Tuesday, March 26, 2013

#194 งำเต็กผู้เด็ดเดี่ยว


หลังจากเลิกประชุม โลซกได้เข้าไปเยี่ยมอุกายเห็นอุกายบาดเจ็บหนักก็สงสาร แถมยังโกรธแค้นจิวยี่เป็นอันมาก โลซกรีบไปหาขงเบ้งพร้อมทั้งต่อว่าขงเบ้ง

โลซก : "ท่านนั้นเป็นคนใจดำยิ่งนัก เห็นอุยกายโดนโบยแล้วยังนิ่งเฉย พวกเราอยู่ใต้คำสั่งของจิวยี่จึงมิกล้าที่จะแย้ง แต่ท่านเป็นแขกเมืองไหนเลยไม่ออกตัวช่วยเหลือ"




ขงเบ้ง : "ฮ่าๆๆ ท่านกล่าวเช่นนี้ จิวยี่ใช้ท่านมาลองใจเราหรอกหรือ"  ขงเบ้งเห็นโลซกมาหลอกถามบ่อยๆจึงสนกลับแบบเจ็บๆ ^_^

โลซก : "เรามานี้เพราะว่าสงสารอุกายจึงมาต่อว่าท่าน ไม่เกี่ยวกับจิวยี่"

ขงเบ้งเห็นโลซกซื่อมากๆ ไม่มีพิษมีภัย ขงเบ้งจึงเฉลยแผนการเผาทัพของโจโฉของจิวยี่ให้โลซกฟัง โลซกเมื่อได้ฟังจึงขอโทษขงเบ้งที่กล่าวคำไม่สุภาพไป


พอผมมาวิเคราะห์ตัวโลซกแล้วก็ขำๆ โลซกนั้นเป็นคนฉลาดรู้ทันแผนชัวต๋ง ชัวโฮ แต่ไม่รู้ทันแผนจิวยี่ หลายต่อหลายครั้ง ไม่ค่อยมีอุบายใดๆ ตรงไปตรงมา พูดทุกอย่างด้วยความจริงใจ เป็นคนไม่มีพิษมีภัย

ขงเบ้งจึงบอกกับโลซกว่า : "ห้ามบอกความนี้แก่จิวยี่เด็ดขาด มิฉะนั้นจิวยี่จะหาเรื่องทำร้ายแล้ว และแผนการของนายเราทั้ง 2 คนก็จะไม่สำเร็จ บอกจิวยี่ไปว่า ตัวเราฝากตำหนิจิวยี่เนื่องที่โบยอุยกายด้วย"

โลซกได้ฟังก็เข้าใจ จึงไปหาจิวยี่ จิวยี่จึงถามโลซกว่า วันนี้ทหารทุกคนเป็นเช่นไร

โลซกจึงว่า "ทหารทุกคนไม่พอใจกับการกระทำของท่าน แต่มิกล้าพูดอะไร วันนี้เราได้ไปพบกับขงเบ้ง ขงเบ้งฝากตำหนิท่านที่ไร้ความเมตตา"


จิวยี่ได้ฟังก็หัวเราะจมลืมตัวบอกโลซกไปว่า "เราคิดแผนการนี้ ขงเบ้งนั้นรู้ไม่ทันเรา" แล้วจากนั้นจิวยี่จึงเฉลยแผนการทั้งหมดให้โลซกได้ฟัง โลซกจึงสรรเสริญปัญญาขงเบ้งที่เหนือกว่าจิวยี่ในใจ ทั้งนี้โลซกก็มิได้ปริปากบอกเรื่องที่ขงเบ้งรู้ทันประการใดให้จิวยี่รู้ เพราะขงเบ้งโดนขงเบ้งดัดเส้นมาหลายต่อหลายครั้งเหมือนกัน :)

วันต่อมางำเต็กได้เข้าไปหาอุยกายพร้อมทั้งบอกว่าตนรู้แผนการทั้งหมดแล้ว งำเต็กจึงอาสาเป็นทูตเพื่อที่จะไปหลอกโจโฉและพูดให้โจโฉนั้นเชื่อใจรับอุยกายเป็นพวก อุยกายก็สรรเสริญในความรักชาติของงำเต็ก


งำเต็กได้ปลอมตัวเป็นเชาประมงแต่โดนทหารโจโฉจับตัวได้จึงมัดไปมอบตัวแก่โจโฉ งำเต็กได้พบโจโฉจึงว่า

งำเต็ก : "ได้ยินข่าวลือว่าตัวเองใจคอกว้างขวาง รักเลี้ยงทหาร เห็นจะไม่จริง ซึ่งอุยกายจะมาเข้าร่วมกับท่านนั้นช่างเปล่าประโยชน์เสียจริงๆ"

โจโฉได้ยินงำเต็กเชิงปริศนาแต่ก็ระแวงงำเต็กและอุยกายจะมาเป็นไส้ศึก แต่อีกใจโจโฉก็รักใครเลี้ยงคนดี จึงถามงำเต็กไปว่า "ท่านมาที่นี่ต้องการสิ่งใด"

ว่าแล้วงำเต็กจึงแจงกับโจโฉว่า อุยกายไม่มีความผิดแค่แย้งจิวยี่ จิวยี่ก็ใช้อำนาจโบยอุยกายจนบาดเจ็บหนัก อุยกายโกรธแค้นจึงอยากจะขอเข้าร่วมกับกองทัพโจโฉ

โจโฉได้ฟังจึงว่า จิวยี่ใช้อุบายตื้นๆมาหลอกเราว่าแล้วก็สั่งให้ทหารนำตัวงำเต็กไปประหาร งำเต็กได้ฟังก็หัวเราะลั่น โจโฉจึงถามว่า

โจโฉ : "ท่านหัวเราะทำไม"

งำเต็ก : "ข้าหัวเราะอุกายที่มีตาหามีแววไม่ ไม่รู้จักดีชั่ว รีบสั่งให้ทหารประหารเราเถิด"

โจโฉเห็นความใจกล้าของงำเต็กจึงรั้งโทษไว้ก่อน งำเต็กใช้ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ยอมตาย จนทำให้โจโฉเชื่อใจสนิมจึงยอมรับ อุยกายเข้ามาเป็นพวก


