณท่าน ว่าแล้วเล่าปี่ก็รีบอำลาเล่าอั๋น

วิเคราะห์
ตอนนี้ก็เป็นอีกตอนที่แปลกมาก คิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงหรือปล่าวก็สุดแล้วแต่ผู้อ่านวิเคราะห์นะครับผม ^ ^

#79 ลิโป้ยึดเมืองเสียวพ่าย







กองทัพเล่าปี่เกรงว่าจะสู้กองทัพของลิโป้ไม่ได้จึงส่งคนให้ไปขอกองทัพของโจโฉมาช่วย ซุนฮิวให้ความเห็นว่า หากประวิงเวลาไว้นานเกินไป ถ้าลิโป้ได้รับชัยชนะต่อเล่าปี่แล้ว ลิโป้ก็จะกลับไปผูกดองกับอ้วนสุด เพราะถือว่าบัดนี้ได้แตกหักตัดความสัมพันธ์กับโจโฉแล้ว และถ้าลิโป้กับอ้วนสุดผูกดองกันได้สำเร็จ ลิโป้ก็จะมีกำลังมากขึ้น เมืองฮูโต๋ก็จะยิ่งเป็นอันตราย





ทางกุยแกก็สนับสนุนคงามเห็นของซุนฮิวด้วยเช่นกัน โจโฉจึงมีคำสั่งให้เตรียมกองทัพให้แฮหัวตุ้น แฮหัว เอี๋ยน ลิเตียน และลิยอย คุมทหารห้าหมื่นเป็นกองทัพหน้า โจโฉคุมทหารเป็นกองทัพหลวงแล้วยกไปเมืองเสียวพ่าย ลิโป้รู้ข่าวจึงรีบเตรียมกองทัพเพื่อที่จะตั้งรับ แฮหัวตุ้นเดินทางมาถึงก็เข้ารบกับกองทัพของลิโป้ แต่แล้วลูกเกาทัณฑ์ปักเข้าเสียบลูกตาด้านซ้ายของแฮหัวตุ้น



แฮหัวตุ้นถูกเกาทัณฑ์ก็ร้องขึ้นด้วยเสียงอันดัง แล้วจากนั้นจึงดึงเกาทัณฑ์ออกจากดวงตา ลูกตาได้ติดลูกเกาทัณฑ์ออกมาด้วย แฮหัวตุ้นเป็นชายชาติทหาร น้ำใจเด็ดเดี่ยว ชูลูกเกาทัณฑ์ซึ่งลูกตาติดอยู่แล้วประกาศต่อหน้าทหารว่า “ลูกตานี้เป็นดวงแก้วอันประเสริฐ ไม่ควรจะละทิ้งเสีย”  สิ้นคำก็เอาลูกตานั้นกินกลืนเข้าไปท่ามกลางความตกตะลึงของบรรดาทหารที่ติดตามมา แฮหัวตุ้นซึ่งอยู่ในท่ามกลางความเจ็บปวดเกิดอาการบ้าเลือด เข้ารบพุ่งกับกองทัพทหารของลิโป้อย่างบ้าเลือดจนแตกหนีไปหมด

แฮหัวตุ้นเดินทางกลับค่ายก็เจอไล่ตามตี โชคดีที่ได้แฮหัวเอี๋ยนช่วยไว้ได้

ในอีกทางด้านหนึ่ง ลิโป้ได้ยกทัพมาเองเพื่อที่จะไปตีค่ายของกวนอูและเตียวหุย กวนอูและเตียวหุย เข้ารบพุ่งกับลิโป้แต่กองทหารตนนั้นเหลือน้อยนักอีกทั้งลิโป้มันมีฝีมือดี กวนอูและเตียวหุยจึงไม่สามารถต้านกองทัพของลิโป้ได้จึงพากันหนีไปค่ายของเล่าปี่ เล่าปี่เห็นว่าสู้ไม่ได้จึงพากวนอูและเตียวหุยหนีออกมา

