Saturday, December 24, 2011

ประวัติลิโป้





 



ลิโป้คือยอดนักรบผู้ที่ได้ชื่อว่าผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งยุคสามก๊กหรือเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม จะได้ยินประโยคนี้บ่อยๆคือ "ยอดคนต้องลิโป้ ยอดม้าต้องเซ็กเธาว์"


ในหนังสือนั้นกล่าวว่าลิโป้นั้นมีฝีมือเป็นอันมากแต่ค่อนข้างที่จะด้อยสติปัญญานิดนึง บ้างก็บอกว่าลิโป้นั้นเป็นคนมีสติปัญญาไม่งั้นคงไม่ได้เป็นใหญ่ครองเมืองได้ ก็สุดแล้วแต่ผู้อ่านมองว่าลิโป้นั้นเป็นยังไง



ตัวละครลิโป้นั้นได้โผล่ครั้งแรกตอนต้นเรื่อง ในขณะที่ตั๋งโต๊ะได้เรียกเหล่าขุนนางมาประชุมเพื่อดูความเกรงขามของอำนาจตน ในที่ประชุมมิไม่ใครกล้าต่อต้านเลยซักคน  คงมีแต่เต็งหงวนที่กล้าท้าทายอำนาจของตั๋งโต๊ะ เนื่องจากเต็งหงวนนั้นมีลูกบุญธรรมชื่อลิโป้ ต่อมาลิยูได้เสนอแผ่นการให้ตั๋งโต๊ะซื้อลิโป้ด้วยม้าเซ็กเธาว์ จนลิโป้ได้ตัดคอเต็งหงวนผู้ซึ่งเป็นพ่อบุญธรรมของตน จนกลายเป็นตราบาบแก่ลิโป้ไปตลอดชีวิต


ต่อมาลิโป้ได้เป็นลูกบุญธรรมตั๋งโต๊ะอีกทั้งยังได้ครอบครองม้าเซ็กเธาว์ ยอดคนผสมกับยอดม้าจนไม่มีใครกล้าเป็นแข็งข้อต่ออำนาจของตั๋งโต๊ะได้เลย


เมื่อครั้งกองทัพ 18 หัวเมืองรวบรวมตัวกับต่อต้านตั๋งโต๊ะ ลิโป้จึงได้สู้กับ 3 พี่น้องแห่งสวนท้อ เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย เข้ารุมลิโป้คนเดียว นับว่าลิโป้นั้นสุดยอดมากที่รับเมืองยอดฝีมือทั้ง 3 คนได้





จนกระทั่งขุนนางอ้องอุ้นได้วางแผนผลาญความสำพันธ์ระหว่างลิโป้กับตั๋งโต๊ะด้วยอุบายนางงาม คือส่งแม่นางเตียวเสี้ยนผู้ที่มีโฉมงามคอยยุยงให้ลิโป้กับตั๋งโต๊ะแตกคอกัน จนในที่สุดลิโป้ได้ฆ่าตั๋งโต๊ะซึ่งเป็นพ่อบุญธรรมคนที่สอง


ลิโป้ได้ร่วมงานกับอ้องอุ้นแต่แล้วก็เสียทีให้แก่ลิฉุย กุยกี เตียวเจ หวนเตียว ที่เป็นลูกน้องเก่าของตั๋งโต๊ะ จนลิโป้ต้องแร่ร่อนหนีไป จากนั้นก็ไปขอเข้ากับอ้วนสุด แต่อ้วนสุดไม่รับอยู่ด้วย ลิโป้จึงไปขออยู่ด้วยอ้วนเสี้ยว แต่ลิโป้ก็กำเริบฆ่าทหารอ้วนเสี้ยวไปหลายคน อ้วนเสี้ยวจึงโกรธตามฆ่าลิโป้ ลิโป้จึงหนีไปอยู่กับเตียวเมี่ยว ในจนได้พบกัยตันก๋ง ลิโป้ได้ยกทัพไปตีเมืองกุนจิ๋วที่โจโฉครองอยู่ทำให้โจโฉโกรธเป็นอันมาก ลิโป้จึงกลายเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งที่โจโฉต้องกำจัด

ลิโป้เสียทีโจโฉจนต้องมาอาศัยกับเล่าปี่ เตียวหุยไม่พอใจลิโป้ ลิโป้แม้จะเป็นคนเก่ง แต่ก็เป็นคนหยาบช้า ขาดคุณธรรม และไร้สติปัญญา เป็นคนที่เลี้ยงไว้ไม่ได้ เป็นบุคคลที่เตียวหุยด่าว่าเป็น "ไอ้ลูกสามพ่อ" จนกลายเป็นสำนวนที่ใช้มาจนทุกวันนี้  (นั่นเป็นมุมมองที่เตียวหุยมอง)