ทางฝ่ายกำเหลงก็หลอกชัวต๋งและชัวโฮ มาตนก็มีใจออกห่างจิวยี่เช่นกัน จึงอยากจะขอเราร่วมกับโจโฉ ชัวต๋งและชัวโฮไม่รู้แผนเห็นเป็นการดีจึงเขียนจดหมดไปเล่าเนื้อความให้โจโฉฟัง โจโฉได้อ่านก็ยิ่งเชื่องำเต็กสนิทว่าทหารหลายคนเอาใจออกห่างจากจิวยี่และคิดว่า งำเต็ก อุยกายและกำเหลง จะเป็นดั่งผู้ที่จะนำชัยให้ตนเหมือนดั่งครั้งที่โจโฉทำศึกกับอ้วนเสี้ยวก็มีเขาฮิวที่มีใจออกห่างอ้วนเสี้ยวแล้วเป็นไส้ศึกทำให้โจโฉนั้นชนะสงครับกับอ้วนเสี้ยว

-->

Friday, March 22, 2013

#193 อุยกายยอมพลีกายเพื่อส่วนรวม


โจโฉโกรธแค้นขงเบ้งที่ ตนเองเสียรู้ เสียลูกเกาทัณฑ์ไปฟรีๆ 1 แสนดอก จึงเรียกซุนฮิวมาปรึกษา ซุนฮิวจึงว่าการที่จะชนะสงครามนี้ได้ ต้องรู้เขาและรู้เรา ฝ่ายเราเองแทบจะไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับฝ่ายกังตั๋งเลย ถ้าเป็นพวกเกมวางแผนก็จะแนวๆว่ามองไม่เห็นแผนที่ฝ่ายตรงข้าม จะเข้าตีทางไหนก็ยังไม่รู้

โจโฉจึงถามว่า ผู้ใดเหมาะสมกับงานนี้ ซุนฮิวเสนอให้ ชัวต๋งและชัวโฮ ซึ่งเป็นน้องของชัวมอที่ถูกประหาร แสร้งว่าโกรธแค้นท่านโจโฉแล้วไปเข้าร่วมกับฝ่ายกังตั๋งคอยสืบข่าวให้แก่เรา โจโฉได้ฟังก็เห็นชอบไปด้วย จากนั้นโจโฉจึงส่งชัวต๋งและชัวโฮเป็นไส้ศึก


ทางฝ่ายจิวยี่เมื่อรู้ว่าชัวต๋งและชัวโฮมาขอเข้าร่วมด้วยก็รู้แผนของโจโฉทะลุปรุโปร่ง จิวยี่จึงวางแผนซ้อนกลชัวต๋งและชัวโฮอีกที จิวยี่วางแผนกับกำเหลงเพื่อซ้อนกล 2 ทหารนี้ซึ่งแผนนี้จะเป็นความลับสุดยอดแม้นแต่โลซกก็ไม่รู้ โลซกเห็นจิวยี่หลงกลชัวต๋งและชัวโฮ เมื่อปลอดคนแล้วโลซกจึงเข้าไปแจงกับจิวยี่ จิวยี่แสร้งบอกโลซกไปว่า



จิวยี่ : "ข้าได้รับปาก 2 คนนี้แล้ว หากขับไล่ก็จะเสียคำพูด แม้ไล่ไปใครหล่ะจะอยากมาเข้ากับเราอีก"

โลซกเห็นจิวยี่ไม่ทันเกมก็ไม่รู้จะว่าประการใดจึงรีบไปแจงกับขงเบ้งให้มาช่วย และเล่าความทุกประการให้แก่ขงเบ้งฟัง เมื่อขงเบ้งได้ฟังก็หัวเราะเบาๆ โลซกจึงถามว่า

โลซก : "ท่านหัวเราะอันใดกันเล่า?"

ขงเบ้ง : "เราหัวเราะความซื่อของท่าน จิวยี่นั้นมิได้ซื่อแต่เป็นเพราะจิวยี่รู้จึงวางแผนอุบายตบตาทุกคน หากยิ่งคนรู้มากแผนก็จะไม่สำเร็จ จิวยี่จึงทำเช่นนี้" โลซกได้ฟังก็สบายใจขึ้น

ฝ่ายจิวยี่กำลังคิดหาแผนการซ้อนกลอยู่ ทันใดนั้น อุยกาย ขุนพลเฒ่าจึงมาขอพบ อุยกายเสนอให้จิวยี่วางแผนเผากองทัพของโจโฉ และอุกายของอาสาเป็นคนนำเพลิงไปเผาโจโฉเอง

จิวยี่จึงว่า การที่จะเข้าไปเป็นพวกของโจโฉนั้นยากยิ่งนัก อีกทั้งโจโฉนั้นเป็นคนขี้ระแวง หากจะให้โจโฉเชื่อใจนั้นจะต้องโบยหลังให้ได้รับความทรมานแสนสาหัส โจโฉจึงจะเชื่อสนิท แต่ท่านอุยกายนั้นแก่แล้วคงทนไม่ไหว

อุยกายได้ฟังก็ขออาสาการนี้ และต้องการตอบแทนบุญคุณตระกูลซุน จิวยี่ได้ฟังก็คุกเข่าขอบคุณอุกาย เช้าวันรุ่งขึ้นจิวยี่เรียกทุกคนมาประชุมกัน โดยนัดแนะแผนการกับอุกายไว้เรียบร้อยแล้ว

ในขณะที่จิวยี่กำลังอธิบายการสงครามนั้น อุยกายก็เดินออกมาบอกจิวยี่ต่อหน้าทหารทุกนายว่า ให้ยอมแพ้อ่อนน้อมต่อโจโฉตามความเห็นของเตียวเจียวจะดีกว่า

จิวยี่ได้ฟังก็โกรธจึงสั่งให้ทหารนำอุยกายไปประหาร แต่เหล่าทหารทุกคนขอร้องให้ไว้ชีวิตอุยกาย เนื่องจากอุยกายเป็นทหารเก่าแก่สมัยซุนเกี๋ยนสร้างความดีความชอบไว้เป็นจำนวนมาก จิวยี่เห็นดังนั้นจึงสั่งให้ทหารนำอุยกายไปโบย 100 ที ทหารทุกคนพากันขอร้องงดโทษให้อุยกาย เนื่องจากว่าอุยกายนั้นแก่มากแล้วคงทนโบยไม่ไหว แต่จิวยี่ก็ยืนการที่จะโบยให้ได้


ขงเบ้งอยู่ในที่ประชุมนั้นเห็นเหตุการณ์ก็ยิ่งเฉย อุยกายโดนโบกทีแล้วทีเล่า เลือดออกเป็นอันมาก อุยกายผู้พลีกายต่อตระกูลซุน การเสียสละครั้งนี้ยิ่งใหญ่นัก เมืองกังตั๋งมีคนรักชาติเช่นนี้ มีหรือจะแพ้โจโฉในศึกครั้งนี้...



