Tuesday, March 29, 2011

#14 โจโฉพบตันก๋ง



หลังจากโจโฉลอบทำการสังหารตั๋งโต๊ะไม่สำเร็จโจโฉก็รีบหนีตายออกจากเมืองลกเอี๋ยง จนมาถึงเมืองจงพวน โดนด่าตรวจเข้าเมืองจับได้จึงถูกส่งตัวมาให้ ตันก๋ง ที่เป็นนายอำเภอ ตันก๋งสอบปากคำโจโฉ แต่โจโฉก็บ่ายเบี่ยงว่าตัวเองไม่ได้ชื่อโจโฉ ตันก๋งจึงสั่งขังรอพรุ่งนี้จะส่งไปให้เมืองหลวงเพื่อเอาปูนบำเน็จ

พอกลางดึกตันก๋งได้แอบเข้าไปในคุกลอบถามโจโฉว่า "ตั๋งโต๊ะก็ดีกับท่านใยท่านถึงคิดจะฆ่าตั๋งโต๊ะหล่ะ"
โจโฉก็ตอบไปว่า "อันความคิดของหงษ์ กาอย่างเจ้าไม่รู้หรอก ข้าเป็นข้าราชของราชวงฮั่น หากไม่ิคิดช่วยชาติก็ไม่ต่างอะไรจากสัตว์ ข้ายอมรับใช้ตั๋งโต๊ะก็เพราะว่าจะหาโอกาสสังหาร ใช่ว่าต้องการลาภยศไม่ บัดนี้เจ้าก็จับข้าได้แล้วก็ส่งตัวเข้าเอาผลงานเถิด"

ตันก๋งจึงถามโจโฉต่อว่า "ท่านมีแผนการใหญ่อย่างไรแล้วจะทำอย่างไร"
โจโฉตอบ "ข้าจะกลับไปรวบรวมไพร่พลที่บ้านเกิด ประกาศชักชวนขุนศึกต่างๆ เข้าร่วมเพื่อไปปราบตั๋งโต๊ะ บัดนี้อ้วนเสี้ยวก็กำลังรวบรวมกองทัพใหญ่ ข้าก็จะไปร่วมกับอ้วนเสี้ยว"



พอตันก๋งได้ยินก็มีความเลื่อมใสโจโฉเป็นอย่างมากจึงปล่อยตัวโจโฉและขอเข้าร่วมอุดมการณ์ และยอมทิ้งตำแหน่งนายอำเภอขอรับใช้โจโฉตลอดไป ในคืนนั้นเองก่อนฟ้ารุ่งสางตันก๋งและโจโฉได้ขี่ม้าหนีออกจากเมืองและก้าวไปตามอุดมการณ์ที่ตั้งไว้....


Thursday, March 17, 2011

#13 โจโฉรอบสังหารตั๋งโต๊ะ



หลังจากตั๋งโต๊ะได้ยึดครองอำนาจเมืองหลวงได้หมดแล้วก็แต่งตั้งตัวเองเป็นสมุหนายก มีอำนาจสูงสุดทั้งการทหารและพลเรือน อีกทั้งยังทำความช่วยต่างๆนาๆ ปล้นยึดทรัพย์ของประชาชน ฆ่าคนที่ต่อต้าน ต้อนผู้หญิงเอามาบำเรอตน นับวันประชาชนก็เริ่มเกลียดชังตั๋งโต๊ะเป็นอย่างมาก ตอนตั๋งโต๊ะได้ฉายาว่า "ผู้ถูกสาบแช่งสิบทิศ"




ทางฝ่ายอ้วนเสี้ยวที่เป็นตระกูลใหญ่ 4 ชั่วคนหลังจากที่หนีออกจากเมืองหลวงไปซ่องสุมกำลังพลเพื่อที่จะยกทัพมาตีตั๋งโต๊ะเช่นเดียวกัน