ลิโป้นั้นได้แสดงฝีมือยิงยิงเกาทัณฑ์ไปปักที่ทวนเพื่อพนันให้เล่าปี่ & อ้วนสุด เลิกรบกัน ถือว่าลิโป้นั้นรับบทเป็นนักปรองดองช่วยเหลือชีวิตเล่าปี่ไว้ได้



ตังก๋งช่วยวางแผนให้ลิโป้ครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ลิโป้ก็มิได้เชื่อฟังจนตัวเองต้องเข้าตาจนอยู่บ่อยๆ จนกระทั่งเสียทีแก่ 2 พ่อลูกตันกุ๋ยและตันเต๋งที่เป็นไส้ศึกตอนลิโป้ต้องเสียเมื่อง จนในที่สุดลิโป้ต้องเสียทีแก่เฮาเสง ซงเหียนและงกซุยที่แปลพักไปเข้าด้วยโจโฉ จนตัวเองต้องถูจับมัดไว้


ก่อนลิโป้จะถูกโจโฉประหาร ลิโป้ได้ขอร้องให้เล่าปี่ช่วย โจโฉนั้นได้ถามเล่าปี่ว่าควรไว้ชีวิตลิโป้หรือไม่ เล่าปี่จึงตอบว่า "เมื่อครั้งเต๊งหงวนกับตั๋งโต๊ะนั้น เหตุการณ์เป็นประการใดท่านก็กระจ่างแจ้งอยู่แล้ว ไฉนจึงมาหารือข้าพเจ้าดังนี้อีก" จนลิโป้ต้องถูกประหารในที่สุด



ตัวละครลิโป้นั้นได้เสียชีวิตลงในต้นเรื่องของสามก๊กเป็นที่น่าเสียดายที่คนเก่งมีฝีมือต้องจบชีวิตต้นเรื่อง...





Friday, December 23, 2011

#88 ประหารลิโป้







ลิโป้เห็นลูกน้องตนตายทีละคนก็คิดว่าตนคงไม่รอดแน่ๆ แต่เหลือบมองไปเห็นเล่าปี่คงคิดว่าตัวเคยทำบุญคุณไว้กับเล่าปี่และโจโฉคงจะเกรงใจเล่าปี่อยู่ จึงคิดพึ่งเล่าปี่ช่วยชีวิต

ลิโป้จึงว่ากับเล่าปี่ว่า

ลิโป้ : "บัดนี้ข้าพเจ้าใกล้ถึงที่ตายแล้ว ไม่เห็นหน้าจะพึ่งใคร เห็นแต่ท่านเท่านั้นที่พอเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้าได้ ทั้งอัครมหาเสนาบดีก็เกรงใจตัวท่านอยู่ หากท่านร้องขอชีวิตของข้าพเจ้าคงจะรอดได้ด้วยความกรุณาของท่าน "

เล่าปี่ได้ฟังคำลิโป้ก็มิได้ว่ากล่าวประการใด แต่ทำทีเป็นพยักหน้า ขณะนั้นโจโฉซึ่งเดินกลับมาลิโป้เห็นโจโฉกลับขึ้นมาก็ร้องขอชีวิตว่า

ลิโป้ : "ท่านอัครมหาเสนาบดีทำการใหญ่เพื่อทำนุบำรุงแผ่นดินแลราษฎรให้เป็นสุข ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีแต่ข้าพเจ้าซึ่งทำตัวเป็นศัตรู เป็นเสี้ยนหนามขัดขวางการใหญ่ของท่าน แต่บัดนี้ข้าพเจ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของท่านแล้ว ได้สำนึกความผิดในการกระทำที่ผ่านมา จะขอชีวิตไว้เป็นข้ารับใช้ของท่านสนองคุณท่านสืบไป ในไม่ช้าราชสมบัติก็จะตกเป็นสิทธิแก่ท่าน"

โจโฉได้ฟังดังนั้นก็นิ่งอยู่อึดใจหนึ่ง แล้วหันมาทางเล่าปี่ถามว่า "ที่ลิโป้กล่าวทั้งนี้ท่านมีความเห็นประการใด"

เล่าปี่ฟังคำถามโจโฉแล้วก็อึ้งไปอึดใจหนึ่งเช่นเดียวกัน ไม่ตอบคำถามของโจโฉตรง ๆ แต่กล่าวว่า

เล่าปี่ "เมื่อครั้งเต๊งหงวนกับตั๋งโต๊ะนั้น เหตุการณ์เป็นประการใดท่านก็กระจ่างแจ้งอยู่แล้ว ไฉนจึงมาหารือข้าพเจ้าดังนี้อีก"

ลิโป้ได้ยินเล่าปี่ตอบโจโฉเช่นนั้นก็โกรธ  ร้องตะโกนด่าเล่าปี่ว่าเป็นคนเนรคุณ  โจโฉเห็นลิโป้ด่าเล่าปี่จึงสั่งทหารให้นำตัวลิโป้ไปประหาร ในระหว่างที่ทหารคุมตัวลิโป้ไปประหารนั้น ลิโป้ได้ร้องตะโกนด่าเล่าปี่ไปตลอดทางว่าเป็นคนเนรคุณ จนสุดท้ายลิโป้ก็ถูกตัดหัว...