ลิโป้ได้คุมทหารฆ่าฟันทหารของเล่าปี่ล้มตายลงเป็นอันมาก ครั้นยึดเมืองเสียวพ่ายได้บิต๊กซึ่งเล่าปี่ได้มอบให้ดูแลครอบครัวก็ได้เข้ามาหาลิโป้ คารวะแล้วกล่าวกับลิโป้ว่า “ข้าพเจ้าได้ยินโบราณว่าสืบ ๆ กันมาว่าผู้ที่จะตั้งตัวเป็นใหญ่ถึงจะตีบ้านเมืองได้เอาแต่ชัยชนะ ผู้ใดเป็นเสี้ยนหนามก็ทำอันตรายแก่ผู้นั้น มิได้ทำอันตรายแก่บุตรภรรยาแลราษฎรทั้งปวง บัดนี้ท่านก็คิดอ่านจะตั้งตัวเป็นใหญ่อยู่ จะเป็นศัตรูของท่านก็แต่โจโฉผู้เดียว อันเล่าปี่นี้คิดถึงท่านอยู่เนือง ๆ ว่าเมื่อครั้งอ้วนสุดให้กิเหลงยกมาตีเมืองเสียวพ่ายนั้น เพราะท่านยกมาช่วยเสี่ยงยิงเกาทัณฑ์และพูดจาเกลี่ยไกล่ให้กิเหลงยกกลับไป เล่าปี่จึงได้อยู่เย็นเป็นสุขมา เล่าปี่มีความกตัญญูต่อท่านอยู่ อนึ่งท่านกับเล่าปี่ก็มีคุณต่อกันมา ขออย่าให้ท่านทำอันตรายแก่ครอบครัวเล่าปี่เลย คุณของท่านนั้นก็จะมีอยู่กับเล่าปี่สืบไป”



 กวนอูและเตียวหุย กับล่าปี่หนีกันไปคนละทาง ซุนเขียนจึงเสนอให้เล่าปี่ไปสมทบกับโจโฉเล่าปี่ก็เห็นชอบ สั่งให้กวนอูและเตียวหุยซุ่มกองกำลังไว้ตามซอกเขา ส่วนเล่าปี่และซุนเขียนจะเดินทางไปหาโจโฉ


Thursday, September 22, 2011

#78 เดินหน้ากำจัดลิโป้



หลังจากกุแกได้จุดแข็งจุดอ่อนระหว่าง โจโฉและอ้วยเสี้ยวแล้ว กุยแกจึงแจงต่อไปว่า บัดนี้อ้วนเสี้ยวยกไปตีกองซุนจ้าน ถ้าท่านจะยกไปรบเอาเมืองอ้วนเสี้ยวก็เห็นจะได้โดยง่าย แต่เกรงอยู่ว่าลิโป้จะยกมาตีเอาเมืองฮูโต๋ จึงขอให้ท่านยกกองทัพไปกำจัดลิโป้ ซึ่งเป็นศัตรูฝ่ายตะวันออกให้ราบคาบแล้ว จึงยกล่วงไปตีเอาเมืองอ้วนเสี้ยวในภายหลัง

โจโฉจึงตกลงว่าจะต้องกำจัดลิโป้เสียก่อน ซุนฮกได้เสนอแผนการให้มีหนังสือไปถึงเล่าปี่ ให้เล่าปี่จำจัดลิโป้เสียจากนั้นท่านค่อยไปซำเติมภายหลัง ซึ่งแผนการนี้ซุนฮกต้องการบั่นทอนกำลังของลิโป้และเล่าปี่ลงก่อน



ฝ่ายตันก๋งที่ปรึกษาของลิโป้อยู่ ณ เมืองชีจิ๋ว เห็นพฤติกรรมของตันกุ๋ยและตันเต๋งสองพ่อลูกที่ตั้งหน้าตั้งตาประจบสอพลอลิโป้ ตันก๋งจึงหาโอกาสไปว่ากล่าสวกับลิโป้ว่า โดยแจงว่าตันกุ๋ย ตันเต๋งสองพ่อลูกกำลังคิดร้ายต่อลิโป้ การยกย่องสรรเสริญเนั้นเป็นเพียงอุบายให้ตายใจ ลิโป้ไม่เห็นด้วยอีกทั้งยังว่าตันก๋งนั้นอิจฉาริษยา 2 พ่อลูกเสียอีก ตันก๋งได้ยินเช่นนั้นก็เสียใจ

