กวนอูควบข้าเซ็กเธาว์เข้าไปหางันเหลียง งันเหลียงเห็นทหารหนวดยาว หน้าแดง ศีรษะโพกด้วยผ้าคลุมสีเขียวตองอ่อนสง่างามนักประหลาดกว่าคนทั้งปวง ประกอบกับกิตติศัพท์ที่เคยรู้มาก็คิดว่าน่าจะเป็นกวนอูน้องร่วมสาบานของเล่าปี่ เตรียมจะออกปากบอกข่าวเล่าปี่ให้ได้ทราบ แต่คำพูดยังไม่ทันพ้นออกจากริมฝีปาก แรงฝีเท้าของม้าเซ็กเธาว์ก็พากวนอูเข้าถึงตัวงันเหลียง กวนอูได้เอาง้าวนิลนาคะงันเหลียงคอขาดตาย
ทหารของโจโฉเห็นแม่ทัพฝั่งนั้นตายจึงได้ได้เคลื่อนกำลังเข้าตีทหารของงันเหลียงที่กำลังแตกตื่นเพราะเสียแม่ทัพอย่างรวดเร็ว ทหารของงันเหลียงบาดเจ็บล้มตายลงเป็นอันมาก ที่เหลือพากันแตกหนี
กวนอูได้ตัดเอาศีรษะงันเหลียงแล้วพากลับมาหาโจโฉ โจโฉเห็นศีรษะงันเหลียงก็มีความยินดี สรรเสริญฝีมือของกวนอูเป็นอันมากว่า "ตัวท่านมิใช่ทหารมนุษย์ อันมีฝีมือรวดเร็วดังนี้สมเป็นทหารเทพยดาก็ไม่ปาน"
กวนอูได้ฟังคำยอของโจโฉก็คิดอุบายสร้างความหย่ำเกรงต่อโจโฉโดยการยกน้องสามแห่งสวนท้อขึ้นมาอวดโจโฉว่า "อันฝีมือข้าพเจ้านี้มีเพียงประมาณนึง น้องเล็กของข้าพเจ้าที่มีชื่อว่า เตียวหุย นั่นแหละจึงนับว่ามีฝีมือแท้จริง ถึงแม้มีทหารสักร้อยหมื่นคอยป้องกัน เตียวหุยก็จะสามารถฝ่าเข้าไปตัดศีรษะแม่ทัพได้ อุปมาดังหยิบเอาส้มในลัง"
โจโฉได้ยินดังนั้นก็มีน้ำใจยำเกรงเตียวหุยเป็นอันมาก ได้สั่งทหารทั่วทั้งกองทัพว่าผู้ใดเผชิญหน้ากับเตียวหุยก็อย่าเพิ่งรบ ให้ขอทราบการพิจารณาและคำสั่งจากโจโฉก่อน
ฝ่ายทหารของงันเหลียงเมื่อเสียทีแก่กวนอูจึงกลับไปรายงานอ้วนเสี้ยว ว่า "งันเหลียงนั้นโดนทหารของโจโฉหนวดยาว หน้าแดง มีฝีมือรบพุ่งรวดเร็วดุจพายุ ชีสิวจึงแจงว่า ทหารหนวดยาว หน้าแดงผู้นี้จะเป็นคนอื่นไปไม่ได้ ในแผ่นดินนี้มีก็แต่เพียงกวนอูน้องร่วมสาบานของเล่าปี่เท่านั้น"
อ้วนเสี้ยวได้ยินดังนั้นจึงหันมาทางเล่าปี่แล้วว่า "ตัวท่านมาอาศัยใบบุญเราอยู่ แต่น้องร่วมสาบานของท่านกลับไปเข้าด้วยโจโฉ แล้วมาฆ่าทหารเอกของเรา"
อ้วนเสี้ยงนั้นเริ่มคิดว่าเล่าปี่นั้นแอบมาเป็นใส้ศึก กลอุบายของโจโฉนั้นกำลังเปล่งอนุภาคแล้ว...