ศึกสงครามเริ่มต้นก่อนราชฮั่นนั้น ได้มีการทำสงครามกันของหลายๆกลุ่ม ท้ายสุดเแล้วก็เหลืออยู่เพียง 2 กลุ่ม กลุ่มแรกนำโดยเล่าปัง กลุ่มที่สองนำโดยฌ้อปาอ๋อง ทั้งสองกลุ่มนี้ทำสงครามแย่งชิงความเป็นใหญ่กันเป็นเวลายาวนาน เปิดสงครามต่อกันถึง 7 ครั้ง โดยทั้ง 7 ครั้งนี้นั้นฌ้อปาอ๋องเป็นผู้มีชัยชนะ แต่ในครั้งสุดท้ายเล่าปังเป็นฝ่ายชนะ
หลังจากที่เล่าปังเป็นฝ่ายชนะจึงได้สถาปนาราชวงศ์ฮั่นขึ้นมา โดยตัวเล่าปังเองเป็นปฐมกษัตริย์ มีพระนามว่า พระเจ้าฮั่นโกโจ
ราชวงศ์ฮั้นนั้นสืบทอดต่อมาเป็นยาวนานจนถึงสมัยของ ฮั่นเต้ ฮั่นเต้เต้นั้นไม่มีบุตรจึงไปขอลูกชาวบ้านมาเลี้ยง ต่อมาทรงสถาปนาลูกชาวบ้านให้เป็นที่รัชทายาท มีพระนามว่า เลนเต้
เลนเต้ได้เสวยราชสมบัติ ก็ประพฤติตัวไม่ดี คบคนพาล เลนเต้นั้นมีบุตร 2 คนชื่อ หองจูเปียนและหองจูเหียบ เลนเต้นั้นสนใจในราชการเชื่อฟังแต่เหล่าขันทีพวกประจบสอพลอ
ลำบากกันทั่วหน้า ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นขุนนางหรือชนชั้นรากหญ้า ต่างก็โดนรีดไถกันทั้งนั้น
เงินหลวงต่างก็เอามาใช้สอยกัน ทำให้ประชนต่างไม่พอใจ
จึงให้หนังสือตำรา 3 ฉบับชื่อไทแผงเยาสุด แล้วว่าตํารานี้ท่านเอาไปช่วยทำนุบํารุงคนทั้งปวงให้อยู่เย็นเป็นสุข ถ้าตัวคิดร้ายมซื่อตรงต่อแผ่นดินภัยอันตรายจักถึงตัว เตียวก๊กกราบ ไหว้แล้วจึงถามว่าทานนี้ชื่อใด คนแก่นั้น จึงบอกว่าเราเป็นเทพยดา บอกแล้วก็เป็นลมหายไป
เตียวก๊กกลับมาบ้านก็ลงมือศึกษาเล่าเรียนตำราทั้ง 3 เล่ม ปรากฏว่าเป็นตำราเรียกลมเรียกฝนเล่มหนึ่ง, เป็น
ตําราผูกพยนต์ หรือตําราปลุกเสกสิ่งของให้เป็นคน หรือเป็นสัตว์เล่มหนึ่ง และตํารารักษาโรคอีกเล่มหนึ่ง
เตียวก๊กนั้นมีน้องชาย 2 คนคือ เตียวโป้และเตียวเหลียง ได้รับมอบหมายให้เป็นรองหัวหน้าขบวนการ
ดังนั้น เมื่อจะทําการกอบกู้ฟื้นฟูชาติ เตียวก๊กจึงสอนน้องว่า "บัดนี้เราจะทําการใหญ่เพื่อการกอบกู้ฟื้นฟูชาติ
ถ้าจะคิดอ่านการสิ่งใดจงเอาใจไพร่เป็นประมาณ"
พระเจ้าเลนเต้ทราบความแล้วจึงใ้ห้ "โฮจิ๋น" ผู้บัญชาการกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นพี่เมียและ
ไต่เต้าเข้าสู่ตำแหน่งด้วยอาศัยความร่วมมือและประนีประนอมกับสิบขันที
พระเจ้าเลนเต้จึงโปรดให้มีตราไปทุกหัวเมืองว่า ถ้าผู้ใดมีฝีมือกล้าหาญ ใหช่วยกันจับโจร
