ครั้นลิฉุย กุยกีได้ยึดครองอำนาจไว้ทั้งหมด ก็ทำตัวแบบเดียวกับตั๋งโต๊ะเกือบทุกประการทำให้ประชาชนเดือดร้านทำให้ขบวนการกู้ชาติของโจรโพกผ้าเหลืองได้ก่อกลุ่มขึ้นอีกครั้ง
ทางด้านม้าเท้งเจ้าเมืองเสเหลียงและหันซุยคู่ซี้ ซึ่งทั้ง 2 ได้ครองดินแดนตะวันตกได้ทราบข่าวเกี่ยวกับลิฉุยกุยกียึดอำนาจเมืองหลวงเป็นทรราชย์แบบเดียวกับตั๋งโต๊ะ จึงยกทัพเข้าไปตีเมืองหลวง ทางด้านลิฉุย กุยกี รู้ข่าวก็ปรึกษากับกาเซี่ยง กาเซี่ยงแนะนำว่าอย่าไปกลัวเลย กองทัพเสเหลียงมาไกล เราไม่ออกรบเสบียงของพวกม้าเท้งหมดก็คงกลับไปเอง
กาเซี่ยงได้เสนออุบายตั้งรับแต่ก็ถูกไม่เห็นด้วยกับอุบายนี้ ทั้ง 2 กองทัพจึงเข้ามาเผชิญหน้ากันโดยกองทัพเมืองเสเหลียงส่งผู้บุตรของม้าเท้งออกไปรับ ผู้นั้นมีนามว่า ม้าเฉียว
ม้าเฉียวในตอนนั้นมีอายุเพียง 18 ปี หน้าหยก คล่องแคล่วว่องไว มีฝีมือเป็นอย่างมาก พอสู้รบกับกองทัพเมืองหลวง กองทัพเมืองหลวงก็แพ้ไม่สามารถสู้กับม้าเฉียวที่มีฝีมือเก่งกาจได้
จากนั้นลิฉุย กุยกี จึงต้องทำตามแผนของกาเซี่ยงทุกประการ คือการตั้งรับ กองทัพที่เดินทางมาจากแดนไกล เข้ามาล้อมเมืองหลวงหลายวัน กองทัพเมืองหลวงก็ไม่ออกรบเป็นเวลา 2 เดือน กองทัพของม้าเท้งก็ขาดเสบียง ทหารเสียขวัญ อีกทั้งใส้ศึกที่ส่งไปยังเมืองหลวงยังถูกลิฉุยกุยกีประหารอีก จึงตัดสินใจยกทัพกลับ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของกาเซี่ยง จากนั้นจึงสั่งให้เตียวเจและหวนเตียวไล่ตามตีกองทัพของม้าเท้งและหันซุย หวนเตียวนั้นเห็นแก่พวกหันซุยว่ามีความรักชาติก็เลยใจอ่าน จากนั้นจึงปล่อยกองทัพของหันซุยไป ลิฉุยรู้ข่าวว่าหวนเตียวขัดคำสั่งปล่อยม้าเท้งและหันซุย ลิฉุยจึงวางแผนสังหารหวนเตียวในเวลาต่อมา ตอนนี้ก็เท่ากับว่า 4 ทหารเอกของตั๋งโต๊ะฆ่าฟันกันเองจนเหลือ 3 คนแล้ว..