ตั๋งโต๊ะได้เข้ามายังเมืองหลวง โดยมีทั้งที่ปรึกษาและทหารเอกหลักก็จะมี ลิยูและลิซก ส่วนทหารเอกหลักๆก็จะมี ลิฉุย กุยกี เตียวเจ หวนเตียว ฮัวหยง
สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ปลดหองจูเหียบซึ่งเป็นฮ่องเต้ แล้วแต่งตั้งหองจูเปียนขึ้นแทน แต่ลิยูได้เสนอให้ลอง จัดงานเลี้ยงเพื่อตรวจสอบกำลังและอำนาจดูว่าจะมีใครต่อต้านอำนาจบ้าง ต่อมาตั๋งโต๊ะได้จัดงานเลี้ยง และเสนอการปลดฮ่องเต้ในที่ประชุม ทุกคนต่างเงียบกริบ มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่กล้าต่อต้านตั๋งโต๊ะ นั่นคือ เต็งหงวน ซึ่งเต็งหงวนนั้นมีทหารเอกที่เก่งกล้าที่สุดแห่งยุคนั่นคือ ลิโป้ ตั๋งโต๊ะรบกับเต๋งหงวนแพ้เนื่องจากไม่มีใครสู้ลิโป้ได้
ลิซก ที่เป็นเพื่อนเก่าของ ลิโป้ จึงขออาสาไปเกลี้ยกล่อมลิโป้มาไว้เป็นพวกโดยเอาม้าเซ็กเธาว์(เป็นยอดม้าแห่งยุค) ไปซื้อใจลิโป้ พร้อมทั้งทรัพย์สินเงินทอง ลิโป้เป็นคนละโลภจึงรับคำ ต่อมาลิโป้ได้สังหารเต๋งหงวนซึ่งเป็นถึงพ่อบุญธรรมของตน จากนั้นจึงไปทำราชการกับตั๋งโต๊ะ
นานวันเหล่าขุนนางต่างก็ไม่พอใจเจ็บแค้นตั๋งโต๊ะจึงนัดประชุมกินโต๊ะ จากนั้นจึงพากันปรับทุกข์ร้องห่มร้องไห้กัน โจโฉซึ่งอยู่ที่นั่นจึงหัวเราะขึ้นมา พร้อมทั้งอาสารอบสังหารตั๋งโต๊ะ อ้องอุ้นขุนนางเก่าแก่เห็นโจโฉมีความกล้าจึงมอบมีดให้โจโฉเพื่อนำไปสังหารตั๋งโต๊ะ โจโฉรอบสังหารตั๋งโต๊ะไม่สำเร็จและกลัวจะถูกจับได้จึงรีบหนีออกนอกเมือง ตั๋งโต๊ะเมื่อรู้ตัวว่าตนกำลังจะถูกโจโฉสังหารจึงสั่งประกาศจับโจโฉ โจโฉหนีออกจากเมืองได้ไม่ไกลก็โดนทหารของทางการจับตัวได้และถูกส่งไปให้นายอำเภอ ตันก๋ง
โจโฉได้เล่าอุดมการณ์ปราบตั๋งโต๊ะช่วยราชวงศ์ฮั่นให้ตันก๋งฟัง ตันก๋งเลื่อมใสโจโฉจึงปล่อยโจโฉและติดตามโจโฉไป โจโฉหนีไปอาศัยลี้ภัยที่บ้านเพื่อนเก่าของบิดาตนชื่อว่า แปะเฉีย โจโฉเข้าใจผิดคิดว่าแปะเฉียจะฆ่าตนจึงสังหารครอบครัวแปะเฉียทั้งตระกูล ตันก๋งเห็นการกระทำของโจโฉทำให้เสื่อมศรัทธาจึงขอแยกทางกันไป