โพกผ้าเหลือง แล้วจะปูนบําเหน็จให้เป็นขุนนาง และมีพระบรมราชโองการตั้งให้ "โลตด" เป็นแมทัพ ให้
"โลจิ๋น" เป็นที่ปรึกษา ให้ "ฮองฮูสง" เป้น ทัพรอง และให้ "จูฮี" เป็นทัพหนุน แยกขบวนทัพออกเข้าตีขบวน
การกู้ชาติ
เตียวก๊กได้ชุมนุมพลประกาศกู้ชาติ และให้กําลังใจปลุกระดมกําลังพลว่า "บัดนี้แผ่นดินจะสาบสูญฉิบหายแล้ว ผู้มีบุญจะมาเสวยสมบัติใหม่ คนทั้งปวงจงทำตามคำเทพยดาทำนายเถิด จะได้อยู่เย็นเป็นสุขพร้อมมูลกัน" เมื่อ ประกาศตัวขบวนการกอบกู้ชาติอย่างเป็นทางการแล้ว เตียวก๊กก็สั่งให้จัดกองทัพกําลังพลห้าสิบหมื่น อาวุธ ยุทโธปกรณ์พร้อมสรรพ ตั้งตัวเองเป็นแม่ทัพใหญ่ เตียวโป้และเตียวเหลียงผู้น้องเป็นแม่ทัพรองและแม่ทัพ หนุนโดยลําดับ แล้วสั่งให้เคลื่อนทัพเข้ายึดหัวเมืองต่างๆ เพื่อเตรียมยึดเมืองหลวงต่อไป
และนี่ก็เป็นจุดเริ่มของสามก๊ก.......
โดยมีแกนนำคนหนึ่งชื่อ "เตียวก๊ก"
"เตียวก๊ก" นั้นเป็นหมอยาแผนโบราณ ตั้งตนอยใน ศีลธรรม มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ชอบช่วยเหลือราษฎร จึงเป็นที่เคารพนับถือ ของชาวบ้านในถิ่นนั้นเป็นอันดี
อยูjมาวันหนึ่ง เตียวก๊กไปหาตัวยา บนภูเขาพบคนแก่คนหนึ่งผิวหน้านั้นเหมือนทารก จักษุนั้นเหลือง มือถือไม้เท้า คนนั้นพาเตียวก๊กเข้าไปในถ้ำ
อยูjมาวันหนึ่ง เตียวก๊กไปหาตัวยา บนภูเขาพบคนแก่คนหนึ่งผิวหน้านั้นเหมือนทารก จักษุนั้นเหลือง มือถือไม้เท้า คนนั้นพาเตียวก๊กเข้าไปในถ้ำ
จึงให้หนังสือตำรา 3 ฉบับชื่อไทแผงเยาสุด แล้วว่าตํารานี้ท่านเอาไปช่วยทำนุบํารุงคนทั้งปวงให้อยู่เย็นเป็นสุข ถ้าตัวคิดร้ายมซื่อตรงต่อแผ่นดินภัยอันตรายจักถึงตัว เตียวก๊กกราบ ไหว้แล้วจึงถามว่าทานนี้ชื่อใด คนแก่นั้น จึงบอกว่าเราเป็นเทพยดา บอกแล้วก็เป็นลมหายไป
เตียวก๊กกลับมาบ้านก็ลงมือศึกษาเล่าเรียนตำราทั้ง 3 เล่ม ปรากฏว่าเป็นตำราเรียกลมเรียกฝนเล่มหนึ่ง, เป็น
ตําราผูกพยนต์ หรือตําราปลุกเสกสิ่งของให้เป็นคน หรือเป็นสัตว์เล่มหนึ่ง และตํารารักษาโรคอีกเล่มหนึ่ง
เตียวก๊กศึกษาตําราทั้งสามเล่มแล้วก็ได้ช่วยรักษาโรครักษาชาวบ้าน ซึ่งทั้งหมดเป็นคนยากไร้ ไม่มีเงินมา
รักษาพยาบาล ไม่สามารถ ไปหาหมอต่างๆได้ ชาวบ้านจึงพากันมาให้เตียวก๊ก
รักษา ไข้เจ็บโรคภัยตา่งๆ จนเป็นที่นับถือศรทธาของชาวบ้านทั้งเมือง
