หลังจากที่โจโฉและตันก๋งขี่้ม้าออกจากเมืองมาเป็นเวลา 3 วันแล้ว โจโฉจึงบอกตันก๋งว่าเราจะไปแวะพักที่บ้าน แปะเฉีย ซึ่งเป็นสหายเก่ากับโจโก๋ผู้เป็นบิดาเขาเรา พอพบกับแปะเฉีย แปะเฉียก็ดีใจบอกโจโฉว่า บิดาท่านได้หนีออกไปยังเมืองตันลิวแล้ววางใจได้ เดี๋ยววันนี้จะเลี้ยงเหล้าและอาหารเป็นอย่างดี ว่าแล้ว แปะเฉีย ก็แจ้งไปยังพ่อบ้านแม่บ้านให้จัดทำอาหารส่วนตัวแปะเฉียเองจะไปซื้อเหล้า
หลังจากโจโฉเข้ามาพักผ่อนงีบหลับไปพลางก็ได้ยินเสียงคนซุบซิบกันความว่า "จะมัดก่อนหรือจะฆ่าทีเดียวเลย" โจโฉและตันก๋งต่างก็ตกใจอีกทั้งยังได้ยินเสียงคนรับมีดและต่างก็สงสัยว่าแปะเฉียคงเข้าไปในเมืองเพื่อแจ้งทางการก็ได้ ด้วยความที่โจโฉเป็นคนขี้ระแวงแล้วโจโฉจึงชักกระบี่ออกไปฟันผู้คนตายทั้งบ้านพร้อมลูกและเมียของแปะเฉียรวม 8 ศพ
ตันก๋งเหลือบไปเห็นหมูถูกมัดอยู่พร้อมกะเห็นน้ำร้อนกำลังต้มก็ตกใจ บอกโจโฉว่า เสียงที่ได้ยินนั้นหมายถึงเค้าฆ่าหมูให้เรากินกันแล้วก็ด่าว่าโจโฉที่รีบด่วนตัดสินใจฆ่าคนบริสุทธิ์ โจโฉได้ยินและได้เห็นก็ตกใจเป็นอย่างมาก พอตั้งสติได้ก็บอกกับตังก๋งว่า "เมื่อทำไปแล้วมานั่งเสียใจไปก็เท่านั้น ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ เรารีบหนีจากที่นี่กันดีกว่า"
โจโฉและตันก๋งต่างก็รีบขี่ม้าหนีออกจากบ้านแปะเฉีย ออกได้พักนึงก็เห็นแปะเฉียกำลังสนทางมาพพร้อมหอบสุรากลับมาด้วย แล้วแปะเฉียก็ร้องถามโจโฉไปว่า "จะรีบไปไหนเล่า อยู่กินกันก่อน" โจโฉขี่ม้าเข้าไปไกล้แปะเฉียแล้วก็ทำการสังหารแปะเฉียตาย ตันก๋งเห็นก็ตกใจพร้อมทั้งถามโจโฉกลับไปว่า "เมื่อกี้ท่านฆ่าคนผิดเพราะเข้าใจผิด แต่บัดนี้ทำไมถึงฆ่าแปะเฉียอีกหล่ะ" โจโฉตอบตันก๋งไปว่า "ถ้าเราไม่ฆ่าเค้า เค้ากลับไปที่บ้านเห็นลูกเมียตายก็คงต้องโกรธพวกเราเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังคงต้องแจ้งทางการมาจับตัวเราเสียอีก เราจึงฆ่าปิดปาก"
ตังก๋งได้ยินก็ท้อแท้ใจด่าโจโฉว่าเป็นคนอกตัญญูไม่รู้บูญคุณเค้าช่วยเราไว้ โจโฉจึงพูดออกมาว่า
"เรายอมฆ่าคนทั้งโลก แต่ไม่ยอมให้โลกทรยศ" ตังก๋งได้ฟังก็ทอดถอนใจและคิดว่าคงอยู่กับคนแบบนี้ต่อไปไม่ได้จึงขอแยกทางกันนะบัดนั้น...