Friday, March 15, 2013

#192 ขงเบ้งทำลูกเกาฑัณฑ์



จิวยี่โกรธเคืองที่ขงเบ้งรู้แผนการที่จะวางแผนสังหารชัวมอ เตียวอุ๋นได้ คิดว่าขงเบ้งผู้นี้รู้มากนัก หากเก็บไว้นานก็จะเป็นภัยต่อกังตั๋ง จิวยี่จึงวางแผนสังหารขงเบ้งอีกครั้ง เช้าวันต่อมาจิวยี่จึงเรียกโลซกให้ไปเชิญขงเบ้งมา

จิวยี่จึงว่า : "อีกไม่นานสงครามก็จะเกิดขึ้นแล้ว จึงอยากจะปรึกษาท่านอาจารย์ฮกหลงว่า อาวุธใดที่จำเป็นต่อสงครามครั้งนี้"

ขงเบ้ง : "สงครามครั้งนี้ต้องรบทาง ยุทธนาวี จึงต้องใช้เกาทัณฑ์เป็นอาวุธที่สำคัญในศึกสงคราม"

จิวยี่ : "ข้าพเจ้าเห็นด้วยกับความคิดของท่านอาจารย์ฮกหลง อันกองทัพของเราตอนนี้ก็ขาดเกาทัณฑ์ จึงใคร่ขอท่านอาจารย์ฮกหลงช่วยทำเกาทัณฑ์ 1 แสนดอก เพื่อใช้ในการศึกสงคราม ซึ่งงานนี้เป็นงานที่สำคัญมาก"

ขงเบ้ง : "ข้าพเจ้าเองพร้อมรับหน้าที่นี้ ว่าแต่ต้องการเกาทัณฑ์ 1 แสนดอกเมื่อไหร่"

จิวยี่ : "การศึกติดพลัน จะเนิ่นนานมิได้ จึงอยากจะให้เวลาท่าน 10 วัน จะได้หรือไม่?"

ขงเบ้งได้ฟังก็รู้ความหมายว่าการทำ เกาทัณฑ์ 1 แสนดอก ภายใน 10 วันนั้น เป็นไปได้ยาก หากจะทำจริงจิวยี่ก็คงจะหาทางขัดขวางทุกหนทาง อุบายนี้คงต้องการที่จะกลั่นแกล้งตน ตนเองจึงต้องแสดงสติปัญญาให้จิวยี่ได้รู้ไปซะเลย

ขงเบ้ง : "การศึกอยู่ตรงหน้า ข้าพเจ้าว่า 10 วันมันจะเนิ่นนานไป ข้าพเจ้าขอแค่ 3 วัน ข้าพเจ้าจะเอาเกาทัณฑ์ 1 แสนดอกมาให้ท่าน"

ในใจจิวยี่ก็สงสัยว่าขนาด 10 วันยังทำได้ยากแต่ขงเบ้งขอแค่เวลาเพียง 3 วัน จึงได้โอกาสตั้งขอหาขงเบ้ง จึงพูดกลับไปว่า "อยู่ในกองทัพมิควรพูดเล่น"

ขงเบ้ง : "ข้าพเจ้าเป็นผู้น้อยไหนเลยจะกล้าพูดเล่นกับท่านแม่ทัพ แต่ถ้าหากมิเชื่อใจ พร้อมจะทำทัณฑ์บนไว้กับท่าน หากข้าพเจ้านำเกาทัณฑ์ 1 แสนดอกมาให้ท่านภายใน 3 วันมิได้ก็พร้อมจะมอบศรีษะตามวินัยของกองทัพ"

ว่าแล้วก็บอกให้ทหารนำแท่นหมึกมาให้ขงเบ้งลงชื่อเขียนทัณฑ์บนไว้ จิวยี่ได้ทีจึงขี่แพะไล่ จึงว่า "วินัยทัพต้องเข้มงวด ข้าพขอดื่มอวยพรให้ท่านทำสำเร็จ หากขัดสนสิ่งใดก็ขอให้โลซกช่วยเหลือ"

จากนั้นขงเบ้งจึงลากลับไป




จากนั้นขงเบ้งจึงลากลับไป ส่วยจิวยี่ก็สั่งให้ทหารทุกคนห้ามช่วยเหลืองขงเบ้ง จิวยี่จึงบอกกับโลซกไปว่า

จิวยี่ : "ขงเบ้งอาสาครั้งนี้ รนหาที่ตายจริงๆ อยากขอให้ท่านโลซกไปสอดแนมดูซิว่าขงเบ้งจะเป็นเช่นไร"

จากนั้นโลซกก็เดินทางไปยังเรือน้อยของขงเบ้ง ขงเบ้งเห็นโลซกมาก็แสร้ทำเป็นต่อว่าโลซก

ขงเบ้ง : "ท่านโลซก เราห้ามมิให้ท่านบอกความแก่จิวยี่เรื่อง ที่เรารู้แผนการของจิวยี่ใช้สังหาร ชัวมอเตียวอุ๋น บัดนี้จิวยี่แกล้งหวังจะทำร้ายเรา จึงให้เราจัดทำลูก เกาทัณฑ์ 1 แสนดอก ในเวลา 3 วัน ขอให้ท่านโปรดหาทางช่วยเหลือเราจากการรับโทษด้วย"

โลซก : "ข้าพเจ้าเป็นคนตรงไปตรงมา จิวยี่ถามข้าพเจ้าก็ต้องบอก ท่านเองก็มีส่วนผิด จิวยี่ให้ท่านทำลูกเกาทัณฑ์เป็นเวลา 10 วัน แต่ท่านดันขอแค่ 3 วันเอง จะให้ข้าพเจ้าช่วยอะไรได้"