VS

ลิโป้ได้ข่าวว่าโจโฉจะยกทัพมาตีตนก็รู้สึกโกรธเตรียมทหารเพื่อยึดดินแดนเมืองไกล้ๆที่อยู่รอบๆเมืองชีจิ๋วให้หมด เล่าปี่ได้ยินข่าวว่าลิโป้จะยกทัพมาเมืองเสียวพ่ายก็ตกใจเรียกแม่ทัพและที่ปรึกษามาประชุมหลังจากประชุมก็ได้ความเห็นว่าควรที่จะส่งทหารไปขอความช่วยเหลือจากโจโฉ


เตียวเลี้ยวทหารเอกของลิโป้ได้รับคำสั่งให้มาตีเมืองเสียวพ่ายและกวนอูก็ได้ครับคำสั่งของเล่าปี่ให้มาสกัดกั้น กวนอูเห็นเตียวเลี้ยวมีท่าที่เก่งกาจแล้วจากนั้นจึงร้องถามเตียวเลี้ยวว่า ตัวท่านนี้สง่างามควรแก่ลักษณะของทหารหลวง เหตุไฉนจึงยอมเป็นข้ารับใช้ของลิโป้คนทรยศต่อชาติ เตียวเลี้ยวได้ยินคำของกวนอูก็เกิดความรู้สึกละอายใจจึงยกทัพไปอีกทางของเมืองเสียวพ่ายที่มีเตียวหุยป้องกันอยู่

เตียวหุยและเตียวเลี้ยวเข้าสู้รบกัน กวนอูเดินทางมาสมทบทางฝั่งเตียวหุยเห็นเตียวหุยกับเตียวเลี้ยวสู้รบกันกวนอูจึงตีระฆังให้เตียวหุยถอยกลับ เตียวหุยไม่ทราบความจึงไปถามกับกวนอู กวนอูจึงว่าเตียวเลี้ยวเป็นสุภาพบุรุษ รู้สึกละอายใจที่อยู่กับ  ลิโป้ กำลังคิดเอาใจออกห่าง จึงไม่ควรกดดันให้เตียวเลี้ยวต้องออกรบ การละเตียวเลี้ยวไว้จะทำให้เตียวเลี้ยวต้องหาทางตีตัวออกจากลิโป้เอง เตียวหุยฟังเหตุผลของกวนอูแล้วก็เห็นชอบด้วย



#77 ชัยชนะและปราชัย 10 ประการ ของโจโฉและอ้วนเสี้ยว





โจโฉได้เรียกที่ปรึกษามาประชุมเรื่องรับมือกับอ้วนเสี้ยว ทางฝ่ายกุยแกออกมาแจงว่าบัดนี้มีข่าวส่งมาบอกว่ากองซุนจ้านนั้นรู้ข่าวว่าอุ้นเสี้ยวจะยกทัพมาตีเมืองอูโต๋ก็เลยเตรียมกองทัพไปตีอ้วนเสี้ยว แต่อ้วนเสี้ยวนั้นรู้ข่าวจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปกำจัดกองซุนจ้านแทน
จากนั้นอ้วนเสี้ยวได้ส่งหนังสือมาขอเสบียงให้โจโฉส่งเสบียงไปให้ถ้าไม่ทำตามก็จะยกทัพมาตีโจโฉ ทางฝ่ายโจโฉได้ยินเช่นนั้นก็โกรธอ้วนเสี้ยวที่ทำตัวคุกคามและขุ่มขู่ จึงปรึกษากับที่ปรึกษาว่าจะทำประการใดดี

