โฮจิ๋นนั้นเป็นขุนนางผู้ใหญ่ในสมัยปลายของราชวงศ์ฮั่น เป็นพี่ชายของแม่นางโฮเฮา ซึ่งแม่นางโฮเฮานั้นเป็นมเหสีของพระเจ้าเลนเต้ ต่อมาแม่นางโฮเฮานั้นได้มีราชบุตรชื่อ หองจูเปียน ที่มีฐานะเป็นรัชทายาทฮ่องเต้นั่นเอง ดังนั้นโอจิ๋นจึงเป็นลุงของรัชทายาท
โฮจิ๋นนั้นเคยเป็นพ่อค้าขายเนื้อได้เข้ามามีตำแหต่งในเมืองหลวงก็เพราะน้องสาวของตัวเอง ดังนั้นอำนาจทางการทหารจึงอยู่ในมือของโฮจิ๋นทั้งหมด หลังจากพระเจ้าเลนเต้สิ้นพระชน โฮจิ๋นจึงได้แต่ตั้งหองจูเปียนเป็นฮ่องเต้ อำนาจของโฮจิ๋นก็ยิ่งมากขึ้นๆ
ตันหลิม: ตัวท่านวันนี้ราชการเมืองก็เป็นสิทธิ์ขาดแก่ท่าน ขุนนางทั้งปวงก็อยู่ในเงื้อมือท่าน อันขันทีสิบคนเหมือนหนี่งแมลงเม่า ตัวท่านเหมือนกองเพลิงอันใหญ่ แมลงเม่าหรือจะสู้เพลิงได้ ถ้าท่านจะคิดประการใดก็สมดังปรารถนา อันหัวเมืองทั้่งปวงจะยกทหารเข้ามา ถ้าได้ตัวสิบขันทีแล้ว เห็นหัวเมืองต่างๆจะกำเริบ เกิดศึกกลางเมือง
โจโฉ : อันขันทีที่หยาบช้านั้น มีสติปัญญาเป็นใหญ่อยู่คนสองคนดอก ถ้าจะคิดจับเอาแต่นายใหญ่นั้นฆ่าเสียก็จะได้โดยง่าย ทำไมจะให้ร้อนถึงหัวเมืองนกเป็นกระบวนทัพเอิกเกริกมาเล่า
แต่โฮจิ๋นก็ด่ว่าโจโฉเป็นพวกเดียวกับสิบขันทีเสียอีก เฮ้ออออเป็นงั้นไป
โจโฉถึงกับตะโกนออกมาว่า: แผ่นดินจะชิบหายก็เพราะโฮจิ๋น แล้วมันก็เป็นจริงดั่งคำของโจโฉ
จากนั้นสิบขันทีก็วางแผนฆ่าโฮจิ๋นจึงอ้างรับสั่งของแม่นางโฮเฮาเรียกโฮจิ๋นเข้าไปหา โจโฉและอ้วนเสี้ยวได้ห้ามปรามว่ามันเป็นอุบายของสิบขันทีหลอกไปฆ่าแต่โฮจิ๋นก็ไม่เชื่อฟัง
โจโฉจึงเตือนว่า ถ้าจะเข้าไปต้องบอกให้สิบขันทีออกมาข้างนอกก่อนค่อยเข้าไป แต่โฮจิ๋นก็ไม่ฟัง หลังจากผ่านประตูเข้าไป โฮจิ๋นก็โดนสิบขันทีเอามีดกระบี่มาทิ่งแทงจนตาย จากนั้นก็โยนหัวโฮจิ๋นออกมานอกกำแพง โจโฉและอ้วนเสี้ยวเห็นจึงเข้าไปฆ่าสิบขันทีจนเกลี้ยง
ก็จะเห็นได้ว่า โฮจิ๋นนั้นแทบจะมีอำนาจล้นฟ้า แต่ใช้ไม่เป็นไร้ซึ่งสติปัญญาชีวิตตัวเองก็เอาตัวไม่รอด มีทั้งลูกน้องมือดีแต่ก็ไม่เชื่อฟัง อำนาจนั้นได้หลุดหายจากมือไปอย่างน่าเสียดาย...