ทางในเมืองหลวงก็มีขุนนางหลายคนที่ซื่อสัตย์ต่อฮ่องเต้ต่างก็เกลียดชังตั๋งโต๊ะเป็นอย่างมาก โดย 1 ในนั้นมีอ้องอุ้นขุนนาง 4 แผ่นดิน ได้จัดงานรื่นเริงโดยอ้างว่าเป็นงานวันเกิดตนและเชิญขุนนางที่มีแนวความคิดที่จะล้างตั๋งโต๊ะเช่นเดียวกับตนเข้าร่วมงานและมาปรับทุกข์ให้กันและกัน ขุนนางที่เข้าร่วมต่างก็ร้องไห้กันเพราะความรักชาติ แต่มีอยู่หนึ่งคนที่หัวเราะออกมาเสียงดัง เสียงนั้นคือเสียงของโจโฉ



อ้องอุ้นสงสัยก็เลยถามโจโฉว่า "ทุกคนกำลังกลุ้่มเรื่องที่จะฆ่าล้างตั๋งโต๊ะ ทำไมท่านถึงได้หัวเราะหล่ะ"





โจโฉตอบกลับไปว่า "ข้ากำลังหัวเราะพวกท่านที่คิดจะฆ่าตั๋งโต๊ะด้วยน้ำตา ถึงจะร้องไห้จนน้ำตานองพื้นตั๋งโต๊ะก็ไม่ตายหรอก ก็เลยหัวเราะพวกท่าน"

โจโฉอาสาที่จะไปฆ่าตั๋งโต๊ะเองด้วยมือ เนื่อจากโจโฉเป็นคนสนิทของตั๋งโต๊ะสามารถเข้่าออกจวนของตั๋งโต๊ะได้ ที่โจโฉเป็นคนสนิทก็เพราะว่าโจโฉนั้นแสร้งแกล้งทำเพื่อให้ตั๋งโต๊ะไว้ใจ ปิดบังความคิดของตัวเอง รอวันและเวลาเหมาะถึงค่อยทำการ ใช่จะเห็นลาภยศสิ่งใดไม่ อ้องอุ้นเห็นโจโฉอาสาก็เลยมอบมีดสั้นโบราณที่สามารถตัดเกราะได้ให้โจโฉไปทำการ

วันต่อมาโจโฉก็เข้าไปพบตั๋งโต๊ะตามปรกติ พอตั๋งโต๊ะนอนหลับไปโจโฉก็ชักมีดสั้นเข้าหาตั๋งโต๊ะ ทันใดนั้นเองแสงสะท้อนและเงาเข้าตาตั๋งโต๊ะผ่านกระจกพอดี ประจวบเหมาะกับที่ลิโป้เดินเข้ามา ตั๋งโต๊ะตกใจก็ตวาดใส่โจโฉว่า "มึงจะทำร้ายกูเหรอ" แต่โจโฉที่มีไหวพริบจริงแกล้งตอบไปว่าจะมอบมีสั้นโบราณให้ มันเป็นของมีค่าที่หายาก ด้วยความละโมบโลบมากของตั๋งโต๊ะจะรับมีไปโดยที่ไม่ใส่ใจ หลังจากโจโฉให้มีดสั้นแล้ว รู้ตัวว่าตัวเองกำลังมีภัย จึงมีควบม้าหนีออกจากเมืองทันที



ลิโป้ได้ติงบอกให้ตั๋งโต๊ะฟังว่าเมื่อกี้โจโฉมีพิรุธเหมือนกำลังจะฆ่าพ่อท่านพอถูกจับได้ก็เลยแสแสร้งแกล้งทำ พอตั๋งโต๊ะได้ฟังเช่นนั้นก็โกรธเป็นอย่างมากด่าโจโฉไม่หยุดและก็สั่งทหารให้ไปตามจับที่บ้านและติดป้ายประกาศจับทันที

แต่ก็เป็นที่โชคดีของโจโฉที่หนีออกจากเมืองได้ทันท่วงทีแบบที่บ้านก็มีแค่คนใช้ ญาติพี่น้องไม่ได้อยู่ที่นั่น ตั๋งโต๊ะเข้าค้นบ้านโจโฉฆ่าล้างทุกคนในบ้านอย่างไม่ใยดี

โจโฉควบม้าหนีสุดชีวิตไปให้ไกลที่สุดนี่เป็นการเสี่ยงชีวิตมากครั้งหนึ่งของโจโฉก็ว่าได้....