ขงเบ้ง : "เราไม่ขอสิ่งใดมาก ขอเพียงให้ท่านช่วยจัดแจงเรือให้ข้าพเจ้ายืมสัก 20 ลำ พร้อมทหารประจำเรือลำละ 30 คน ในเรือแต่ละลำให้บรรทุกฟางหญ้าทำเป็นฟ่อนจำนวน 1000 ฟ่อน วางไว้ที่ข้างเรือทั้งสองกราบ แล้วเอาผ้าดำคลุมไว้ให้มิดชิด และให้จัดม้าล่อฆ้องกลองให้พร้อมไว้สำหรับฉลองชัยชนะ ท่านจงจัดแจงแต่งการทั้งนี้ไว้ให้พร้อม ข้าพเจ้าต้องการเมื่อใดขอให้ได้เมื่อนั้น"

โลซกเห็นขงเบ้งขอเช่นนี้ก็สงสัย แต่ก็รู้สึกผิดจึงมิได้ไต่ถามและจัดแจงตามที่ขงเบ้งขอ ส่วนขงเบ้งย้ำคำพูดถึงโลซกอีกครั้งว่า

ขงเบ้ง : "หากจิวยี่ถามท่านว่าเราจัดการอย่างไร จงบอกไปแค่ว่า ข้าพเจ้าจะจัดเตรียมเกาทัณฑ์ 1 แสนให้จิวยี่มารับไปใน 3 วันข้างหน้า ซึ่งการจัดเตรียมอย่างไรนั้น ห้ามบอกจิวยี่เป็นอันขาด มิฉะนั้นจิวยี่จะแกล้งเราแล้วเราจะถูกตัวหัว"

โลซก : "วางใจได้เราจะไปบอกจิวยี่ดั่งที่ท่านพูด"

จากนั้นโลซกจึงไปเล่าความทั้งหมดให้แก่จิวยี่ฟัง โดยที่โลซกมิได้ปริปากพูดในสิ่งที่ขงเบ้งได้จัดเตรียมเช่นไร จิวยี่ก็มิได้สงสัยเพราะมั่นใจว่าขงเบ้งไม่มีทางทำได้ ผ่านไป 2 วัน โลซกก็แอบมาดูขงเบ้งอยู่เรื่อยๆ เห็นขงเบ้งนอนอยู่เรือน้อยอย่างสบายใจก็สงสัย ตกกลางคืน โลซกจึงแจ้งขงเบ้งว่า เรือที่ขอไว้มาจอดพร้อมแล้ว



จากนั้นขงเบ้งจึงชวนโลซกลงเรือเพื่อไปรับ เกาทัณฑ์ โลซกได้ฟังก็สงสัยจึงถามขงเบ้งไปว่า

โลซก : "ท่านจะไปรับเกาทัณฑ์ในที่แห่งใด?"

ขงเบ้ง : "เดี๋ยวท่านไปถึงแล้วก็จะรู้เอง"

จากนั้นขงเบ้งจึงชวนโลซกมาดื่มสุรา และพูดคุยกัน ขงเข้งจึงบอกกับโลซกว่า

ขงเบ้ง : "อันยอดขุนพลนั้นจะต้องวางแผนในการสงครามลึกล้ำกว่าคนทั่วไป ดั่งพญาครุฑที่บินสูงเกินกว่านกธรรมดาจะบินเทียบถึง การใช้กำลังมากเอาชนะคนที่มีกำลังน้อยนั้นเป็นสิ่งที่ใครๆก็ทำได้ ลิโป้ อ้วนสุด อ้วนเสี้ยว ล้วนอยู่ในประเภทนี้ ส่วนคนที่จะใช้กำลังน้อยชนะกำลังมานั้นเห็นมีแต่โจโฉและจิวยี่ ส่วนคนที่ใช้พลังจักรวาลนั้นเห็นมีแต่เพียงตัวเราเท่านั้น"

โลซก : "แล้วพลังแห่งจักรวาลที่ว่าคือสิ่งใด?"

ขงเบ้ง : "เมื่อครั้งเราทำศึกกับโจโฉที่เนินพกบ๋องเราใช้ ไฟ เผาทหารของโจโฉ ทั้ง 2 ครั้ง 2 ครา ซึ่งพลังจักรวาลนี้มีอานุภาพเหนือท่าน 10 หมื่นของโจโฉ เมื่อครั้งที่ลุ่มแม่น้ำแปะโห เราใช้ให้คนทำเขื่อนกั้นน้ำ เมื่อทัพโจโฉยกทัพมาเราก็ใช้ น้ำ ในการทำลายกองทัพโจโฉ ในแผ่นดินนี้จะมีใครเล่า ใช้พลังจักรวาลทำได้เหมือนตัวเรา"


โลซกได้ฟังก็ยกย่องสรรเสริญขงเบ้งเป็นอันมาก

ขงเบ้ง : "จิวยี่นั้นคิดริษยาตัวเรา จึงหาอุบายที่จะฆ่าเราเสีย สั่งให้เราทำลูกเกาฑัณฑ์ 1 แสนดอก ภายใน 10 วัน เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก หากเราขอความช่วยเหลือแก่ชาวกังตั๋ง จิวยี่ก็จะกลั่นแกล้งเราอีก หวังจะเอาชีวิตเรา แต่โชคดีที่เรามีความรู้เรื่องการพยากรอากาศ ล่วงรู้ว่าคืนนี้จะมีหมอกหนา เราจึงคิดแผนการแก้ไขปัญหานี้ได้"

เรือแล่นไปช้าๆ ไปยังฝั่ง เห็นแสงไฟสลัวๆ โลซกชำเรืองเห็น ค่ายของโจโฉ ก็ตกใจจึงถามขงเบ้งว่า

โลซก : "ท่านกำลังพาเราไปยังค่ายของโจโฉทำไมกันเล่า ท่านเสียสติไปแล้ว"

ขงเบ้ง : "ฮ่าๆๆๆ"

โลซก : "ถึงแม้นท่านจะทำเกาฑัณฑ์ ไม่สำเร็จ ท่านก็อย่าได้เอาชีวิตมาตายกับโจโฉ ท่านจงนำเรือนี้หนีกลับไปหาเล่าปี่นายท่าน เดี๋ยวเราจะไปพูดจับจิวยี่ช่วยเหลือท่านเอง"