โจโฉเสนอให้อ้วนสุดเป็นผู้นำของกองทัพ 18 หัวเมือง เนื่องจากอ้วนเสี้ยวเป็นตระกูลดังของขุนนางเก่าแก่ ทางด้านอ้วนเสี้ยว บ้าอำนาจอยู่แล้วเมื่อโจโฉยกยอปอปั้นให้เป็นผู้นำ อ้วนเสี้ยวก็เล่นบทผู้นำซะเลย แต่ไม่มีแผนการใดๆทั้งสิ้น กำลังมากก็เหมือนกำลังน้อย ไม่ยอมบุกจริงๆจังๆ ทางฝ่ายตั๋งโต๊ะเมื่อรู้ว่ากองทัพ 18 หัวเมืองรวมตัวกัน จึงส่ง ฮัวหยง ทหารเอกออกไปรบ ฮัวหยงได้รบชัยชนะหลายต่อหลายครั้ง สังหารทหารเอกกองทัพ 18 หัวเมืองไปหลายต่อหลายคน กวนอูที่ติดตามเล่าปี่มากับกองซุนจ้าน จึงขออาสาออกไปรบ แต่อ้วนเสี้ยวบ้ายศไม่ยอมให้ทหารเลวเพนจรออกไปรบ แต่โจโฉมองกวนอูออกว่ามีฝีมือจึงขอให้อ้วนเสี้ยวได้ให้กวนอูออกไปรบ กวนอูออกไปรบก็สามารถตัดหัวฮัวหยงกลับมาได้ท่่ามกลางความมึนงงของเจ้าเมือง
ต่อมาอ้วนเสี้ยวจึงขับไล่เล่าปี่กองทัพเพนจรออกจากกองทัพ 18 หัวเมือง ทางด้านตั๋งโต๊ะจึงส่งลิโป้ออกมารบ ทหาร 18 หัวเมืองก็ต้านไม่ไหว เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย เห็นแล้วก็ทนไม่ได้จึงออกไปรุมกินโต๊ะลิโป้ (3 รุม 1 แมนมาก) ลิโป้ต้าน 3 คนไม่อยู่จึงรีบถอยทัพกลับไป
ซุนเกี๋ยนทหารกล้าขออาสาไปตามตี ด้วยความเก่งกล้าของซุนเกี๋ยนและทหารเอกข้างกาย เทียเภา ฮันต๋ง อุยกาย ช่วยเหลือซุนเกี๋ยนชนะสงครามหลายต่อหลายครั้ง ต่อมาซุนเกี๋ยนเสบียงหมด จึงได้ส่งหนังสือมาขอจากกองทัพ 18 หัวเมือง ซึ่ง อ้วนสุด น้องชายของอ้วนเสี้ยวเป็นคนรับผิดชอบด้านเสบียง 2 คนตระกูลอ้วนปรึกษากัน กลัวว่าซุนเกี๋ยนชนะแล้วจะยึดอำนาจจึงแกล้งไม่ส่งเสบียงไปให้ จึงทำให้ซุนเกี๋ยนนั้นผิดใจกับกองทัพ 18 หัวเมือง
ทางด้านตั๋งโต๊ะเสียขวัญเป็นอย่างมากที่เสียฮัวหยงและกองทัพลิโป้ยังพ่ายแพ้่ ลิยู จึงบอกให้ย้ายเมืองหลวงจากลกเอี๋ยงไปยังเมืองเตียงอัน พร้อมทั้งเผาเมืองลงเอี๋ยงให้พินาศย่อยยับ พร้อมทั้งขุนหลุมศพนำของมีค่าของเชื้อพระวงศ์เอาไปด้วย ต่อมาซุนเกี๋ยนมาถึงเมืองลกเอี๋ยงที่ร้าง เต็มไปด้วยซากพัง ก็พบกับตราหยกแผ่นดิน ซุนเกี๋ยนจึงคิดที่จะเลิกทัพกลับเมืองเตียงสาแล้วนำตราหยกกลับไปด้วย เรื่องรู้มาถึงอ้วนเสี้ยวและอ้วนสุด จึงขอให้ซุนเกี๋ยนนั้นนำตราหยกมาคือ แต่ซุนเกี๋ยนก็ปฎิเสธพร้อมทั้งสาบาญว่าให้ตนมีอันเป็นไปหากได้ครอบครองตราหยกนั้น อันที่จริงตระกูลอ้วนต่างก็ต้องการตราหยกเพื่อที่จะตั้งตัวเองเป็นใหญ่