เป็นอันว่ายอดขุนพลแห่งยุคก็จบชีวิตเสียแล้ว...

วิเคราะห์
การประหารลิโป้นั้น โจโฉนั้นใช้ลูกเล่นอันแพรวพราวจของตนโดยการโยนความผิดไปให้แก่เล่าปี่ โจโฉถึงได้ถามเล่าว่าจะจัดการลิโป้อย่างไร เล่าปี่นั้นได้พูดเพียงแค่คำสั้นๆความว่า "เมื่อครั้งเต๊งหงวนกับตั๋งโต๊ะนั้น เหตุการณ์เป็นประการใดท่านก็กระจ่างแจ้งอยู่แล้ว ไฉนจึงมาหารือข้าพเจ้าดังนี้อีก" จนกระทั่งลิโป้ด่าเล่าปี่ไปตลอดทางจนตัวตาย ตัวลิโป้เป็นอย่างไรมีเหรอคนอย่างโจโฉจะไม่รู้ ยังไงเสียลิโป้ก็คือศัตรูหมายเลขหนึ่งของโจโฉมีหรือโจโฉจะไม่ถอนรากถอนโคน

#87 ประหารตันก๋ง






หลังจากโจโฉประหารโกสุ้้นแ้ล้ว ซิหลงได้คุมตัวตันก๋งเข้ามาอีกคนหนึ่ง โจโฉเห็นตันก๋งใจหนึ่งก็คิดถึงบุญคุณที่ตันก๋งสู้เสียสละละทิ้งอำนาจมาเข้าร่วมอุดมการณ์ในตอนเริ่มตั้งตัว แต่ใจหนึ่งก็แค้นตันก๋งที่คิดอ่านวางแผนให้ลิโป้ทำสงครามจนโจโฉต้องเสียทีหลายครั้งหลายหน ความรู้สึกนึกคิด ทั้งบุญคุณและความแค้นเคล้าคละกันดั่งนี้ สีหน้าโจโฉก็บึ้งตึง แต่กล่าวความเป็นทำนองที่ยังอาลัยอาวรณ์ว่า "ตั้งแต่ท่านจากเรามาถึงบัดนี้ยังสบายดีอยู่หรือ?"

ตันก๋งเห็นสีหน้าและน้ำคำของโจโฉก็แจ้งในความรู้สึกนึกคิด จึงตอบกลับไปว่า
"ตัวท่านเป็นคนอาสัตย์ ไม่สำนึกถึงบุญคุณคน มีจิตใจดำอำมหิต เราจึงทิ้งท่าน"

โจโฉจึงว่า "ท่านกล่าวหาเราว่าเป็นคนไร้คุณธรรม แต่เหตุใดเมื่อหนีจากเราแล้วจึงไม่ไปอยู่ด้วยผู้มีคุณธรรม กลับไปอยู่กับลิโป้ซึ่งเป็นปิตุฆาต ยิ่งกว่าไร้คุณธรรมเสียอีก"

ตันก๋งแก้ว่า "ถึงลิโป้เป็นคนไร้คุณธรรม หาสติปัญญามิได้ แต่มิได้เป็นคนล่อลวงปลิ้นปล้อนเหมือนกับตัวท่าน เราจึงมาอยู่ทำการด้วย"

โจโฉโต้ว่า "ตัวว่าลิโป้ไร้สติปัญญา แต่อ้างตัวว่ามีสติปัญญาความคิดอ่าน ดังนี้เหตุใดลิโป้จึงเสียทีแก่เราเล่า"

ตันก๋งได้ฟังคำถามที่หนักหน่วงดังนี้จึงเหลียวหน้ามาทางลิโป้ แล้วกล่าวไปทางลิโป้ว่า
"หลายปีที่ผ่านมานี้ ท่านเชื่อฟังคำเราจึงสามารถตั้งตัวขึ้นเป็นใหญ่ได้ แต่มาระยะหลังกลับลุ่มหลงอยู่กับคำสรรเสริญเยินยอของตันกุ๋ย ตันเต๋ง ไส้ศึกสองพ่อลูก และถือเอาแต่คำภรรยามาบริหารราชการ และการสงคราม จึงได้เสียทีถึงเพียงนี้ การครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน หากท่านเชื่อฟังคำเรา ที่ไหนเลยจะได้รับความอัปยศแก่คนทั้งปวง"