#12 ตั๋งโต๊ะปลดฮ่องเต้

หลังจากตั๋งโต๊ะได้ตัวลิโป้มาเป็นพวกแล้ว ก็ทำการแผ่อำนาจครอบงำในเมืองหลวง โดยมีลิยูกุนซือเจ้าความคิด จึงเสนอให้ตั๋งโต๊ะรีบแต่งตั้งหองจูเหียบขึ้นครองราชแทนหองจูเปียน ตั๋งโต๊ะเห็นด้วยและได้จัดเลี้ยงเพื่อทดสอบกำลังและอำนาจของตัวเองอีกครั้ง ตั้งโต๊ะได้กล่าวว่าจะแต่งตั้งหองจูเหียบขึ้นครองราชแทนหองจูเปียน เนื่องจากหองเปียนนั้นไม่สง่า ไร้สติปัญญา ไม่เข้มแข็ง ถ้าใครไม่เห็นด้วยกับการที่จะชูหองจูเหียบขึ้นครองราช ตั๋งโต๊ะก็จะฆ่าซะในที่นั้น..



ต่างคนในที่ประชุมก็ต่างมองตากันมิมีใครกล้าแย้ง ชำเลืองไปที่ท้องพระโรงก็เจอลิโป้ยืนอยู่ ต่างคนก็ต่างก้มหน้า ทันใดนั้นมีเสียงของอ้วนเีสี้ยวดังมาว่า "ตัวบังอาจคิดจะเป็นกบฐหรือ" ตั๋งโต๊ะได้ยินก็ไม่พอใจ ระหว่างตั๋งโต๊ะและอ้วนเสี้ยวต่างคนต่างชักดาบจะฟันกัน ลิยูเห็นเหตุการก็จึงเข้าไปห้ามตั๋งโต๊ะไว้เพราะอ้วนเสี้ยวนั้นเป็นทายาทขุนนางเก่าไม่อยากจะให้เรื่องบานปลาย



อ้วนเสี้ยวพอรู้ตัวก็รู้ว่าตัวเองอยู่ในอันตรายจึงรีบยกพลทหารของตัวเองออกจากเมืองหลวง ไปยังเมืองกิจิ๋ว ซึ่งเป็นเมืองในอิทธิพลของตระกูลอ้วน



ต่อมาตั๋งโต๊ะได้ตั้วหองจูเหียบขึ้นครองราชและมีพระนามว่า "พระเจ้าเหี้ยนเต้" มีอายุเพียง 9 พรรษา ส่วนหองจูเปียนฮ่องเต้เก่าก็ถูกประทานยาพิษ ให้พระนางโฮเฮาและลูกกินจนตาย นับว่าเป็นการสิ้นตระกูลโฮ ที่ครองอำนาจมายาวนานตั้งแต่สมัยโฮจิ๋น มีอำนาจแต่รักษาไว้ไม่อยู่


Wednesday, March 16, 2011

#11 ตั๋งโต๊ะได้ลิโป้


vs



เช้าวันต่อมา เต็งหงวน ก็ยกพลมาท้ารบกับตั๋งโต๊ะ ตั๋งโต๊ะยกพลตั้งรับ ลิโป้ขี่ม้ารำทวนไล่แทงตั๋งโต๊ะและทหารคนอื่นๆจนแตกกระเจิง ฝีมือลิโป้ไม่มีใครเปรียบได้ พอตั๋งโต๊ะกลับมายังค่ายก็พูดออกมาว่า "ตั้งแต่ออกรบมายังไม่เคยเห็นใครมีฝีมือเทียบเท่ากับลิโ้ป้เลย อยากจะได้ลิโป้มาเป็นพวก"



