หลังจากที่กองทัำำพม้าเท้งและหันซุยถอยกลับไป หลังจากลิฉุยและกุยกีได้ยึดอำนาจก็ไม่ได้ดูแลประชาชนเป็นอย่างดี กองทัพโจรโพกผ้าเหลืองก็เริ่มก่อตัวอีกครั้ง ลิฉุยและกุยกีรู้ข่าวจึงปรึกษากันว่าจะทำอย่างไร จูฮี ผู้ที่เคยมีประสบการณ์ในการปราบโจรโผกผ้าเหลืองจึงเสนอว่าให้เรียกโจโฉไปจัดการโจรโพกผ้าเหลือง ลิฉุยและกุยกีจึงออกราชโองการสั่งให้โจโฉไปปราบปรามโจรโพกผ้าเหลือ และให้เปาสิ้นเป็นผู้ช่วย
เปาสิ้นได้ยกทัพไปรบกับกองทัพโพกผ้าเหลือง แต่ก็สู้ไม่ได้จนถึงแก่ความตาย กองทัพโจโฉยกมาช่วยแต่ไม่ทัน โจโฉได้ไล่ตีกองทัพโพกผ้าเหลืองจนแตกพ่ายไป ยึดเชลยและอาวุธได้เป็นจำนวนมาก โจโฉใช้เวลาเกือบ 3 เดือน กำจัดล้างโจรโพกผ้าเหลืองในฝั่งดินแดนตะวันออกได้ แถมยังได้กลุ่มโจรโพกผ้าเหลืองเข้ามาเป็นพรรคพวกได้อีกเป็นจำนวนมากและมีขนาดใหญ่ถึง 30 หมื่น
หลังจากนั้นโจโฉก็ส่งข่าวชัยชนะแก่พระเจ้าเหี้ยนเต้หลังจากชนะศึกแล้ว พระเจ้าเหี้ยนเต้ทราบจึงแต่งตั้งให้โจโฉเป็นแม่ทัพใหญ่ภาคตะวันออกและเป็นเ้จ้าเมืองกุนจิ๋ว
วิเคราัะห์
บัดนี้กองทัพโจโฉเป็นกองทัพที่มีทหารจำนวนมากและพร้อมรบที่สุด มีทหารเอกเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน แต่กองทัพโจโฉนั้นยังขาดกุนซืออยู่ จึงยังไม่ได้ติดปีกมากนักแต่ก็เ็ป็นอันว่าได้เปรียบกว่าก๊กอื่นๆเช่นกัน คู่แข่งของโจโฉตอนนั้นมีเพียงลิฉุย กุยกี ที่ตั้งทัพที่เมืองหลวงและครอบงำอำนาจพระเจ้าเหี้ยนเต้ไว้ทั้งสิ้น แต่เมื่อเทียบกับโจโฉแล้วตอนนี้ก็ยังถือว่าสูสี ถึงแม้ว่าลิฉุย กุยกี จะไม่เชี่ยวชาญการรบและไม่ได้มีสติปัญญา แต่ยังมีกุนซือที่มีสติปัญญาเป็นอย่างมาก นั่นคือ "กาเซี่ยง"
เมื่อเทียบกับซุนเซ็กและเล่าปี่กับโจโฉ ทั้งสองก๊กนี้มีทหารเอกที่มีฝีมือก็จริงแต่จำนวนกองทัพนั้นไม่อาจเทียบเท่ากองทัพของโจโฉได้ จึงมองได้ว่าขณะนี้กองทัพโจโฉได้คืบคลานไปสู่อำนาจที่ยิ่งใหญ่
เมือเทียบซุนเซ็กกับเล่าปี่ ซุนเซ็กก็ได้เปรียบเล่าปี่ ในหลายๆด้าน ซุนเซ็กได้เป็นเจ้าเมืองเตียงสา ส่วนเล่าปี่ได้เป็นเจ้าเมืองเล็กๆชื่อเพงง้วนก๋วน