โจโฉจึงเยาะว่า "ก็แลเมื่อลิโป้ไม่ฟังตัวจึงเสียทีแก่เรา บัดนี้เมื่อตกอยู่ในเงื้อมมือเราแล้ว จะคิดอ่านประการใดสืบไป"

ตันก๋งและโจโฉโต้วาทีกันมาจนถึงจุดที่ตันก๋งเห็นว่าขืนต่อปากต่อคำกันต่อไปก็มิได้ประโยชน์อันใด เพราะที่ไหนจะมีฐานะที่เป็นต่อขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงกล่าวขึ้นว่าเมื่อตัวเราตกอยู่ในเงื้อมมือท่าน จะมาซักไซร้หาเหตุผลไปทำไมกัน

โจโฉตีสีหน้าเป็นปกติลง ทั้งน้ำใจก็นึกเห็นการที่ตันก๋งได้กระทำมาเป็นการควรแก่หน้าที่ ประกอบทั้งมีน้ำใจรักใฝ่ได้คนดีมีสติปัญญามาร่วมงาน จึงคิดที่จะเกลี้ยกล่อมตันก๋งให้กลับเข้ารับราชการด้วย ปฏิบัติการทางจิตวิทยาจึงได้เริ่มขึ้น

โจโฉจึงถามตันก๋งว่า "ที่ท่านกล่าวมาทั้งนี้ก็ต้องด้วยเหตุและผล แต่มารดากับภรรยาของท่านเล่า สิ้นท่านเสียแล้วคนข้างหลังจะว่าอย่างไร"

ตันก๋งจึงว่า "วิสัยคนที่คิดทำการใหญ่ย่อมจำแนกแจกแจงมิตร ศัตรู คุณและโทษแจ่มแจ้ง ถึงจะจับศัตรูคู่อาฆาตได้ ก็ย่อมเอาโทษเฉพาะแต่ตัวผู้นั้น ไม่คิดอ่านเป็นพาลกลั่นแกล้งผู้อื่นที่มิได้เกี่ยวข้องด้วย บัดนี้ตัวเราแม้ถึงที่ตายแล้วก็หาได้อาลัยแก่ชีวิตไม่จะขอฝากมารดากับภรรยาไว้กับท่านช่วยดูแลตามควรด้วย"

โจโฉได้ฟังตันก๋งดั่งนั้นก็เห็นว่าตันก๋งมีจิตใจมั่นคงเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก ยังมิทันจะได้ว่ากล่าวประการใด ตันก๋งก็เดินลากผู้คุมจะลงจากศาลาบัญชาการบนเชิงเทิน เร่งให้เอาตัวเองไปประหาร โจโฉยังคงอาลัยอาวรณ์อยู่ จึงสั่งทหารให้หยุดยั้งไว้ แต่ตันก๋งก็มิฟัง โจโฉจึงเดินตามไปทำทีเป็นร้องไห้อาลัยอาวรณ์แล้วว่า "ในเมื่อตัวท่านไม่พอใจที่จะอยู่กับเราก็ตามใจเถิด มารดาและภรรยาของท่านอยู่ข้างหลัง เราจะดูแลมิได้อนาทร"

ตันก๋งเดินลากทหารผู้คุมมาจนถึงประตูเมืองก็เร่งให้ทหารประหารตัวเองเสีย ทหารผู้คุมจึงประหารชีวิตตันก๋ง โจโฉทราบว่าตันก๋งถูกประหารแล้วก็สั่งทหารให้แต่งการศพตันก๋งอย่างสมเกียรติแล้วนำไปฝังอย่างธรรมเนียม และให้นำมารดาและภรรยาตันก๋งไปอาศัยอยูที่เมืองฮูโต๋ จัดทหารและคนรับใช้ดูแลอารักขาตามคำที่รับรองไว้กับตันก๋งนั้น

ก็เป็นจุดจบของตั๋งก๋ง ในตัวเจ้าของ blog เองก็เสียดายคนเก่งมีฝีมือแต่มาตายต้นเรื่องซะังั้น..