กุยแกจึงวิเคราะห์สถานการ ระหว่าง โจโฉและอ้วนเสี้ยวออกมาว่า โจโฉนั้นมีเหตุชนะ 10 ประการ  ส่วนอ้วนเสี้ยวมีเหตุปราชัย 10 ประการ โจโฉได้ยินดังนั้นจึงถามต่อไปว่า ทำไมท่านกุยแกถึงคิดเช่นนั้น

กุยแกจึงแจ้งไปว่า

(ตามฉบับคนขายชาติ)
- ตัวท่านเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับทหาร ในขณะที่อ้วนเสี้ยววางตัวเป็นเจ้ากับข้า นี่เป็นเหตุทั่วไปหนึ่ง
- การกระทำของอ้วนเสี้ยวเป็นกบฏต่อแผ่นดิน ส่วนท่านทำตามรับสั่งของฮ่องเต้ นี่เป็นเหตุทางความชอบธรรมหนึ่ง
- อ้วนเสี้ยวบริหารราชการด้วยความหย่อนยานหละหลวม แต่ท่านเข้มงวดกวดขัน นี่เป็นเหตุทางด้านบริหารหนึ่ง
- อ้วนเสี้ยวดูภายนอกโอบอ้อมอารี แต่ภายในแรงด้วยฤทธิ์อิจฉาริษยา ใช้คนได้ก็แต่หมู่ญาติ ส่วนท่านโอบอ้อมอารีทั้งภายนอกและภายใน ใช้คนได้ทั้งผู้มีสติปัญญาความสามารถและฝีมือกล้าแข็ง นี่เป็นเหตุแห่งอัธยาศัยหนึ่ง
- อ้วนเสี้ยวมีน้ำใจโลเล ตัดสินใจไม่เด็ดขาด แต่ท่านน้ำใจมั่นคง เด็ดเดี่ยว นี่เป็นเหตุทางจิตใจของแม่ทัพหนึ่ง
- อ้วนเสี้ยวไร้สติปัญญา ไม่สามารถคิดอ่านอุบายและกลศึกได้ ตัวท่านมีสติปัญญา เชี่ยวชาญทางกลศึกและพิชัยสงคราม นี่เป็นเหตุแห่งสติปัญญาหนึ่ง
- อ้วนเสี้ยวเป็นนักสร้างภาพและชื่อเสียงจอมปลอม ส่วนตัวท่านคิดทำและพูดบนพื้นฐานความจริงและความยุติธรรมเป็นหลัก นี่เป็นเหตุแห่งสัจจะหนึ่ง
- อ้วนเสี้ยวรักคนใกล้มากกว่าคนไกล ส่วนท่านเอื้ออาทรต่อคนใกล้และคนไกลเสมอกัน นี่เป็นเหตุแห่งความยุติธรรมหนึ่ง
- อ้วนเสี้ยวเป็นคนหูเบาและหลงงมงายทำให้กองทัพปั่นป่วน ส่วนท่านมีสติปัญญาแจ่มใส หนักแน่น นี่เป็นเหตุแห่งความเชื่อมั่นหนึ่ง การทำงานของอ้วนเสี้ยวสับสนผิดถูกไม่กระจ่าง ส่วนท่านผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก มีกฎระเบียบวินัยเข้มงวดชัดเจน นี่เป็นเหตุแห่งนิติธรรมหนึ่ง
- อ้วนเสี้ยวใช้คนโดยไม่รู้จักคน ส่วนท่านใช้คนตามความสามารถ นี่คือเหตุแห่งการปกครองและใช้คนอีกหนึ่ง ทั้งสิบประการนี้คือเหตุที่ทำให้ท่านได้รับชัยชนะและอ้วนเสี้ยวต้องตกเป็นฝ่ายปราชัย