ขงเบ้ง : "เรามิได้เอาชีวิตไปให้โจโฉ แต่เราจะไปเอาลูกเกาฑัณฑ์กับโจโฉต่างหาก ฮ่าๆๆๆ ทหาร!! นำเรือเทียบท่าโจโฉ ให้อยู่ในระยะเกาฑัณฑ์ จากนั้นตีกลองศึก"

โลซกเห็นเช่นนั้นก็ตกใจร้องด่าว่าขงเบ้งว่าเสียสติมทหารก็น้อย อาวุธก็ไม่มีจะไปสู้โจโฉได้อย่างไร

ขงเบ้ง : "ฮ่าๆๆๆๆ หมอกลงหนักเช่นนี้ ไหนเลยโจโฉจะกล้ายกทัพออกมารบ ท่านกับเรามาดิ่มสุรากันให้สบายใจเถิด"

ทางฝ่ายโจโฉกำลังพักผ่อนอย่างสงบอยู่ๆก็ได้ยินเสียงกลองศึกดังขึ้นก็ตกใจ สั่งทหารเตรียมพร้อมออกรบ สั่งอิกิ๋มและมอกาย ห้ามออกเรือ เนื่องจากหมอกลงจัดให้ยิงเกาฑัณฑ์จากฝั่งโจมตีไปยังเรือปริศนา



เตียวเลี้ยวและซิหลงยกทัพมาช่วยยิงเกาฑัณฑ์ไปยังเรือของข้าศึก เห็นเรือของข้าศึกมีเงาดำๆที่ขงเบ้งเอาผ้าคุมกองฟางไว้เสนือมมีคนอยู่จำนวนมาก ของทหารโจโฉคิดว่าเป็นข้าศึกก็ยิ่งเอาๆ ทั้งคืน

ขงเบ้งเห็นว่าลูกเกาฑัณฑ์ของโจโฉมาติดหุ่นฟางคนตนจำนวนมากแล้ว นับดูคร่าวๆน่าจะถึง 1 แสนดอก ฟ้าสางสว่างพอดี ขงเบ้งสั่งให้ทหารหยุดตีกลองศึกแล้วให้ตะโกนขึ้นไปว่า "ขอบคุณโจโฉที่ให้ยืมเกาฑัณฑ์ วันหน้าจะมาคืน"

หมอกเริ่มจางโจโฉเริ่มมองเห็นเรือทุกลำเป็นหุ่นฟาง จากนั้นก็เห็นขงเบ้งยืนยิ้ม ก็รู้ตัวว่าตัวเองเสียรู้แก่ขงเบ้งไปเสียแล้ว จากนั้นขงเบ้งจึงหันเรือกลับ


ขงเบ้ง : "เรามิได้เสียทหารซักคน ไม่ต้องออกแรงทำเกาฑัณฑ์เอง ก็ได้ลูกเกาฑัณฑ์จำนวน 1 แสนดอกแล้ว"

โลซก : "เหตุไฉนท่านถึงรู้ว่าวันนี้หมอกจะลงหนักกันเล่า?"

ขงเบ้ง : "ฮ่าๆๆๆ อันธรรมดาหากมิรู้การบนฟ้าอากาศ ก็มิใช่ผู้มีสติปัญญา เราเองรู้ว่าวันนี้หมอกจะลงหนักจึงกล้าที่จะทำทัฑบนไว้กับจิวยี่"

พอมาถึงฝั่งจิวยี่ก็พบกับลูกเกาฑัณฑ์จำนวนมหาศาล โดยทหารนับจำนวนทั้งหมดเกิน 1 แสนดอก จิวยี่ส่ายหัวอยู่เป็นพักใหญ่รำพึงออกมาว่า "ขงเบ้งมีสติปัญญาเปรียบดึ่งเทวดา เก่งว่าตัวเรามากต่อมาก" จากนั้นจิวยี่จึงเข้าไปสรรเสริญขงเบ้ง


จิวยี่สั่งให้ทหารจัดเลี้ยงกินโต๊ะแล้วเชิญขงเบ้งไปคุย ถามขงเบ้งว่า

จิวยี่ : "การทำสงครามกับโจโฉนั้นเรามีอุบายอย่างหนึ่ง อยากจะปรึกษาท่านว่าเป็นเช่นไร"

ขงเบ้ง : "ท่านอย่าพึ่งบอกอุบายนั้น เราขอคิดสักครู่...........เราคิดอุบายได้อย่างหนึ่งไม่รู้ว่าตรงกับท่านหรือปล่าว ดังนั้นท่านและเรา เขียนอุบายใส่ลงฝ่ายมือ แล้วเปิดขึ้นมาดูพร้อมกัน"

ทั้งขงเบ้งและจิวยี่ต่างก็เขียนลงฝ่ามือและเปิดออกมาดูพร้อมกัน เป็นตัวอักษรคำว่า "ไฟ" ดังนั้นสงครามครั้งนี้ หากจะชนะโจโฉได้ จำเป็นต้องใช้ไฟในการเผาทัพโจโฉ


Wednesday, March 13, 2013

#191 ประหารชัวมอเตียวอุ๋น



วันต่อมาโจโฉได้ส่งทูตมาหาจิวยี่พร้อมทั้งบอกให้จิวยี่ยอมแพ้ จิวยี่โกรธโจโฉเป็นอันมากฉีกหนังสือทิ้งพร้อมทั้งลากตัวทูตไปประหาร โจโฉรู้ข่าวจิวยี่ประหารทูตตนเองก็โกรธ ด่าจิวยี่ว่า "จิวยี่ไอ้เด็กอมมือชั่งโอหังยิ่งนัก" โจโฉแต่งตั้งชัวมอเตี๋ยวอุ๋นเป็นแม่ทัพเรือ ยกกองทัพเรือออกรบยังลุ่มแม่น้ำซำกั๋ง



จิวยี่ส่งให้กำเหลงเป็นทัพหน้า ฮันต๋งเป็นปีกขวา เจียวขิมเป็นปีกซ้าย จิวยี่เป็นทัพหลวง ยกทัพไปทำศึกกับโจโฉ ในศึกยกแรก จิวยี่ชนะ