#86 ลิโป้ถูกจับ







เฮาเสงจึงเข้าไปที่คอกม้า แก้เชือกม้าเซ็กเธาว์แล้วขี่ออกประตูตรงไปยังของโจโฉ  ครั้นโจโฉทราบความก็มีความยินดี รีบออกมาต้อนรับเฮาเสง เฮาเสงจึงเสนอให้โจโฉรีบเข้าตียึดเอาเมือง โจโฉเห็นชอบกับข้อเสนอจึงสั่งทหารให้เขียนใบปลิวเป็นจำนวนมากแล้วผูกเกาทัณฑ์ยิงเข้าไปในเมือง เรียกร้องให้ชาวเมืองสวามิภักดิ์ หากผู้ใดจับตัวลิโป้มามอบจะให้บำเหน็จและจะแต่งตั้งเป็นขุนนาง


ครั้นรุ่งขึ้นโจโฉจึงสั่งให้แม่ทัพนายกองทั้งปวงเข้าโจมตีเมืองแห้ฝือทั้งสี่ด้านพร้อมกันลิโป้ได้ทราบรายงานการเข้าโจมตีจึงเรียกทหารให้เอาม้าเซ็กเธาว์มาขี่จึงได้ทราบว่าเฮาเสงลักเอาไปมอบแก่โจโฉแล้วก็โกรธรีบคว้าทวนประจำกายแล้วจึงขึ้นไปบัญชาการทหารบนเชิงเทิน ครั้นเห็นซงเหียนและงุยซกซึ่งได้ขอชีวิตเฮาเสงไว้ก็พาลหาว่าเป็นใจรู้เห็นด้วยและคาดโทษว่าเสร็จศึกแล้วจะประหารชีวิตเสียทั้งสองคน

โจโฉให้ทหารหักเข้าตีเมืองตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงก็ยังไม่สำเร็จ จึงสั่งให้สัญญาณถอยออกมาจากกำแพงเมือง ลิโป้เห็นทหารข้าศึกถอยไปคุมเชิงอยู่เช่นนั้นก็ไม่วางใจแต่อากาศยามเที่ยงร้อนจัดและแสงแดดจ้า จึงเข้าไปนั่งพักในศาลาบัญชาการบนกำแพงเมืองนั้น เอาทวนประจำกายพิงไว้กับเสาศาลา พักหนึ่งลิโป้ก็เผลอตัวม่อยหลับไปเพราะความเหนื่อยล้า



ซงเหียนและงุยซกเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปใกล้ เห็นลิโป้หลับจึงโบกมือเป็นสัญญาณให้ทหารในที่ข้างเคียงถอยออกไปแล้วทำทีจะเข้าไปปรึกษาราชการด้วยลิโป้ เห็นลิโป้ยังคงหลับอยู่จึงเอาเชือกมัดลิโป้วนตรึงไว้กับเสาศาลาอย่างแน่นหนา ลิโป้ตื่นขึ้นรู้ตัวว่าถูกมัดก็ตกใจ ร้องเรียกให้ทหารช่วยแต่ไม่มีใครเข้าช่วย ครั้นมัดลิโป้ไว้มั่นคงแล้วซงเหียนและงุยซกจึงสั่งทหารให้เปิดประตูเมืองและร้องบอกโจโฉว่าบัดนี้พวกเราได้จับตัวลิโป้ไว้ได้แล้ว



แฮหัวเอี๋ยนอยู่ในระยะใกล้ได้ยินดังนั้นจึงควบม้าเข้ามาใกล้ประตูเมือง แล้วร้องถามว่าไหนเล่าที่ว่าลิโป้ถูกจับตัวไว้ งุยซกเห็นฝ่ายโจโฉยังไม่วางใจจึงหยิบเอาทวนประจำตัวลิโป้โยนออกไปนอกกำแพงเมือง แฮหัวเอี๋ยนเห็นดังนั้นก็สิ้นสงสัยจึงสั่งทหารให้ยกเข้าไปในเมือง ฝ่ายโกสุ้นและเตียวเลี้ยวรักษาการณ์อยู่บนเชิงเทินด้านตะวันตกได้ทราบข่าวว่าซงเหียนและงุยซกก่อการขบถจึงรีบลงจากเชิงเทินจะมาช่วยลิโป้ ทหารของโจโฉที่เข้ามาในเมืองได้แล้วเห็นโกสุ้นและเตียวเลี้ยวจึงเข้าล้อมจับไว้ได้ทั้งสองคน


ทางด้านตันก๋งเห็นทหารโจโฉเข้ามาในเมืองได้ก็รีบควบม้าหนีออกจากเมืองทางประตูเมืองด้านทิศใต้ แต่พอพ้นจากประตูเมืองก็พบกับซิหลงทหารเอกของโจโฉและถูกซิหลงจับตัวไว้ได้

โจโฉได้นำทหารยกตามกองหน้าเข้าไปในเมือง เห็นน้ำท่วมเมืองตามแผนการความคิดของกุยแก ก็นึกสรรเสริญสติปัญญาของที่ปรึกษาผู้นี้ว่าเป็นเลิศกว่าที่ปรึกษาทั้งปวงแล้วออกคำสั่งให้ทหารรื้อถอนเขื่อนที่ทดน้ำนั้นออกไป น้ำที่ท่วมเมืองอยู่ก็แห้งลงอย่างรวดเร็ว