ลิซกซึ่งเป็นเพื่อนกับลิโป้มาตั้งแต่เด็กขออาสาไปกล่อมลิโป้มาเป็นพวก โดยขอม้าเซ็กเธาว์เพียงตัวเดียวเพื่อนำไปซื้อใจลิโป้ แต่ตั๋งโต๊ะก็ยังลังเลเพราะยังหวงม้าเซ็กเธาว์อยู่ เพราะม้าเซ็กเธาว์นั้นเป็นสุดยอดม้าในสามก๊ก มีขนสีแดงทั้งตัว วิ่งได้วันละพันลี้



ลิซกก็กล่าวไปว่า "ม้าเพียงตัวเดียวแลกกับบ้านเมืองจะอย่างไหน" เพราะว่าลิโป้นั้นมีฝีมือหากตั๋งโต๊ะได้ลิโป้มาไว้เป็นพวก ก็ยากที่จะหาใครเทียบเทียบม ตั๋งโต๊ะได้ยินก็จึงยอมแล้วยังมอบทองคำเพื่อไปเกลี้ยกล่อมลิโป้

ลิซกได้เดินทางไปกล่อมลิโป้แล้วทั้งให้ม้าเซ็กเธาว์ให้ทองคำ มีเหรอลิโป้คนโลภจะไม่เอา แถมทั้งยังบอกลิโป้ไปว่า ถ้าอยู่กับเต็งหงวนก็เป็นขุนพลให้เจ้ามึงเล็กๆ แต่ถ้ามาอยู่กับตั๋งโต๊ะจะได้เป็นถึงขุนพลของเจ้าเมืองระดับชาติ ลิโป้จึงตอบรับคำ หลังจากนั้นก็เข้าไปฆ่าเต็งหงวนซึ่งเป็นถึงพ่อบุญธรรม ตัดหัวมาสวามิภักดิ์กับตั๋งโต๊ะและก็นับถือตั๋งโต๊ะเป็นพ่อบูญธรรมตั้งแต่นั้นมา


ขณะนี้กองทัพของตั๋งโต๊ะเป็นกองทัพที่มีความพร้อมและยิ่งใหญ่มาที่สุดยากที่จะหาใครเทียบเทียมอีกทั้งยังมีลิโป้ขุนพลที่เก่งที่สุดแห่งยุคอีกด้วย ยากที่จะปราบปรามได้....







Saturday, March 12, 2011

#10 ตั๋งโต๊ะแผ่อำนาจ

พระเจ้าเลเต้ได้รับสั่งให้ตั๋งโต๊ะไปปราบโจรโพกผ้าเหลืองแต่ตั๋งโต๊ะนั้นไร้ฝือมือแพ้ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ด้วยการติดสินบนให้ 10 ขันที ตำแหน่งจึงไม่หลุดหายไป

ตั๋งโต๊ะยกทัำพจากหัวเมืองเข้ามาเมืองหลวง(ลกเอี๋ยง)ด้วยพล 10 หมื่นและอาวุธครบพร้อม ตั๋งโต๊ะในตอนนั้นเป็นก๊กที่มีกำลังทหาร อาวุธ ขุนพล และ ที่ปรึกษาพร้อมเพียง มีทหารเอกสำคัญอยู่ 4 คนคือ ลิฉุย กุยกี เตียวเจ หวนเตียว มีที่ปรึกษาที่สำคัญอยู่ 2 คนคือ ลิซก ลิยู



ขณะที่กำลังเข้าเมืองหลวงนั้นได้ไปเจอกับองค์ชายทั้ง 2 ตั๋งโต๊ะก็เลยได้เข้าอารักขาฮหองจูเปียน(ฮ่องเต้) แต่หองจูเปียนก็มิได้กล่าวอะไร มีแต่หองจูเหียบที่ได้พูดกล่าวตบโต้กับตั๋วโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว ตั๋งโต๊ะดูแล้วคิดว่าหองจูเหียบนั้นมีสติปัญญากว่าหองจูเปียน ก็เลยคิดจะยกหองจูเหียบขึ้นแทน แต่ก็ยังได้แค่คิด จากนั้นก็ได้ปรึกษากับลิยู ลิยูบอกว่าให้ท่านลองจัดงานเลี้ยงเพื่อตรวจสอบกำลังและอำนาจดูว่าจะมีใครต้านทานความคิดของท่านหรือปล่าว ตั๋งโต๊ะก็เห็นด้วย




