โจโฉระดมพลขึ้นเรือ อีกทั้งลมสลาตันก็ค่อยๆพัดแรงขึ้นๆ เทียหยกเห็นท่าไม่ดีจึงเตือนให้โจโฉระวัง โจโฉได้ฟังจึงว่า
โจโฉ : "อันฤดูนี้แม้นจะมีลมสลาตัน ถึงมีก็น้อย ท่านอย่าได้วิตกเลย"
เทียหยกได้ฟังเช่นนั้นจึงมิกล้าเซ้าซี้ ทหารจึงเข้ามารายงานว่าบัดนี้อุกายกำลังจะนำเสบียงของเมืองกังตั๋งมาให้ โจโฉได้ยินก็ยินดี
ทางฝ่ายจิวยี่ก็เตรียมพลพร้อม รออุยกายนำเรือเชื้อเพลิงพุ่งเข้าชนกองเรือของโจโฉเมื่อใด เมื่อนั้นก็นับเป็นการเปิดเกมศึกแตกหัก ยิ่งดึกลมยิ่งแรง
อุยกายนำเรือแล่นเข้ามา โจโฉเห็นก็ยินดี แต่เทียหยดนั้นยังระแวงเกรงว่าจะเป็นอุบายจึงเตือนโจโฉอีกครั้ง โจโฉเห็นลมแรงและเรือของอุกายมีท่าทีแปลกๆ จึงสั่งให้บุนเพ่งไปแจ้งให้อุกายหยุดเรือ
บุนเพ่งพยายามบอกให้อุกายหยุดเรือ แต่อุกายนั้นระดมยิงธนูเพลิงใส่กองทัพของบุนเพ่ง อุยกายระดับยิ่งธนูเพลิงใส่เรือโจโฉอีกหลายๆลำ พร้อมทั้งทำเรือของตนเป็นเรือเพลิง จากนั้นอุกายสั่งให้ทหารเรือลงเรือหนีภัย จากนั้นเรือเพลิงของอุยกายนั้นพุ่งชนเรือรบของโจโฉ
เพลิงไฟไหม้เรือโจโฉไปหลายลำและลามติดกันเป็นทอดๆตามที่เรือผูกกัน ทหารพยายามแยกส่วนเรือแต่ไม่สำเร็จเนื่องจากเรือนั้นถูกโซ่ตวนขึงกันไว้แน่นตามแผนของบังทอง
สมรภูมิเซ็กเพ็กเต็มไปด้วยเพลิงใหม้ อุกายพยามสังหารโจโฉแต่เตียวเลี้ยวได้เข้ามาช่วยไว้ทัน เตียวเลี้ยวคอยอารักขาโจโฉลงเรือหนี จิวยี่เห็นเป็นไปดังแผ่นการจึงระดมเรือบุกโจโฉเต็มอัตราศึก
ไฟยิ่งลุก ลมก็ยิ่งแรง ลิบอง ตังสิด และพัวเจี้ยง บุกเข้าไปตีคลังสะเบียงของโจโฉที่ตำบลฮัวหลิม ทางฝ่ายเตียวเลี้ยงจึงรีบพาโจโฉหนีออกมาจากที่เกิดเหตุกับทหารเพียงร้อยกว่าคนหนีไปตามเส้นทางตำบลฮัวหลิม หนีได้ไม่นานจึงพบกับลิบอง ยกมาตีทัพโจโฉ เตียวเลี้ยงจึงเข้ารบกับลิบองเพื่ออารักขาโจโฉ
โจโฉหนีมาอีกทางก็พบกับเล่งมาสกัด เล่งทองเข้าตีทัพโจโฉ ซิหลงจึงรีบเข้ามาปะทะกับลิบอง และป้องกันโจโฉให้ปลอดภัยได้
โจโฉขึ้นบกได้จีบรีบหนีเพื่อเข้าค่าย แต่ค่านนั้นโดนทหารของจิวยี่ทำลายเสียสิ้น โจโฉหนีไปทางไหน ทหารของจิวยี่ก็บุกเข้ามา จนโจโฉได้มาพบกับกำเหลง กำเหลงจึงบุกเข้ามาหาโจโฉหวังเอาชีวิต โจโฉสู้ตายและหนีออกมาได้
ทันใดนั้นโจโฉเห็น 2 ข้างทางเป็นป่าทึกตามเส้นทางของหุบเขา โจโฉจึงหัวเราะขึ้นมาดังๆๆ ทหารต่างก็สงสัยจึงได้สอบถามโจโฉว่าหัวเราะเพราะอะไร
โจโฉ : "ฮ่าๆๆๆ ตัวข้านั้นเสียทีมานี้ แต่ยังก็คิดว่าสติปัญญาของขงเบ้งกับจิวยี่นั้น แม้นจะฉลาดแต่ก็ยังไม่สุด หากขงเบ้งหรือจิวยี่นำทหารมาดักข้างหน้าเรา กองทัพเรานั้นจะหนีไปไหนรอด..."