(ตามฉบับพระยาพระคลังหน)
เหตุแห่งชัยชนะของโจโฉสิบประการคือ
1.ท่านมิได้ถือตัว ถ้าจะทำการสิ่งใดถึงผู้น้อยจะขัดท่านว่าผิดแลชอบ ท่านก็เห็นด้วย ประการหนึ่ง
2.น้ำใจท่านโอบอ้อมอารีต่อคนทั้งปวง แล้วจะทำการสิ่งใดก็ถือเอารับสั่งพระเจ้าเหี้ยนเต้เป็นประมาณ คนทั้งหลายก็ยินดีด้วย ประการหนึ่ง
3.ท่านจะว่ากล่าวสิ่งใดก็สิทธิขาดมีสง่า  คนทั้งปวงยำเกรงท่านเป็นอันมากประการหนึ่ง
4.ใจท่านสัตย์ซื่อเลี้ยงทหารโดยยุติธรรม ถึงญาติพี่น้องผิดก็ว่ากล่าวมิเข้าด้วยผู้ผิด ประการหนึ่ง
5.ท่านจะคิดทำการสิ่งใดเห็นเป็นความชอบก็ตั้งใจทำไปจนสำเร็จ ประการหนึ่ง
6.ท่านจะรักผู้ใดก็รักโดยยุติธรรม มิได้ล่อลวง ประการหนึ่ง
7.ท่านเลี้ยงคนซึ่งอยู่ใกล้กับอยู่ไกล ถ้าดีแล้วเลี้ยงเสมอกัน ประการหนึ่ง
8.ท่านคิดการหนักหน่วงให้แน่นอนแล้วจึงทำการ ประการหนึ่ง
9.ท่านจะทำการสิ่งใดก็ทำตามขนบธรรมเนียมโบราณ ประการหนึ่ง
10.ท่านชำนาญในกลสงคราม ถึงกำลังข้าศึกมากกว่าท่าน ท่านก็คิดเอาชัยชนะได้”

ส่วนเหตุแห่งการปราชัยของอ้วนเสี้ยวสิบประการ กุยแกได้จำแนกว่า
1.อ้วนเสี้ยวเป็นคนถืออิสริยยศ มิได้เอาความคิดผู้ใด ประการหนึ่ง
2.อ้วนเสี้ยวเป็นคนหยาบช้า ทำการโดยโวหาร ประการหนึ่ง
3.อ้วนเสี้ยวจะว่ากิจการสิ่งใด มิได้สิทธิขาด ประการหนึ่ง
4.อ้วนเสี้ยวเห็นแก่ญาติพี่น้องของตัว มิได้ว่ากล่าวตามผิดแลชอบ ประการหนึ่ง
5.อ้วนเสี้ยวจะคิดการสิ่งใด มักกลับเอาดีเป็นร้าย เอาร้ายเป็นดี มิได้เชื่อใจของตัว ประการหนึ่ง
6.อ้วนเสี้ยวจะเลี้ยงผู้ใดมิได้ปรกติต่อหน้าว่ารัก ลับหลังว่าชัง ประการหนึ่ง
7.อ้วนเสี้ยวมักรักคนชิดซึ่งประสมประสาน ผู้ใดห่างเหินถึงซื่อสัตย์ก็มีใจชัง  ประการหนึ่ง
8.อ้วนเสี้ยวกระทำความผิดต่าง ๆ เพราะฟังคำคนยุยง ประการหนึ่ง
9.อ้วนเสี้ยวจะทำการสิ่งใดเอาแต่อำเภอใจ มิได้ทำตามอย่างธรรมเนียมโบราณ ประการหนึ่ง
10.อ้วนเสี้ยวมิได้รู้ในกลศึก แต่มักพอใจทำการศึกล่อลวง จะชนะก็ไม่รู้ จะแพ้ก็ไม่รู้

โจโฉฟังดังนั้นก็หัวเราะ แล้วถ่อมตัวว่าข้าพเจ้าหาได้เก่งกล้าสามารถและมีคุณธรรมถึงขนาดที่ท่านพรรณนามานี้ไม่