เตียวก๊กได้จัดตั้งกองกำลังป้องกันตัวเองขึ้นมา เนื่องจากอำนาจรัฐนั้นไม่สามารถพึ่งได้ จึงต้องจัดจั้งกองกำลังนี้ขึ้นมา เพื่อป้องกันตัวเอง ช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกปล้นชิงวิ่งราว และก็ขยายตัวถึง 7 หัวเมือง
ประชาชนต่างก็นับถือศรัทธาเตียวก็กเป็นอย่างมาก กราบไหว้บูชาทุกบ้านเรือน
รักษาพยาบาล ไม่สามารถ ไปหาหมอต่างๆได้ ชาวบ้านจึงพากันมาให้เตียวก๊ก
รักษา ไข้เจ็บโรคภัยตา่งๆ จนเป็นที่นับถือศรทธาของชาวบ้านทั้งเมือง
เตียวก๊กได้จัดตั้งกองกำลังป้องกันตัวเองขึ้นมา เนื่องจากอำนาจรัฐนั้นไม่สามารถพึ่งได้ จึงต้องจัดจั้งกองกำลังนี้ขึ้นมา เพื่อป้องกันตัวเอง ช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกปล้นชิงวิ่งราว และก็ขยายตัวถึง 7 หัวเมือง
ประชาชนต่างก็นับถือศรัทธาเตียวก็กเป็นอย่างมาก กราบไหว้บูชาทุกบ้านเรือน
ดังนั้น เมื่อจะทําการกอบกู้ฟื้นฟูชาติ เตียวก๊กจึงสอนน้องว่า "บัดนี้เราจะทําการใหญ่เพื่อการกอบกู้ฟื้นฟูชาติ
ถ้าจะคิดอ่านการสิ่งใดจงเอาใจไพร่เป็นประมาณ"
พระเจ้าเลนเต้ทราบความแล้วจึงใ้ห้ "โฮจิ๋น" ผู้บัญชาการกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นพี่เมียและ
ไต่เต้าเข้าสู่ตำแหน่งด้วยอาศัยความร่วมมือและประนีประนอมกับสิบขันที
พระเจ้าเลนเต้จึงโปรดให้มีตราไปทุกหัวเมืองว่า ถ้าผู้ใดมีฝีมือกล้าหาญ ใหช่วยกันจับโจร
โพกผ้าเหลือง แล้วจะปูนบําเหน็จให้เป็นขุนนาง และมีพระบรมราชโองการตั้งให้ "โลตด" เป็นแมทัพ ให้
"โลจิ๋น" เป็นที่ปรึกษา ให้ "ฮองฮูสง" เป้น ทัพรอง และให้ "จูฮี" เป็นทัพหนุน แยกขบวนทัพออกเข้าตีขบวน
การกู้ชาติ
เตียวก๊กได้ชุมนุมพลประกาศกู้ชาติ และให้กําลังใจปลุกระดมกําลังพลว่า "บัดนี้แผ่นดินจะสาบสูญฉิบหายแล้ว ผู้มีบุญจะมาเสวยสมบัติใหม่ คนทั้งปวงจงทำตามคำเทพยดาทำนายเถิด จะได้อยู่เย็นเป็นสุขพร้อมมูลกัน" เมื่อ ประกาศตัวขบวนการกอบกู้ชาติอย่างเป็นทางการแล้ว เตียวก๊กก็สั่งให้จัดกองทัพกําลังพลห้าสิบหมื่น อาวุธ ยุทโธปกรณ์พร้อมสรรพ ตั้งตัวเองเป็นแม่ทัพใหญ่ เตียวโป้และเตียวเหลียงผู้น้องเป็นแม่ทัพรองและแม่ทัพ หนุนโดยลําดับ แล้วสั่งให้เคลื่อนทัพเข้ายึดหัวเมืองต่างๆ เพื่อเตรียมยึดเมืองหลวงต่อไป
และนี่ก็เป็นจุดเริ่มของสามก๊ก.......