เช้าวันต่อมาลิโป้เตรียมส่งตัวลูกสาวไปให้ยังอ้วนสุด ตังกุ๋ยผู้เป็นบิดาของตันเต๋งที่รับราชการอยู่เมืองชีจิ๋วมีความชอบในตัวเล่าปี่อยู่เป็นทุนเดิมแล้ว เมื่อเหตุการออกมาเป็นเช่นนี้ตันกุ๋ยก็มองแผนการของอ้วนสุดอย่างทะลุปรุโปร่ง หากลิโป้ส่งตัวลูกสาวไปผูกมิตรกับอ้วนสุดแล้ว เล่าปี่ก็จะตกอยู่ในสถาณการลำบาก ดังนั้นตันกุ๋ยจึงเสนอแก่ลิโป้ว่า ไม่ควรที่จะส่งตัวลูกสาวไปเพราะอ้วนสุดนั้นต้องการหัวของเล่าปี่และเมืองเสียวพ่าย ต่อมาคงก็จะรุกรานเข้ามายึดเมืองชีจิ๋วอีกทั้งยังได้ลูกสาวลิโป้ไว้เป็นตัวประกันเสียอีก
ตันกุ๋ยเสริมต่อไปว่าอ้วนสุดนั้นมีตราหยกแผ่นดินซึ่งก็ถือว่าเป็นกบฏต่อแผ่นดินไม่ควรที่จะไปยุ่งด้วย ลิโป้ได้ฟังก็ตกใจเป็นอันมากแล้วจึงยกเลิกส่งตัวเจ้าสาวทันที
ในวันนั้นลิโป้ได้สั่งให้ทหารซื้อม้ามา แต่ตกกลางดึกกลับโดนโจรปล้นม้าไป ทหารเขามารายงานว่าม้าที่โดนขโมยไปนั้นเป็นฝีมือของเตียวหุย ลิโป้ได้ฟังก็โกรธเป็นอันมากจึงยกทัพไปยังเมืองเสียวพ่าย เล่าปี่รู้ข่าวจึงยกทัพออกมาตั้งรับ
ลิโป้ด่าเล่าปี่ที่สั่งให้เตียวหุยมาขโมยม้าของตัน ทั้งที่ตนนั้นมีบุญคุณเคยช่วยเหลือเล่าปี่จากอ้วนสุด เล่าปี่ได้ยินจึงปฏิเสธเสียงแข็งว่าเป็นการเข้าใจผิดเพราะตนมิได้สั่งให้เตียวหุยทำอย่างนั้น เล่าปี่นึกเรียกเตียวหุยมาถามความ เตียวหุยจึงบอกว่าเป็นฝีมือตน เพราะตนนั้นไม่ชอบคอลิโป้ที่เป็นคนทรยศ พอลิโป้รู้ก็โกรธด่าว่าเตียวหุยที่กระทำหยาบกับตนมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว
เตียวหุยบอกว่า ทีมึงยังชิงเมืองพี่กู กูยังไม่ว่าเลย ครั้งกูชิงมาตัวแค่นี้มึงจะมาโกรธอย่างนั้นเหรอ ลิโป้ได้ยินก็โกรธขี่ม้าเข้ารบกับเตียวหุย สู้กันได้หลายเพลงไม่มีใครรู้แพ้แลชนะ เล่าปี่จึงตีระฆังถอยทัพ แล้วบอกเตียวหุยให้เอาม้าไปคืนลิโป้แล้วก็ขอขมาลาโทษแก่ลิโป้ ครั้งลิโป้ได้รับม้าคืนและเล่าปี่มาขอขมาก็ใจอ่อนเหตุการที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่ความผิดของเล่าปี่
ตันก๋งเมื่อรู้ความเช่นนั้นจึงให้ความเห็นว่าการที่ลิโป้ยกทัพไปถึงขนาดนี้แล้วความสัมพันธ์ทั้งสองเมืองระหว่างท่านกับเล่าปี่นั้นแตกแล้ว ไม่นานหากเล่าปี่ตั้งตัวได้ก็คงหาหนทางมาตีคืน ลิโป้ได้ยินเช่นนั้นก็เกิดลังเล เห็นคล้อยตามความเห็นของตันก๋งจึงสั่งให้ทหารเตรียมตัวหักเอาเมืองเสียวพ่ายทันที