โจโฉเห็นว่าทัพตัวเองพ่ายแพ้ก็โกรธจึงเรียกชัวมอและเตียวอุ๋นมา

โจโฉ : "ทหารเรามีมากกว่าเยอะ เหตุใดถึงแพ้? หรือว่าพักเจ้าไม่ตั้งใจทำศึก"

ชัวมอ : "อันเนื่องจากทหารฝ่ายเมืองเกงจิ๋วไม่ได้ทำศึกมานานอีกทั้งทหารทางภาคเหนือรบทางเรือไม่เป็น จำต้องฝึกฝนให้หนัก"

โจโฉจึงสั่งให้ชัวมอเตี๋ยวอุ๋นฝึกทหารเป็นอยางหนัก ทางฝ่ายเจียวก้านขออาสาโจโฉไปเกลี้ยกล่อมจิวยี่เอง  หากสำเร็จโจโฉก็มิต้องออกรบให้เสียทหาร เจี้ยวก้านอ้างว่าเป็นเพื่่อนเก่าของจิวยี่ จิวยี่น่าจะฟังตน โจโฉได้ยินเช่นนั้นก็เห็นด้วยจึงส่งจิวก้านไป จิวยี่เมื่อรู้ว่าเจียวก้านมาพบก็เดาสถานการณ์ออก จิวยี่เลยต้องการซ้อนกลเจียวก้านกลับไป จิวยี่แสร้งขุนเคืองเจียวก้าน หากเจียวก้านนั้นมาคุยเรื่องสงคราม เจียวก้านเห็นจิวยี่ดักคอเช่นนั้นจึงไม่กล้าเอ่ยปากเกลี้ยกล่อมจิวยี่ให้ยอมแพ้


จิวยี่จึงพาเจียวก้านไปดูความยิ่งใหญ่ของกองทัพเรือ จิวยี่ต้องการข่มขวัญเจียวก้าน จากนั้นก็พอเจียวก้านไปกินโต๊ะ จิวยี่จึงชัดดาบอาญาสิทธิ์ออกมามอบให้ ไทสูจู้ พร้อมทั้งบอกว่า "วันนี้มีงานเลี้ยง ห้ามใครพูดใดพูดถึงเรื่องศึกสงคราม หากใครพูดขึ้นมาให้เอาดาบนี้ประหารได้ทันที ไม่เว้นแม้แต่เจียวก้านเพื่อนเรา"


เจียวก้านได้ยินเช่นนั้นก็ไม่กล้าที่จะเกลี้ยกล่อมจิวยี่อีกเลย จิวยี่กินเหล้าไปพูดโม้ไปเกี่ยวกับข้าวปลาอาหารของเมืองกังตั๋งนั้นอุดมสมบูรณ์โดยทำสงครามจิตวิทยากับเจียวก้าน เพื่อให้เจียวก้านไปพูดข่มขวัญโจโฉแทน

จิวยีแกล้งกินเหล้าเมามายไม่ได้สติ เมื่อเมาเต็มที่ก็เรียกให้เจียวก้านไปนอนด้วยกัน จิวยี่ได้เตรียมแผนเขียนหนังสือปลอมหลอกทิ้งไว้ในห้องและจิวยี่ก็แสร้งเป็นหลับไป ฝ่ายเจียวก้านเองอาสาโจโฉมายังมิได้ทำตามคำสั่งก็กระวนกระวายนอนไม่หลับ จึงลุกขึ้นมาเหลือบไปเองจดหมายปลอมที่จิวยี่ทำขึ้นมา สำคัญผิดว่าเป็นจดหมายสำคัญ ในเนื่อความจดหมายเขียนว่า "จากชัวโมเตียวอุ๋น บัดนี้พวกเราได้แกล้งเข้าร่วมเป็นไส้ศึกกับโจโฉแล้ว กำลังคิดอ่านสังหารโจโฉ ขอให้ท่าจิวยี่โปรดวางใจ"


เจียวก้านได้อ่านก็ตกใจจึงรีบปลอมจดหมายขึ้นมาฉบับที่ 2 โดยเอาจดหมายฉบับนี้รีบนำไปให้โจโฉ เพื่อที่จะได้เป็นผลงานของตน โจโฉเมื่อได้อ่านจดหมายก็ตกใจ ด้วยความนิสัยขี้ระแวงอยู่แล้วก็เชื่อเจียวก้านสนิทใจ จากนั้นจึงเรียกชัวมอเตียวอุ๋นมาพบ


โจโฉ : "วันนี้ขอให้พวกเจ้า เตรียมเรือรบ ออกไปทำศึกกับจิวยี่"

ชัวมอ : "ยังมิควรจะไปทำศึกตอนนี้เนื่องจากยังฝึกทหารยังไม่เสร็จ ทหารยังไม่พร้อมที่จะออกรบในตอนนี้"

ชัวมอพูดไปตามความจริงว่าทหารเองก็ยังไม่พร้อมรบ แต่โจโฉคิดระแวงคิดว่า 2 คนนี้ไม่ออกรบเนื่องจากเป็นพวกเดียวกันกับจิวยี่ อีกทั้งการรบครั้งแรกกับจิวยี่ก็แพ้มาไม่เป็นท่า

โจโฉ : "หากรอให้ทหารฝึกเสร็จ หัวเรามิถูกพวกเจ้าตัดหัวไปมอบให้จิวยี่แล้วหรอกหรือ ทหารนำ 2 คนนี้ไปตัดหัว"
ชัวมอเตียวอุ๋นทั้ง 2 คนต่างก็ตกใจทั้งที่ตนเองก็หมั่นฝึกทหารอย่างหนักแต่สุดท้ายก็ต้องถูกตัวหัว เจียวก้านเห็นโจโฉนั้นปลอดภัยแล้วคิดว่าเป็นผลงานตนก็ยิ้ม โจโฉเมื่อรู้สึกตัวอีกที สำนึกผิดว่านี่คือแผนการของจิวยี่ก็สายไปเสียแล้ว ทหารนำหัวของ ชัวมอและเตียวอุ๋นมามอบให้ โจโฉเมื่อรู้สึกตัวก็รู้ว่าเจี้ยวก้านต้องกลเจียวยี่เสียแล้ว โจโฉเห็นตัวเองพลาดท่าก็เสียหน้าเช่นกันจึงกำชับเจียวก้านว่า เรื่องนี้อย่าได้ไปบอกใคร เจียวก้านจึงรับปาก