โจโฉได้จัดแจงการปกครองเมืองแห้ฝือเป็นปกติเรียบร้อยแล้วจึงชวนเล่าปี่ขึ้นไปที่หอบัญชาการบนกำแพงเมือง กวนอู และเตียวหุยก็เดินตามเล่าปี่ขึ้นไปด้วย จากนั้นโจโฉจึงสั่งให้ทหารคุมเอาตัวลิโป้ขึ้นมา ลิโป้ถูกมัดไว้อย่างแน่นหนาได้รับความเจ็บปวดเป็นอันมากจึงร้องขอให้โจโฉช่วยแก้มัด แต่โจโฉกลับตอบว่า "อันธรรมดาเสือจำจะผูกให้มั่นคง ซึ่งจะคลายออกนั้นไม่ได้"


ลิโป้เห็นซงเหียนและงุยซกยืนอยู่ ก็รู้ว่าสองนายทหารได้แปรพักตร์ไปเข้าโจโฉ จึงต่อว่าต่อขานด้วยความน้อยใจว่าเราเลี้ยงดูพวกท่านเป็นอย่างดี ไฉนจึงทรยศต่อเรา สองนายทหารจึงว่าพวกเราเป็นข้าในพระเจ้าเหี้ยนเต้ร่วมงานกับท่านมาโดยไม่เคยเห็นแก่ความยากลำบาก แต่ตัวท่านเปลี่ยนแปลงไปไม่เอาใจใส่เชื่อฟังเหล่าทหาร ถือเอาแต่คำสตรีเป็นใหญ่ และยังพาลคาดโทษพวกเราจะเอาถึงตาย ดั่งนี้จะว่าพวกเราทรยศได้อย่างไร


 ขณะนั้นทหารได้คุมตัวโกสุ้นเข้ามา โจโฉได้หันไปถามโกสุ้นว่าเจ้ามีสิ่งใดจะว่ากล่าวสั่งเสียหรือไม่ โกสุ้นไม่ตอบคำและเบือนหน้าหนี โจโฉจึงสั่งให้ทหารเอาตัวโกสุ้นไปประหาร



Sunday, December 18, 2011

#85 ความผิดพลาดของลิโป้




ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเฮาเสงนายกองม้าได้จับทหารที่แอบลักม้าเอาไปให้แก่เล่าปี่ได้ บรรดาเพื่อนนายทหารจึงพากันไปเยี่ยมเฮาเสงและขอร้องให้เฮาเสงจัดโต๊ะเลี้ยงสุราอาหาร เฮาเสงขัดใจพวกไม่ได้แต่เกรงอาญาลิโป้ที่ห้ามทหารดื่มสุราจึงไปขออนุญาตต่อลิโป้

ลิโป้กำลังเครียดหาทางออกในการศึกไม่ได้ ครั้นได้ยินคำเฮาเสงขออนุญาตเลี้ยงสุราเพื่อนนายทหารก็โกรธหาว่าเฮาเสงไม่เคารพวินัยศึก จึงสั่งให้ทหารเอาตัวเฮาเสงไปประหาร



ซงเหียน งุยซกและเพื่อนนายทหารเห็นดังนั้นก็ตกใจ แล้วช่วยกันขออภัยโทษให้กับเฮาเสง  ลิโป้เห็นนายทหารจำนวนมากขอร้องก็เว้นโทษตายให้แต่ให้เฆี่ยนเฮาเสงห้าสิบที

เพื่อนนายทหารทั้งนั้นเห็นอาการของเฮาเสงก็พากันสลดใจ  ซงเหียนจึงว่าบัดนี้ลิโป้เปลี่ยนแปรไปแล้วไม่ฟังความคิดที่ปรึกษาแลแม่ทัพนายกอง ฟังแต่คำภรรยามาปกครองบ้านเมืองและราชการสงคราม  มีปัญหาในราชการก็ไม่แก้ไข ขืนอยู่กับลิโป้ต่อไปก็จะพากันตายสิ้น ควรที่พวกเราจะได้แยกย้ายหนีเอาชีวิตรอดกันเถิด

งุยซกได้ยินคำซงเหียนเช่นนั้นจึงว่าพวกเรานั้นควรที่จะเข้าไปร่วมด้วยกับโจโฉกำจัดศัตรูแผ่นดินเพื่อเป็นความชอบ

เฮาเสงจึงว่าลิโป้บัดนี้หลงใหลอยู่กับสุราจนสุขภาพทรุดโทรม แต่กระนั้นความเข้มแข็งของลิโป้ก็ใช่ว่าจะหมดไป เพราะยังมีม้าเซ็กเธาว์และทวนประจำกายที่มีอานุภาพร้ายแรงสำหรับตัวอยู่ ดังนั้นหากพวกเราคิดจะกำจัดลิโป้ ข้าพเจ้าจะลักม้าเซ็กเธาว์เอาไปมอบแก่โจโฉ แล้วแจ้งความทั้งปวงให้โจโฉได้รับทราบไว้ชั้นหนึ่งก่อน

