กัวเต๋าและสิมโพยจึงรีบไปรายงานอ้วนเสี้ยวทุกประการ อ้วนเสี้ยวจึงโกรธเล่าปี่ พอเล่าปี่เดินเข้ามาในค่ายอ้วนเสี้ยวจึงสั่งทหารให้จับเล่าปี่เอาไปประหาร เล่าปี่ตกใจจึงรีบแก้ตัวว่า "ตนกับกวนอูนั้นต่างคนไม่ต่างรู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร อันโจโฉนั้นรู้ว่าข้าพเจ้ามาพึ่งท่านโจโฉจึงวางแผนให้กวนอูสังหารทหารเอกของท่าน เพื่อให้ท่านสงสัยในข้าพเจ้าแล้วก็ประหารข้าพเจ้า มิเท่ากับว่า ท่านได้หลวงกลโจโฉ แต่หากท่านให้โอกาส ข้าพเจ้าจะเขียนจดหมายไปหากวนอู หากกวนอูรู้ว่าข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่และทำราชการอยู่กับท่าน กวนอูจะต้องมาหาแน่ๆ ถ้าท่านได้กวนอูมาไว้เหมือนหนึ่งเสือเห็นจะดีกว่าเนื้อสองตัวอีก"
อ้วนเสี้ยวได้ยินเช่นนั้นก็ลังเลและเห็นด้วยกับเล่าปี่ จึงด่าว่ากัวเต๋าและสิมโพย ว่าเกือบทำให้เสียการอ้วนเสี้ยวจึงไล่กัวเต๋าและสิมโพยออกไป อ้วนเสี้ยวดีใจมากเพราะว่าตนกำลังจะได้ตัวกวนอูมาไว้รับใช้และคิดว่า ถ้าตนได้กวนอูมาไว้ก็จะดีกว่างันเหลียง บุนทิว ถึงสิบเท่า
หลังจากโจโฉชนะศึกโจโฉก็เลี้ยงกินโต๊ะชนะศึกกับเหล่าทหารและยังชมกวนอูที่พลิ๊กสถานณ์การไว้ได้ ตึกกลางดึกซุนเขียนได้เข้ามาพบกับกวนอู กวนอูเห็นซุนเขียนก็ยินดี ซุนเขียนจึงเล่าความทุกอย่างให้กวนอูฟังว่าตอนนี้เล่าปี่ได้ลี้ภัยเข้าด้วยกับอ้วนเสี้ยว กวนอูได้ยินข่าวเล่าปี่ก็คิดถึงเล่าปี่เป็นอันมาก กวนอูได้ไปเล่าให้นางกำฮูหยินและนางบิฮูหยินสองภรรยาของเล่าปี่ฟัง ทั้ง 2 ต่างก็ดีใจเช่นกัน
ทางด้านอิกิ๋มซึ่งไปด้วยทัพกวนอูนั้นก็รู้ข่าวว่ากวนอูนั้นได้ข่าวเล่าปี่ที่ไปอยู่กับอ้วนเสี้ยว จึงไปรายงานโจโฉ โจโฉทราบความแล้วก็กังวลใจ โจโฉจึงวางแผนไม่พบหน้ากวนอู โดยคิดว่าหากกวนอูไม่ได้ลากวนอูก็คงไม่ไป
วันต่อมาเล่าปี่ได้เขียนจดหมายถึงกวนอู ความว่า "เดิมเราได้สาบานไว้ต่อกันทั้งสามคนที่ในสวนดอกไม้นั้นว่าจะร่วมสุขร่วมทุกข์กัน ผู้ใดตายก็จะตายด้วย บัดนี้เราทั้งสามคนพลัดกันแต่เรามาอาศัยอ้วนเสี้ยวเจ้าเมืองกิจิ๋วอยู่ แลกวนอูนั้นไปอาศัยโจโฉทำสงครามมีความชอบ ได้บำเหน็จยศถาศักดิ์มีความสุขอยู่ มิได้คิดถึงคำซึ่งสาบานไว้แก่เรา ถ้ากวนอูจะใคร่ให้มีความชอบในโจโฉให้มากขึ้นไปกว่านี้ ก็ให้เร่งมาตัดศีรษะเราไปให้แก่โจโฉเถิด"
เล่าปี่เขียนจดหมายความนี้เพื่อทำให้อ้วนเสี้ยวไว้ใจตน และเล่าปี่ก็รู้ว่าเมื่อกวนอูได้อ่านด้วยความเสียดแทง กวนอูคงจะรีบกลับมาหาเล่าปี่เป็นแน่แท้