เหล่าทหารเมื่อรู้ว่าชัวมอและเตี๋ยวอุ๋นถูกประหารก็รีบเดินทางมาพบโจโฉ ถามว่าเหตุอันใดจึงประหาร 2 แม่ทัพคนนี้ เพราะ 2 แม่ทัพคนนี้ก็ฝึกฝนทหารเป็นอย่างดี โจโฉจึงพูดปัดๆไปว่า "2 คนนี้ฝึกทหารมาช้านานแล้วไม่คืบหน้า เราจึงประหารเสีย" จากนั้นโจโฉจึงแต่งตั้งให้ อิกิ๋มและมอกายเป็นแม่ทัพฝึกทหารเรือ


ชีซีที่อยู่ในนั้นด้วยก็อมยิ้มเพราะรู้ว่าโจโฉต้องกลจิวยี่ โจโฉมองหน้าชีซีก็รู้ความหมายแต่ก็มิรู้ทำประการใดจึงสั่งให้ทหารและที่ปรึกษาทุกคนออกไป


จิวยี่เมื่อรู้ข่าวว่า 2 แม่ทัพ ชัวมอและเตียวอุ๋นถูกโจโฉประหารตามแผนของตนแล้วก็ดีใจจึงเรียกโลซกให้ไปเป็น spy ไปสืบข่าวว่าขงเบ้งนั้นรู้ทันแผนของตนหรือไม่ ทั้งนี้ก็เป็นความสุขเล็กๆของจิวยี่หากขงเบ้งนั้นรู้ไม่ทันความคิดตน

ทางฝ่ายขงเบ้งเองเมื่อวันก่อนได้ยินเสียงงานเลี้ยงกินโต๊ะจึงสั่งให้ทหารไปสืบ ขงเบ้งก็รู้ว่า เจียวก้านที่ปรึกษาของโจโฉ เป็นมิตรเก่าจิวยี่ ก็เลยมาสังสรรค์ อีกทั้งยังได้ข่าววันรุ่งขึ้นว่าโจโฉสั่งประหารชัวมอเตี๋ยวอุ๋น เนื่องจากไม่ตั้งใจฝึกทหาร ขงเบ้งก็หัวเราะในแผนการของจิวยี่

ไม่ทันไรโลซกก็เดินทางมาพบ ขงเบ้งรู้ว่าโลซกมาด้วยเหตุผลประการใด จึงต้องการข่มขวัญจิวยี่ เมื่อพบหน้ากับโลซก ขงเบ้งจึงพูดว่า


ขงเบ้ง : "ข้าพเจ้าเองก็ทำงานหนัก มิมีเวลาไปยินดีกับท่านแม่ทัพจิวยี่ จงอภัยให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด"

โลซก : "ท่านยินดีกับท่าแม่ทัพเรื่องอันใดกันเล่า?"

ขงเบ้ง : "ก็ยินดีเรื่องที่จิวยี่หลอกเจียวก้าน เพื่อให้เจียวก้านไปหลอกให้โจโฉ ตัดหัวชัวมอเตี๋ยวอุ๋น 2 แม่ทัพเมืองเกงจิ๋วไง แต่อุบายนี้หลอกโจโฉได้เพียงครู่เดียวเท่านั้นเองแหละ"

โลซกตกใจที่ตนเองยังไม่ได้พูดอะไรแต่ขงเบ้งกลับรู้ความทั้งหมด

ขงเบ้งจึงทำสงครามจิตวิทยาต่อไปว่า

ขงเบ้ง : "ขอให้ท่านโลซกอย่าได้นำความนี้ไปบอกกับจิวยี่ หากจิวยี่รู้ก็คิดอิจฉาข้าพเจ้า หาเรื่องทำร้ายข้าพเจ้าอีก"

โลซกรับปากขงเบ้ง แต่ก็จำต้องไปรายงานแก่จิวยี่ฟัง จิวยี่ได้ฟังก็โกรธที่ขงเบ้งรู้ทันความคิดตน มองว่าขงเบ้งนั้นเป็นเทวดา หากไม่รีบกำจัดจะยิ่งเป็นภัย
-->

Tuesday, March 12, 2013

#190 จิวยี่วางแผนสังหารเล่าปี่

ทางฝ่ายเล่าปี่เมื่อรู้ว่าขงเบ้งนั้นไปเมืองกังตั๋งนานวันแล้วยังมิได้ติดต่อกลับมาก็รู้สึกเป็นห่วง จึงส่งบิต๊กข้ามน้ำไปยังเมืองกังตั๋ง เพื่อสืบข่าวขงเบ้ง

จิวยี่เมื่อรู้ว่าเล่าปี่ส่งคนมาก็ดีใจอีกทั้งยังนึกแผนที่จะสังหารเล่าปี่ บิต๊กนำของมามอบแก่จิวยี่ทำสัมพันธไมตรี บิต๊กจึงแจ้งความต่อจิวยี่ว่า ให้เรียกขงเบ้งมาพบหน่อย เล่าปี่ฝากความคิดถึงมาให้แก่ขงเบ้งและต้องการเรียกขงเบ้งกลับไปคิดอ่านทำศึกสงครามกับโจโฉ

จิวยี่ปฎิเสธพร้อมแจงว่าขงเบ้งนั้นตอนนี้อยู่ในราชการช่วยคิดอ่านทำสงครามอยู่ที่นี่ จึงฝากให้บิต๊กกลับไปแจ้งกับเล่าปี่ให้เล่าปี่เดินทางมาพบขงเบ้งเองจะดีกว่า อีกทั้งจิวยี่ก็จะได้พูดคุยกับเล่าปี่อีกด้วย แต่แท้ที่จริงแล้วจิวยี่ต้องการเรียกเล่าปี่มาสังหารนั่นเอง