ตั๋งโต๊ะได้ขยายอำนาจและอิทธิพลในเมืองหลวง เกลี้ยกล่อมทหารของโฮจิ๋นไว้เป็นพวก วันหนึ่งตั่งโต๊ะนัดกินเลี้ยงขุนนางตามที่ลิยูบอก ทุกคนล้วนเกรงอำนาจของตั๋งโต๊ะจึงพากันเข้ามากินเลี้ยงกันหมดทุกคน เมื่อมาครบทุกคนแล้วตั๋งโต๊ะก็กล่าวว่า "ทุกวันนี้หองจูเปียนเสวยราชสมบัติแต่ไม่สง่า ไม่มีความเป็นผู้นำ ไม่ค่อยมีสติปัญญาเท่ากับหองจูเหียบ ฉะนั้นข้าจะให้หองจูเหียบนั้นขึ้นครองราชแทน"




พอสิ้นเสียงทุกคนต่างก็ตะลึงไม่กล้าพูดอันใดเพราะเกรงกลัวอำนาจในที่นั้นมีทั้งโจโฉและอ้วนเสี้ยวอยู่ แต่ก็มิกล้าปริปากพูดอันได ทันในนั้นก็มีเสียงนึงด่าเข้ามายังตั๋งโต๊ะว่า "ไฉนท่านถึงคิดเป็นขบถอย่างนี้" เสียงนั้นเป็นเสียงของทหารเฒ่าเตงหงวน ตั๋งโต๊โกรธมากจะเอากระบี่มาฆ่าเตงหงวนแต่ลิยูได้ห้ามไว้ ลิยูบอกว่าทหารที่อยู่ข้างๆเตงหงวยนั้นมีนามว่า ลิโป้ ซึ่งเป็นยอดขุนพลแห่งยุค เตงหงวนจึงลุกหนีออกไปทันใดนั้นเอง

มาวิเคราัะห์กันว่าทำไมเตงหงวนถึงได้กล้าหาญเช่นนั้น เหตุผลก็เพราะว่า เต็งหงวนนั้น มีขุนพลที่เก่งที่สุดในยุคนั้นเป็นของตัวเอง ดังนั้นไม่ว่าหน้าไหนก็ไม่กลัว อีกทั้งเต็งหงวนนั้นยังเป็นพ่อบุญธรรมของลิโป้ อีกด้วย


#9 ล้างบาง 10 ขันที

โฮจิ๋นต้องการที่จะล้างบาง 10 ขันที แต่ก็โดนน้องสาวโฮเฮาให้ท้ายกลุ่มขันที เพราะกลุ่นขันทีนั้น รู้ตัวว่าจะไม่รอดจึงไปทำการร๊อบบี้แม่นางโฮเฮาไว้ สรุปคือไม่ว่าอำนาจจะอยู่ในมือใครกลุ่ม 10 ขันทีก็สามารถเข้าร่วมกับกลุ่มๆนั้นได้ 



อ้วนเสี้ยวคนโง่เขลาได้แนะนำให้อ้วนเสี้ยวทำราชโองการสั่งทัพหัวเมืองเข้ามาในเมืองหลวงแล้วกำจัด 10 ขันทีซะแล้วโฮจิ๋นก็เห็นด้วย แต่โจโฉมีความคิดที่ต่างออกไปจึงพูดขึ้นมาว่า "การกำจัดพวกขันทีง่ายเสมือนพลิกฝ่ามือ แค่จับหัวโจส่งกรมพระธรรมนูญก็จบแล้ว ไฉนต้องเรียกทัพจากหัวเมืองเข้ามาวุ่นวายด้วย"