ยังไม่ทันสิ้นเสียงโจโฉเสียประทัดดัง ทหารที่สุ้มก็ออกมา แม่ทัพคนนั้นคือ จูล่งชาวเสียงสาน จูล่งจึงว่า
จูล่ง : "ตัวเรานั้นรับคำสั่งขงเบ้งให้มาสังหารโจรอย่างเจ้า"
โจโฉจึงสั่งให้ทหารตีฝ่าหนีกองทัพจูล่งออกไป ทหารของโจโฉก็ล้มตายเป็นอันมาก โจโฉหนีไปจนไกล้รุ่งเช้า ฝนก็ตกลงมา ทหารเปียกและอิดโรยเป็นอย่างมาก ทางข้างหน้านั้นเป็นทางแยก ตำบลอิเหลง ทหารจึงถามโจโฉว่าจะไปทางใด
โจโฉ : "เส้นทางไหนไปเมืองลำกุ๋นได้เร็วกว่ากัน"
ทหาร : "ไปทางช่องเขาโฮโลก๊ก"
โจโฉ : "งั้นก็ไปเส้นทางนั้น"
โจโฉหนีมาจึงได้พบกับ เคาทู ซิหลง ก็ยินดีหยุดพักผ่อน เริ่มหุงเข้ากิน โจโฉเห็นทหารตนเองหมดแรงและทางข้างหน้าเป็นทางแคบก็หัวเราะดังลั่นขึ้นมาอีกครั้ง
ทหาร : "เมื่อกี้ท่านก็หัวเราะ แล้วจูล่งก็มาตีทัพเรา บัดนี้ท่านหัวเราะเรื่องอันใดอีกเล่า"
โจโฉ : "ฮ่าๆๆๆ ข้าหัวเราะความคิดของขงเบ้งและจิวยี่ หากมันนำทัพมาล้อมเราที่นี่ กองทัพเราจะหนีไปได้อย่างไร คงต้องโดนจับแน่ๆ"
ยังไม่ทันสิ้นเสียงโจโฉเสียประทัดดัง ทหารที่สุ้มก็ออกมา แม่ทัพคนนั้นคือ เตียวหุย เตียวหุยร้องเสียงดังขึ้นมาว่า "ข้าชื่อเตียวหุย ได้รับคำสั่งขงเบ้งให้มาฆ่าศัตรูแผ่นดิน" โจโฉเห็นเตียวหุยก็ตกใจรีบสั่งให้ทหารตีฝ่าหนีอีกครั้ง
เคาทู เตียวเลี้ยว และซิหลง ร่วมมือสกัดกองกำลังของเตียวหุย จนหนีออกไปได้ โจโฉหนีไปไกลจนพบทางแยกอีกครั้ง โจโฉจึงเลือกเส้นทางที่เดินทางไปไกล้เมืองลำกู๋นที่สุด ระหว่างทางโจโฉเห็นควันไฟตรงทางข้างหน้าตามเส้นทางไปตำบอลฮัวหยงซึ่งเป็นทางลัด
โจโฉจึงสั่งให้ทหารไปเส้นทางนั้น ทหารสงสัยว่าเมื่อเห็นกองไฟ เหตุใดยังไปทางนั้น โจโฉจึงว่า ตามหลักพิชัยสงคราม จริงก็คือเท็จ เท็จก็คือจริง มีคือไม่มี ไม่มีคือมี อันขงเบ้งนี้เจ้าเล่ห์ เมื่อรู้ว่าเราจะแตกมาเส้นทางนี้แต่กลับก่อกองไฟขึ้นมาเพื่อสร้างอุบาย ตัวเรานั้นแจ้งในอุบายของขงเบ้ง จึงเลือกไปเส้นทางนั้น
นับว่าเป็นอุบายของขงเบ้งนั้นได้ผล ขงเบ้งรู้ว่าโจโฉนั้นจะรู้ทันอุบายนี้จึ่งซ้อนกลอุบายโจโฉจาก มีคือไม่มี เป็น มีคือมี
ทหารโจโฉยิ่งเดินยิ่งเหนื่อย ไม่มีแรงเดินพร้อมทั้งร้องไห้กัน เส้นทางก็เดินลำบาก โจโฉจึงสั่งให้ทหารไปติดไม้ถมเป็นทางให้เดินได้สะดวก หากผู้ใดท้อถอยจะถูกตัดหัว
โจโฉเห็นทหารที่หนีมากับตนนั้นมีไม่กี่ร้อยคน ก็หวนนึกถึงทหารกว่าร้อยหมื่นของตนต้องมาตายลง ใจจึงโกรธแค้นขงเบ้งและจิวยี่เป็นอันมาก