บิต๊กจึงลากลับไปพร้อมทั้งแจ้งความต่อเล่าปี่ จิวยี่จึงเรียกโลซกมาปรึกษาแผนการสังหารเล่าปี่ เมื่อโลซกได้ฟังก็ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่จิวยี่ก็จะทำ จิวยี่จัดแจงทหารจัดงานเลี้ยงรำกระบี่ให้เล่าปี่ดู เมื่อจิวยี่ทิ้งจอกสุราเป็นสัญญาณให้ทหารรีบเข้ามาสังหารเล่าปี่ทันที

ฝ่ายเล่าปี่ก็เตรียมตัวข้ามน้ำมาหาจิวยี่ กวนอูจึงท้วงว่าอย่าได้ไปเลย อาจจะเป็นอุบายของจิวยี่ แต่เล่าปี่ก็ยังยืนยันว่า จำเป็นต้องไปในเมื่อซุนกวนเป็นพันธมิตรเราแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จิวยี่จะทำร้ายเรา เล่าปี่วิเคราะห์แบบนี้กลายเป็นคนมองโลกในแง่ดีจนเกินไป

กวนอูจึงว่า "หากพี่ใหญ่ต้องการจะไปข้าพเจ้าขอติดตาม อารักขาพี่ใหญ่เอง"

เล่าปี่ก็ยินดีให้กวนอูตามไป พร้อมทั้งทหาร 50 คน ขึ้นอ่าวปากน้ำเมืองซำกั๋ง จิวยี่รู้ว่าเล่าปี่เดินทางมาก็ดีใจ คิดว่าต้องสังหารเล่าปี่ได้แน่ๆ จิวยี่ได้พบกับเล่าปี่ทักทายกันพร้อมทั้งนั่งดื่มสุรากินเลี้ยง มีดนตรี รำกระบี่

ทางฝ่ายขงเบ้งนอนอยู่บนเรือน้อยด้วยความสงบ คำนวนทิศทางวงโคจรของดาว อากาศและกระแสลม จากน้ันก็ได้ยินเสียงดนตรีบรรเลงมาแต่ไกลๆฟังดูเหมือนมีแผนร้ายแอบแฝง ขงเบ้งสังหรใจไม่ดีจึงรีบวิ่งไปดูจุดเกิดเหตุ ได้พบเห็นเล่าปี่นั่งพูดคุยกับจิวยี่ และเห็นเหล่าที่หารถืออาวุธรำกระบี่อยู่ตรงหน้า ก็ตกใจสุดขีด คิดว่านายตรจะต้องตายแน่ๆ แต่ก็เหลือบมองไปพบ กวนอูยืนอารักขาเล่าปี่อยู่ข้างกาย ขงเบ้งเห็นดังนั้นก็อุทานขึ้นมาว่า "เล่าปี่นายเรารอดตายแล้ว"


จิวยี่นั่งดื่มสุรากับเล่าปี่ จิวยี่กำลังจะสงสัญญาณทิ่งจอกสุรา แต่ก็เหลือบมองไปเห็นกวนอูที่อยู่ข้างกายเล่าปี่ดูน่าเกรงขามยิ่งนัก จิวยี่จึงถามเล่าปี่ว่า ผู้ที่ยืนข้างกายท่านคือผู้ใด

เล่าปี่ : "ผู้นี้คือกวนอูน้องร่วมสาบาญของเรา"

จิวยี่ : "ใช่กวนอูที่สังหารงันเหลียง และ บุนทิว ทหารเอกของอ้วนเสี้ยวหรือไม่?"

เล่าปี่ : "ใช่กวนอูผู้นี้เองแหละที่สังหาร 2 ทหารเอกของอ้วนเสี้ยว"


จิวยี่ได้รับคำตอบเช่นนั้นก็เหงื่อตก เพราะระยะกวนอยูนั้นอยู่ไกล้กับตนมาก หากมีอะไรเกิดขึ้นกวนอูคงตัวหัวตนเองในพริ๊บตา จิวยี่คิดถึงดังจึงไม่กล้าที่จะโยนจอกสุราเป็นสัญญาณ พร้อมทั้งล้มเลิกแผนการนี้ลง

เล่าปี่อยากพบขงเบ้ง แต่จิวยี่บอกเล่าปี่ไปว่า ตอนนี้ขงเบ้งวงแผนการรบอยู่ยังมิควรที่จะได้พบตอนนี้ เอาไวเสร็จหลังสงครามแล้วค่อยมาพบ เล่าปี่จึงขอลากลับไปที่เรือ ขงเบ้งเองก็มารอเล่าปี่ที่เรือแล้ว เล่าปี่ได้พบขงเบ้งก็ดีใจ ทักทายกัน ขงเบ้งจึงว่า "วันนี้ท่านโชคดีที่มากับกวนอู มิฉะนั้นท่านอาจจะโดนจิวยี่ฆ่าตายแล้วก็ได้" เล่าปี่ได้ฟังก็รู้แผนการจิวยี่ทุกประการและเกรงว่าขงเบ้งจะอยู่ในอันตรายเช่นกันจึงชวนขงเบ้งกลับ ขงเบ้งปฎิเสธและบอกเล่าปี่ว่าไม่ต้องห่วง จากนั้นขงเบ้งจึงบอกกลับเล่าปี่ว่า


ขงเบ้ง : "เดือนอ้ายแรม 5 ค่ำ ให้จูล่งนำเรือมารับที่ปากน้ำทางภาคใต้ ห้ามผิดนัดเป็นอันขาด"

เล่าปี่ : "ท่านทีแผนการอันใด"

ขงเบ้ง : "ท่านจงคอยดูเอา เมื่อลมสลาตันมาทางทิศอาคเนย์เมื่อใด ข้าพเจ้าก็จะกลับไปวันนั้น"


ขงเบ้งได้กำหนดแผนการทำศึกระหว่างโจโฉและซุนกวนตั้งแต่ต้นจนจบไว้หมดแล้ว เปรียบดั่งหมากรุกที่ขเบ้งมองเห็นทั้งกระดานว่าจะเดินตาไหนก่อน นับว่าเป็นสุดยอดกุนซือเลยทีเดียว เล่าปี่ได้ถามถึงแผนการแต่ขงเบ้งก็ไม่ยอมปริปากพูดออกมา ขงเบ้งคิดว่าแผนนี้ต้องเป็นความลับเป็นอันมากจึงรักษาความลับนั้นไว้แม้นแต่นายตัวเองก็ไม่รู้

-->