บรรดานายทหาร ณ ที่นั้นเห็นด้วยกับความคิดของซงเหียน งุยซก และ  เฮาเสง จึงจับมือกระทำสัตย์ต่อกันว่าจะตั้งใจทำการตามแผนการนี้ให้สำเร็จ


#84 โจโฉยึดเมืองแห้ฝือ






ลิโป้เมามายมากจนหน้าตาไม่เป็นผู้เป็นคน แม่นางเหงียมซีเห็นสามีตัวเองเศร้าหมองยิ่งนักจึงเอากระจกให้ดู ลิโป้จึงตกใจตัวเองเลิกกินเหล้าและสั่งให้ทหารทั้งปวงเลิกกินด้วย

ฝ่ายเตียวเอ๋งซึ่งเป็นเจ้าเมืองโห้ลายได้ทราบข่าวว่าโจโฉยกกองทัพมารบลิโป้ก็เกรงว่าหากโจโฉได้เมืองแห้ฝือแล้วจะยกไปยึดเมืองโห้ลาย จึงยกกองทัพจะไปช่วยลิโป้
แต่นายทหารได้คัดค้านว่าเมืองโห้ลายเป็นส่วนหนึ่งแห่งราชอาณาจักรฮั่น มิได้มีเหตุขัดข้องหมองใจกันแต่ประการใด จึงไม่ควรเข้าเกี่ยวข้องด้วยกรณีนี้
การยกกองทัพไปช่วยลิโป้เป็นการชักศึกเข้าบ้าน อาณาประชาราษฎรจะได้รับความเดือดร้อนในภายหลัง

 เตียวเอ๋งไม่ฟังคำทัดทานแล้วไม่พอใจจึงด่าว่าทหาร ทหารคนนั้นคิดว่าหากไม่ทำอะไรนั้นกิดอันตรายแก่บ้านเมืองแลราษฎร จึงวางแผนสังหารเตียวเอ๋งเสียแล้วตัดศีรษะจะเอามามอบแก่โจโฉเพื่อเอาความชอบในราชการ  ในขณะที่กำลังเดินทางจะไปหาโจโฉนั้น ก็โดนทหารคนสของเตียวเอ๋งจับได้และประหารชีวิตทหารที่ตัดคอเตียวเอ๋ง

 ครั้นโจโฉทราบความก็คาดหมายว่าภายในเมืองโห้ลายเหตุการณ์ย่อมไม่เป็นปกติ จึงสั่งให้สูหวนคุมทหารไปยึดเมืองโห้ลาย ทหารภายในเมืองได้ทราบข่าวว่าเตียวเอ๋งเจ้าเมืองตายแล้วจึงไม่เป็นใจสู้รบ เปิดประตูเมืองรับกองทัพของโจโฉแล้วยอมสวามิภักดิ์เข้าด้วย



ซุนฮกที่ปรึกษาจึงเสนอว่า
"ลิโป้กำลังตกในตาจน ดังนั้นหากท่านเลิกทัพกลับไปในโอกาสเช่นนี้ชัยชนะก็จะห่างไกลออกไป  ทั้งลิโป้ก็จะอาศัยโอกาสนี้ฟื้นตัวแล้วกระชับไมตรีกับอ้วนสุดจะทำให้สถานการณ์ยิ่งยากลำบาก จึงขอให้ท่านมานะทำการให้ได้ชัยชนะเสียแต่ในครั้งนี้ "

กุยแกที่ปรึกษาได้กล่าวสนับสนุนความคิดของซุนฮก
"ฤดูฝนและน้ำเหนือที่หลากมานี้ประดุจดังเทพยดาประทานชัยชนะให้แก่ท่านแล้ว  โจโฉสงสัยจึงถามว่าจะเอาชัยชนะต่อลิโป้ได้โดยประการใด"

โจโฉสงสัยจึงถามว่า "จะเอาชัยชนะต่อลิโป้ได้โดยประการใด"

กุยแกจึงไขว่าลักษณะภูมิประเทศของเมืองแห้ฝือ
"เมืองแห้ฝือนี้มีแม่น้ำไหลผ่านตัวเมืองด้านตะวันตก ดังนั้นจึงขอให้ท่านสั่งการให้ทำเขื่อนทดน้ำไว้ที่ปลายน้ำทางด้านทิศใต้  ครั้นน้ำเหนือหลากแรงมาน้ำก็จะท่วมเมืองแห้ฝือ ลิโป้คงถึงกาลปราชัยในครั้งนี้ เหตุนี้ข้าพเจ้าจึงว่าเทพดาได้ประทานชัยชนะแก่ท่านแล้ว"