Sunday, September 18, 2011

#76 โจโฉปราชัยกลับเมืองฮูโต๋


VS

หลังจากเตียวสิ้วและเล่าเปียวหนีกลับมา กางเซี่ยงก็นำทัพไปตั้งรอรับแล้วเสนอว่าครั้งนี้ควรจะไล่ตามตีอีกครั้งเนื่องจากกองทัพโจโฉพึ่งชนะศึกมาคงจะไม่ระวัง แต่เตียวสิ้วให้ความเห็นว่ากองทัพเราพึ่งเสียทีมา

กาเซี่ยงยืนยันด้วยหัวของตัวเองว่าศึกครั้งนี้ต้องชนะแน่นอนเเล่าเปียวไม่เห็นด้วยกับกาเซี่ยง แต่เตียวสิ้นก็เองยังคงเอนเอียงและรู้ความสามารถของกาเซี่ยงจึงเห็นด้วย เตียวสิ้วจึงบอกให้เล่าเปียวตั้งทัพปกกันเอง ตัวเตียวสิ้วได้ไล่ตามตีกองทัพของโจโฉอีกครั้งตามอุบายของกางเซี่ยง


หลังจากกองทัพของโจโฉได้รับชัยก็มิได้ตั้งอยู่ในความรอบคอบตามคำของกาเซี่ยง เตียวสิ้วจึงยกทัพเข้าไปตีโจโฉอย่างไม่ทันตั้งตัว โจโฉรู้ก็จึงใจจึงสั่งให้ทหารตีฝ่าหนีกลับเมืองฮูโต๋ ศึกครั้งนี้เสียวสิ้วได้รับชัยชนะเพราะอุบายของกาเซี่ยง


โจโฉกลับมาถึงเมืองหลวงจึงออกรับสั่งของพระเจ้าเหี้ยนเต้ แต่ตั้งให้ซุนเซ็กเป็นขุนพลปราบภาคกังตั๋งและให้ซุนเซ็กนั้นกำจัดเล่าเปียวเสีย จากนั้นโจโฉจึงเรียกบันดาขุนนางทุกคนมาปรึกษารับมือกับกองทัพอ้วนเสี้ยว


วิเคราะห์
สงครามระหว่างโจโฉและเตียวสิ้วนั้นรบกันมาหลายต่อหลายครั้ง จะเห็นว่าโจโฉนั้นไม่สามารถกำจัดเตียวสิ้วได้เนื่องจากว่าเตียวสิ้วนั้นมีที่ปรึกษาสมองใสอย่างกาเซี่ยง จะเห็นว่าการรบครั้งหลังๆนี้ ที่ปรึกษามีส่วนทำให้กองทัพสามารถได้รับชัยชนะศึกได้ซึ่งต่างจากสมัยก่อนที่ต่อสู้รบกันด้วยความสามารถของทหารเอกและจำนวนทหารที่เยอะกว่า



Wednesday, September 7, 2011

#75 โจโฉ vs เตียวสิ้ว,เล่าเปียว


VS

เตียวสิ้วรู้ข่าวว่าโจโฉยกทัพใหญ่มาก็ส่งหนังสือไปหาเล่าเปียวเพื่อขอความช่วยเหลือ กองทัพของโจโฉและเตียวสิ้วต่อสู้กัน แต่กองทัพของเตียวสิ้วสู้ไม่ได้จึงตั้งหลังป้องกันอยู่ในเมืองไม่ออกรบ โจโฉจึงนึกอุบาย ลวงตะวันตก ตีตะวันออก แต่เตียวสิ้วมีที่ปรึกษาอย่างกาเซี่ยงที่สามารถอ่านแผนการของโจโฉออก กางเซี่ยงจึงซ้อนกลโจโฉ ทำลายกองทัพของโจโฉจนสิ้น



ศึกครั้งนี้โจโฉพลาดท่าสูญเสียทหารทั้งสิ้นกว่าห้าหมื่นทั้ง อิกิ๋มและลิยอยก็ถูกเกาทัณฑ์และบาดเจ็บหลายแห่ง โจโฉจึงคิดว่าศึกครั้งนี้พ่ายแพ้เพราะเตียวสิ้วตั้งรับกองทัพตนไม่สามารถตีได้ จึงวางแผนหลอกล่อทำทีเป็นถอยทัพกลับให้เตียวสิ้วไล่ตามตี


