หลังจากข่าวลือเรื่องจิวยี่ตายแพร่ออกไป เหล่าทหารของเมืองกังตั๋งจึงแปรพักตร์ ไปหาโจหยิน โดยเล่าความให้โจหยินฟังทุกประการว่า บัดนี้จิวยี่ตายแล้ว เทียเภาจัดพิธีศพเป็นความลับ
โจหยินนั้นได้ฟังข่าวลือก็แล้วแถมมีทหารมาเข้าด้วยอีก จึงเพิ่มความเชื่อให้แก่โจหยิน อีกทั้งโจหยินเองก็เห็นจิวยี่อาเจียนเป็นโลหิตตกจากหลังหน้าต่อหน้าต่อตา จากนั้นโจหยินจึงเตรียมพลเข้าไปปล้นค่ายจิวยี่คืนนี้
ท่ายฝ่ายขงเบ้ง เหล่าสายสืบรายงานว่าบัดนี้จิวยี่โดนพิษเกาทัณฑ์เสียชีวิตไปแล้ว ขงเบ้งจึงว่าแล้วทหารเมืองกังตั๋งได้ถอยทัพกลับหรือไม่ ทหารรายงานว่าไม่ ขงเบ้งจึงเข้าใจอุบายจิวยี่ทุกประการ
ขงเบ้งจึงแจ้งไปว่าให้เฝ้าคอยจังหวะต่อไป เสือ 2 ตัวนี้กำลังบาดเจ็บ ไกล้ถึงโอกาสของเราแล้ว เพียงแต่รอโจหยินยกทัพไปปล้นค่ายจิวยี่ ฝั่งเราค่อยไปยึดเอาเมืองลำกุ๋น เมืองซงหยง และ เมืองเกงจิ๋ว
ขงเบ้งออกหมายทัพให้เล่าปี่และจูล่งคุมทหารเป็นกองหน้า ให้กวนอูเตียวหุยคุมทหารไปยังเมืองลำกุ๋น ถ้าโจหยินออกไปปล้นค่ายจิวยี่เมื่อไหร่ ให้รีบรายงานทันที
ต่อมามีรายงานว่าโจหยินออกมาแล้ว ขงเบ้งจึงให้จูล่งปลอมเป็นทหารของโจหยินแล้วลวงทหารเฝ้าประตูเพื่อเข้าไปในเมือง โดยแจงว่าโจหยินเสียทีจิวยี่จึงหนีกลับมาให้เปิดประตูด้วย
ตันเกียวมองเห็นทหารเหล่านั้นคล้ายทหารของโจหยิน เนื่องจากค่อนข้างมึดมองไม่เห็น จึงเปิดประตูให้ จูล่งจึงแอบเข้าไปในเมืองจับตัวตันเกียวแล้วบังคับให้ยอมจำนน ขงเบ้งจึงพาเล่าปี่เข้าไปอาคารว่าการทันที ตันเกียวได้ยินชื่อเสียงของเล่าปี่จึงยอมโอนอ่อนด้วย
หลังจากยึดเมืองได้ขงเบ้งจึงสั่งให้ทหารของโจหยินนั้นหาถอดเสื้อเกาะออกมาพร้อมธงของโจหยิน จากนั้นนำธงและชุดเกราะมอบให้ กวนอูและเตียวหุยที่อยู่นอกเมือง ปลอมตัวเป็นทหารโจหยินเช่นเดียวกัน โดยสั่งให้เตียวหุยไปยึดเมืองเกงจิ๋ว ให้กวนอยู่ไปยึดเมืองซงหยง โดยใช้วิธีเดียวกับจูล่งที่ยึดเมืองลำกุ๋นไว้ได้
ทหารของโจหยินเห็นชุดเกาะและธงของตัวเองจึงไม่สงสัยเปิดประตูให้โดยง่าย เตียวหุยจึงยึดเมืองเกงจิ๋วได้สำเร็จ ทางด้านกวนอูนั้นพอไปถึงเมืองซงหยงจึงแจ้งกับแฮหัวตุ้นที่เฝ้าเมืองว่า ให้รีบยกทัพไปช่วยโจหยิน แฮหัวตุ้นได้ฟังเช่นนั้นเห็นทั้งธงและชุดเกาะก็มิได้สงสัยและรีบยกทัพออกไปช่วย กวนอูจึงยึดเมืองซงหยงไว้ได้
แหมม ขงเบ้งนั้นวางแผนยึด 3 หัวเมืองพร้อมๆกันโดยที่ไม่เสียทหารซักคน เป็นการวางอุบายให้ 2 เสือกัดกัน ขงเบ้งนั้นถือว่าเป็นคนที่คอยจังหวะและฉกฉวยโอกาสไว้ให้เป็นของตนเอง