โจโฉฟังข้อเสนอของกุยแกแล้วเห็นกระจ่างในชัยชนะจึงมีความยินดียิ่งนักสั่งการให้ทำการทดน้ำตามแผนของกุยแก และเพื่อเร่งให้น้ำท่วมเมืองเร็วขึ้นจึงให้ทำทำนบตามแนวฝั่งแม่น้ำฝั่งตะวันตกบังคับให้น้ำสูงท่วมเมืองมากขึ้นอย่างรวดเร็ว

ครั้นฝนตกหนักน้ำเหนือหลากแรงไหล่บ่าล้นทั้งสองฝั่งของแม่น้ำและไหลเข้าในเมือง ท่วมเมืองแห้ฝือเกือบทั้งเมืองประชาชนภายใต้ผู้นำอย่างลิโป้นั้นต้องเดือดร้อนไปทั่วหน้า

#83 ลิโป้เข้าตาจน



หลังจากลิโป้ออกจากห้องของเมียทั้ง 2 ก็มาปรึกษากับตันก๋งพูดอย่างกับคนไม่มีจิตใจจะรบอีกแล้ว ตันก๋งก็พยายามเกลี้ยกล่อมแต่ก็ไม่เป็นผล ตันก๋งเดินออกมาทอดถอนใจใหญ่ คิดใจใจว่าตัวเองคงจะถึงแก่ความตายเป็นแน่แท้ เมื่อก่อนคิดว่าสติปัญญาของตนคงประกบกับฝีมือลิโป้คงไม่มีใครทัดเทียม แต่กลับไม่เป็นดั่งที่ตนเองคิด นี่คือผลของการลงเรือผิดลำกับผู้นำที่โง่เขลาอย่างลิโป้

ที่ปรึกษา 2 คนของลิโป้รู้ว่าลิโป้ไม่มีใจสู้อีกแล้ว ก็เกรงว่าตัวเองคงจะถึงแก่ความตายดังนั้นจึงขออาสาลิโป้ไปเป็นทูตไปหา้อ้วนสุดเผื่อผูกดองรวมกำลังกัน ลิโป้ก็เห็นด้วยและก็คงดีกว่าไม่ทำอะไรเลย


2 ที่ปรึกษาเดินทางไปหาอ้วยสุด อ้วนสุดนั้นบอกว่าไม่เืชื่อใจลิโป้อีกแล้ว 2 ที่ปรึกษาจึงเกลี้ยกล่อมพร้อมเสนอว่าลิโป้จะส่งลูกสาวมาแต่งกับลูกชายอ้วนสุด อ้วนสุดได้ฟังใจก็ลังเลขึ้นมาอีกครั้งแล้วจึงบอกไปว่าให้ลิโป้ส่งลูกสาวมาก่อน อ้วนสุดถึงจะส่งทหารไปช่วย

ขากลับทหารที่นำทูตของลิโป้ที่ส่งไปหาอ้วนสุดนั้นโดนเตียวหุยจับได้ เตียวหุยจึงส่งไปให้เล่าปี่ เล่าปี่รู้ความดังนั้นจึงรีบส่งต่อไปให้โจโฉ โจโฉได้ไต่ถามจนได้เรื่องราว หลังจากนั้นโจโฉจึงสั่งให้ทหารล้อมเมืองแห้ผือไว้มิให้ใครเข้าออกได้อีก จากนั้นโจโฉจึงสั่งประหารที่ทหารของลิโ้ป้ทิ้งเสีย


ครั้ง 2 ที่ปรึกษามาถึงเมืองแห้ผือจึงรีบเข้าไปบอกลิโป้ว่าให้รีบนำตัวลูกสาวของตนมอบให้ลูกอ้วนสุดเสีย เพราะคิดว่าคงเป็นทางรอดสุดท้ายและสั่งให้ทหารมีฝีมือคุ้มกันขบวนแห่นี้ ลิโป้เห็นชอบจึงสั่งให้เตียวเลียว โกสุ้น คุมทหารคอยอารักขาอีกแรง



เมื่อออกเดินทางได้ซักพัก เสียกลองก็ดังขึ้น กองทัพของเล่าปี่ยกทัพมาสกัดพร้อมด้วย กวนอู เตียวหุย ลิโป้เห็นดังนั้นก็ตกใจรีบตีฝ่าออกไปแต่ไม่สำเร็จจึงสั่งทหารถอยกลับเข้าเมือง เมื่อแผนการไม่สมความคิดตนจึงเกิดอาการท้อแท้ใจที่จะสู้ ได้แต่ดื่มสุราเมามายเป็นเวลา 2 เดือน...