ตั๋งโต๊ะยกทัำพจากหัวเมืองเข้ามาเมืองหลวง(ลกเอี๋ยง)ด้วยพล 10 หมื่นและอาวุธครบพร้อม ตั๋งโต๊ะในตอนนั้นเป็นก๊กที่มีกำลังทหาร อาวุธ ขุนพล และ ที่ปรึกษาพร้อมเพียง มีทหารเอกสำคัญอยู่ 4 คนคือ ลิฉุย กุยกี เตียวเจ หวนเตียว มีที่ปรึกษาที่สำคัญอยู่ 2 คนคือ ลิซก ลิยู
ขณะที่กำลังเข้าเมืองหลวงนั้นได้ไปเจอกับองค์ชายทั้ง 2 ตั๋งโต๊ะก็เลยได้เข้าอารักขาฮหองจูเปียน(ฮ่องเต้) แต่หองจูเปียนก็มิได้กล่าวอะไร มีแต่หองจูเหียบที่ได้พูดกล่าวตบโต้กับตั๋วโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว ตั๋งโต๊ะดูแล้วคิดว่าหองจูเหียบนั้นมีสติปัญญากว่าหองจูเปียน ก็เลยคิดจะยกหองจูเหียบขึ้นแทน แต่ก็ยังได้แค่คิด จากนั้นก็ได้ปรึกษากับลิยู ลิยูบอกว่าให้ท่านลองจัดงานเลี้ยงเพื่อตรวจสอบกำลังและอำนาจดูว่าจะมีใครต้านทานความคิดของท่านหรือปล่าว ตั๋งโต๊ะก็เห็นด้วย
ตั๋งโต๊ะได้ขยายอำนาจและอิทธิพลในเมืองหลวง เกลี้ยกล่อมทหารของโฮจิ๋นไว้เป็นพวก วันหนึ่งตั่งโต๊ะนัดกินเลี้ยงขุนนางตามที่ลิยูบอก ทุกคนล้วนเกรงอำนาจของตั๋งโต๊ะจึงพากันเข้ามากินเลี้ยงกันหมดทุกคน เมื่อมาครบทุกคนแล้วตั๋งโต๊ะก็กล่าวว่า "ทุกวันนี้หองจูเปียนเสวยราชสมบัติแต่ไม่สง่า ไม่มีความเป็นผู้นำ ไม่ค่อยมีสติปัญญาเท่ากับหองจูเหียบ ฉะนั้นข้าจะให้หองจูเหียบนั้นขึ้นครองราชแทน"
มาวิเคราัะห์กันว่าทำไมเตงหงวนถึงได้กล้าหาญเช่นนั้น เหตุผลก็เพราะว่า เต็งหงวนนั้น มีขุนพลที่เก่งที่สุดในยุคนั้นเป็นของตัวเอง ดังนั้นไม่ว่าหน้าไหนก็ไม่กลัว อีกทั้งเต็งหงวนนั้นยังเป็นพ่อบุญธรรมของลิโป้ อีกด้วย