ฝ่ายกาเซี่ยงเห็นโจโฉเสียที สูญเสียทหารเป็นอันมากก็คาดการณ์ว่าโจโฉจะต้องยกทัพกลับเมืองฮูโต๋ จึงเสนอเตียวสิ้วให้ม้าเร็วถือหนังสือไปให้เล่าเปียวยกทหารมาสกัดตีโจโฉในตอนถอยทัพกลับ
เล่าเปียวทราบความตามหนังสือเตียวสิ้วแล้วก็เตรียมทหารจะยกไปสกัดตีกองทัพโจโฉ ขณะนั้นจึงได้ทราบว่าซุนเซ็กยกกองทัพเรือมาตั้งที่ปากอ่าวเมืองเกงจิ๋วก็พะวงหลัง แต่ที่ปรึกษาของเล่าเปียวให้ความเห็นว่าซุนเซ็กยกทัพมาครั้งนี้ไม่ได้มารบ คงเป็นอุบายที่โจโฉสั่งให้ซุนเซ็กมาทำให้ฝ่ายเราต้องพะวงหลัง เล่าเปียวรู้ดังนั้นแล้วก็คลายใจจึงส่งทหารไปช่วยเตียวสิ้วตีทัพโจโฉ



กองทัพโจโฉเคลื่อนมาถึงแม่น้ำหยกซุย สถานที่โจโฉต้องเสียเตียนอุย โจอันบิ๋น โจงั่งและทหารเป็นอันมากก็เกิดความรู้สึกสะเทือนใจ ก็ร้องไห้เป็นทีรำลึกถึงเตียนอุย และสั่งให้ตั้งการพิธีเซ่นไหว้เตียนอุย บุตรหลานและทหารซึ่งเสียชีวิตในการศึกครั้งแรกกับเตียวสิ้ว


จากนั้นซุนฮกได้ให้ทหารถือหนังสือมาเตือนโจโฉว่าบัดนี้เล่าเปียวได้ยกทหารมาตั้งสกัดอยู่ที่ด่านอันจงก๋วน ขอให้ท่านระวังตัวด้วย โจโฉทราบความในหนังสือซุนฮกแล้วจึงตอบไปว่าเรากำลังทำกลอุบายลวงให้เตียวสิ้วยกมาตามตีจะได้พลิกสถานการณ์เอาชนะเตียวสิ้วและเล่าเปียวในคราวเดียวกัน ท่านอย่าได้กังวล


ต่อมากองทัพของเล่าเปียวและเตียวสิ้วได้หลงกลอุบายของโจโฉ ถูกกองทัพของโจโฉฆ่าฟันล้มตายลงเป็นอันมาก เตียวสิ้วและเล่าเปียวจึงหนีกลับมายังเมืองที่อยู่ไกล้ๆนั้น ต่อมาซุนฮกได้ให้ทหารถือหนังสือมาจากเมืองฮูโต๋ แจ้งแก่โจโฉว่าบัดนี้ฝ่ายได้ข่าวอ้วนเสี้ยวเตรียมกองทัพจะยกมาตีเมืองฮูโต๋ โจโฉทราบดังนั้นจึงสั่งให้เลิกทัพรีบยกกลับเมืองฮูโต๋ในทันที

เตียวสิ้วและเล่าเปียวรู้ข่าวก็มีความเห็นตรงกันที่จะไล่ตามตีอีกครั้ง แต่กางเซี่ยงให้ได้ความเห็นว่าไม่ควรไปตามตีเพราะโจโฉนั้นมีอุบายเป็นอันมาก แต่เตียวสิ้วและเล่าเปียวก็ไม่ฟัง ท้ายสุดเตียวสิ้วและเล่าเปียวก็เสียทีโจโฉกลับมาอีกครั้ง