แต่โฮจิ๋นตวาดโจโฉว่า "ผู้น้อยอย่างเจ้าจะรู้อะไรกับงานใหญ่" โจโฉผิดหวังเป็นอย่างมากเดินหุนหันออกมาแล้วบ่นออกมาว่า "บ้านเมืองจะชิบหายก็เพราะโฮจิ๋นนี่แหละ" ขุนนางหลายคนต่างก็ทัดทาน บ้างก็บอกว่าทหารหัวเมืองนั้นก็คือตั๋งโต๊ะ ตั๋งโต๊ะนั้นเป็นเสือหิวมันกัดใครไม่เลือก ถ้าเข้ามาย่อมเป็นภัยแน่ๆ แต่คนอย่างโฮจิ๋นก็ไม่เชื่อฟัง แต่ไปเชื่อฟังอ้วนเสี้ยวขุนนางโง่เขลา โฮจิ๋นพูดออกมาว่า "ทำการใหญ่ถ้าระแวงเช่นนี้จะทำการใหญ่ได้อย่างไร พวกหนอนหนังสือพูดไม่รู้เรื่อง ไม่ต้องพูดอีกแล้ว"



ขุนนางทั้งหลายรวมทั้งโลติดต่างก็ลาออกจากตำแหน่งนั้นทันทีเพราะคงคิดว่าขืนอยู่กับผู้ำนำแบบนี้ต่อไปก็ไม่มีอะไรดีแน่ๆ หลังจากกลุ่ม 10 ขันทีรู้ว่าโฮจิ๋นต้องการจะฆ่าตัว ก็เลยคิดว่าฆ่าโฮจิ๋นก่อน 10 ขันทีก็เลยปลอมราชเสาวนีย์พระนางโฮเฮาเรียกตัวโฮจิ๋นเข้าเฝ้า

โฮจิ๋นเองได้รับสารแล้วก็จึงรีบไปเข้าเฝ้าแต่โจโฉและอ้วนเสี้ยวได้ทัดทานว่ากลุ่ม 10 ขันทีนั้นน่าจะมีแผนฆ่าโฮจิ๋นให้ระวัง แต่โฮจิ๋นก็ไม่ฟังแล้วตอบออกไปว่า "น้องสาวตัวเองเรียกจะไม่ไว้ใจได้อย่างไร" แต่โจโฉและอ้วนเสี้ยวนั้นก็ได้เตรียมกำลังทหารพร้อมที่จะไปป้องกันโฮจิ๋น พอถึงเขตประตูนายทหารจึงบอกว่าคนนอกเข้าไม่ได้ ให้เข้าได้เฉพาะโฮจิ๋น โจโฉจึงบอกไปว่า "ถ้าอย่างนั้นให้ 10 ขันทีออกมาก่อนแล้วโฮจิ๋นค่อยเข้าไป" แต่โฮจิ๋นก็ไม่ฟังคิดว่าตัวเองใหญ่คงไม่มีใครกล้าทำร้าย ก็เลยเดินเข้าไปคนเดียว แต่ 10 ขันทีล้อมรุมทำร้ายจนตายแล้วก็ถูกตัดหัวโยนออกมานอกกำแพง

โจโฉและอ้วนเสี้ยวเห็นก็เลยรีบบุกเข้าไปฆ่าล้าง 10 ขันทีทิ้งเสีย แต่แล้วหัวโจกของ 10 ขันทีที่เชื่อว่า เตียวเหยียง จึงรีบเข้าไปชิงตัวหองจูเปียนที่เป็นฮ่องเต้และหองจูเหียบที่เป็นผู้น้อง หลบหนีออกจากวังเพื่อเป็นตัวประกัน.....


Friday, March 11, 2011

#8 พระเจ้าเลนเต้สิ้นพระชน



พระเจ้าเลนเต้นั้นเมื่อเสวยสุขมานานสภาพร่างกายก็เสื่อมโทรมไกล้จะสิ้นพระชน ขณะนั้น 10 ขันทีที่อยู่เบื้องหลังของอำนาจพระเจ้าเลนเต้ก็เกิดอาการอยู่ไม่ได้แล้วจึงต้องเข้าร่วมกับขั้วอำนาจใหม่ซึ่งจะเป็นฮ่องเต้รัชกาลต่อไป คือ หองจูเปียน และ หองจูเหียบ โดย หองจูเปียนนั้นมีอายุมากกว่าแต่มีสติปัญญาน้อยกว่า โดยเด็กทั้ง 2 นี้มี ตังไทเฮา และ แม่นางโฮเฮา เป็นเบื้องหลัง

ตังไทเฮานั้นเป็นแม่บูญธรรมของพระเจ้าเลนเต้ ได้รับเลี้ยง หองจูเหียบ ไว้ เพราะ หองจูเหียบ เสียแม่ในเยาว์วัย หองจูเหียบ นั้นเป็นลูกของพระเจ้าเลนเต้

แม่นางโฮเฮาเป็นมเหสีของพระเจ้าเลนเต้  และเป็นน้องสาวของ โฮจิ๋น ดังนั้นสกุลโฮถึงได้ครองอำนาจในวังหลวง โฮจิ๋นไม่รู้เรื่อการเมืิอง มีอำนาจได้เพราะน้องสาว  แม่นางโฮเฮานั้นมีราชบุตรชื่อ หองจูเปียน ซึ่งต้องการให้ครองราชต่อจากพระเจ้าเลนเต้หลังจากสิ้นพระชนแล้วตัวเองกับพี่ชายก็จะได้ยึดกุมอำนาจไว้ทั้งหมด

10 ขันทีนั้นต้องการให้ หองจูเหียบ ครองราช เพราะไม่ต้องการให้ฝ่ายสกุลโฮได้ครองอำนาจ เพราะสกุลโฮนั้นตอนนี้ได้ครองอำนาจทหารไว้หมดซึ่งเ้ป็นอันตรายในภายภาคหน้า





หลังพระเจ้าเลนเต้สิ้นพระชน โฮจิ๋น จึงก็เลยปรึกษากับลูกน้อง ในขณะนั้น โฮจิ๋นมีลูกน้องคนสำคัญอยู่ 2 คน คนแรกคือ โจโฉ ที่กล่าวมาข้างต้น อีกคนคือ อ้วนเสี้ยว ซึ่งสืบต่อขุนนางมา 3 รุ่น เป็นตระกูลดัง โจโฉได้เสนอให้โฮจิ๋นรีบแต่งตั้ง หองจูเปียน ขึ้นครองราชโดยเร็วเนื่องจากถูกต้องตามประเพณี พี่ครองราชก่อน อีกทั้งตำแหน่งฮ่องเต้จะทิ้งว่างไว้นานไม่ได้ โฮจิ๋นจึงรีบเข้าไปยึดอำนาจโดยเร็วและแต่งตั้ง หองจูเปียน ขึ้นครองราชณ.บัดนั้น



#7 กลียุคก่อนที่จะเป็นสามก๊ก

จากหลายตอนที่ผ่านมาจะเห็นว่า ตัวละครสำคัญๆของ สามก๊ก นั้น ได้ออกมากันแล้ว โดยสามก๊กนั้น โดยประกอบด้วย ก๊กของโจโฉ, ก๊กของเล่าปี่, ก๊กของซุนกวน  (แต่ตอนนี้ซุนกวนยังไม่ปรากฎแต่ที่เห็นตอนนี้คือ ซุนเกี๋ยนนั้นเป็นพ่อของซุนกวน)  ทั้ง 3 คนนี้ได้ก้าวเข้าสู่สนามรบเนื่องจากบ้านเมืองเกิดกลียุคและขบถ ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างก็มีบทบาท แท้ที่จริงแล้วอาจจะมุ่งหมายเข้าสู่อำนาจก็ว่าได้

โดยโจโฉนั้นได้ก้่าวเข้ามาเป็นทหารในเมืองหลวงซึ่งเป็นคนที่อยู่ไกล้อำนาจมากที่สุด หากเทียบกับ ซุนเกี๋ยนและเล่าปี่ การเมืองที่ไม่เข้มแข็งขุนพลก็ต่างแก่งแย่งชิงดีชิงเ้ด่นกันเพื่อที่จะได้ยึดครองอำนาจสูงสุด