Wednesday, November 28, 2012

#180 ขงเบ้ง vs เตียวเจียว


เช้าวันรุ่งขึ้นขงเบ้งได้ถูกเชิญให้เข้ามานั่งร่วมสนทนากับเหล่าที่ปรึกษาของเมืองกังตั๋ง โดยโลซกได้เตือนขงเบ้งเป็นครั้งที่ 2 ว่า

โลซก : "เมื่อท่านได้พบกับซุนกวนนายเราให้บอกนายเราว่า กองทัพโจโฉนั้นมีจำนวนน้อย"

ขงเบ้งได้ฟังก็หัวเราะ แล้วจึงว่า "ท่านจงวางใจเถิด ข้าพเจ้าย่อมมีวิธีที่จะพูดจากับซุนกวนมิให้เสียการของนายเราทั้งสอง"

หลังจากที่เหล่าที่ปรึกษาเข้านั่งรวมตัวกันเรียบร้อยแล้ว  เตียวเจียวที่ปรึกษาผู้ใหญ่ของซุนกวนจึงได้เปิดฉากสงครามลิ้นเป็นคนแรก

เตียวเจียว : "เดิมที่อาจารย์ฮกหลงอยู่ตำบลเขาโงลังกั๋ง เขาเลื่องลือว่ามีสติปัญญามากเหมือนอาจารย์ขวัญต๋ง งักเย เป็นจริงหรือปล่าว?"

ขงเบ้ง : "จริง...แท้จริงแล้วเป็นการเปรียบเทียบง่ายๆแท้จริงแล้วสติปัญญามีมากเท่าใดนั้นไม่มีใครรู้"

เตียวเจียวเห็นขงเบ้งเริ่มปากดี เตียวเจียวจึงต้องแสดงสติปัญญาของตนเพื่อข่มขงเบ้ง

เตียวเจียว : "ได้ยินมาว่า เล่าปี่ไปเชิญท่านถึง 3 ครั้ง เมื่อได้มาแล้วเล่าปี่เปรียบเสมือนปลาได้น้ำ มีใจกำเริบคิดที่จะแย่งชิงดินแดนเมืองเกงจิ๋ว แต่เหตุใดเมืองเกงจิ่วถึงไปตกอยู่ในมือของโจโฉได้หล่ะ?"

ขงเบ้ง : "ในสายตาของข้าพเจ้าการยึดเมืองเกงจิ๋วนั้น ง่ายเหมือนดั่งพลิ๊กฝ่ายมือ แต่ท่านเล่าปี่ยึดมั่นในคุณธรรมไม่อยากแย่งเมืองของคนแซ่เดียวกันจึงไม่รับเมือง เล่าจ๋องเด็กน้อยหลงเชื่อคนสอพลอให้ยอมแพ้ โจโฉถึงยึดได้ อันเล่าปี่นายเรานั้นตอนนี้อยู่เมืองกังแฮมีแผนล้ำลึก พวกปัญญาน้อยคิดไม่ถึงดอก"

เตียวเจียว : "ดูเหมือนคำพูดกับการกระทำของท่านมันขัดแย้งกัน ท่านเปรียบตนกับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ขวัญต๋ง งักเย ช่วยทำนุบำรุงแผ่นดินพระเจ้าจีฮ้วนก๋ง ปราบปรามศัตรูให้ราบคาบ บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข นี่สิถึงเรียกว่าเป็นผู้มีสติปัญญาจริง อันเล่าปี่ก่อนที่จะได้ท่านมายังได้ครองเมือง เป็นใหญ่ไม่น้อยแต่เมื่อได้ท่านมาเป็นกุนซือช่วยเหลือ โจโฉบุกมาจำต้องหนีหัวซุกหัวซุนไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ท่านยังจะเปรียบกับขวัญต๋ง งักเย อย่างนั้นหรือ"

ขงเบ้ง : "ความคิดของพญาครุฑกระจอกย่อมไม่รู้.....การคิดทำการใหญ่นั้น อุปมาเหมือนคนไข้หนัก ต้องให้ยาที่มีฤทธิ์น้อยเสียก่อน ถึงจะให้ยาที่มีฤทธิ์มาก เพื่อที่จะให้คนไข้นั้นได้ปรับตัว ซึ่งการที่เล่าปี่นายเราแพ้แก่โจโฉนั้น มีทหารเอกแต่กวนอู เตียวหุย จูล่งสามคนนี้มีทหารไม่กี่พัน เปรียบเหมือนดั่งคนไข้หนัก เราก็ได้เผาทหารโจโฉเสียที่ทุ่งพกบ๋องก็ครั้งหนึ่ง ที่แม่น้ำแปะโหเราก็ได้ไขน้ำให้ท่วมทหารโจโฉให้ตายเป็นอันมาก แม้นทหารใหญ่อย่างโจหยินและแฮหัวตุ้นยังกลัว ซึ่งท่านว่าขวัญต๋ง งักเย นั้นได้มีอุบายเช่นนี้หรือไม่ก็ไม่รู้ การที่เล่าจ๋องเสียเมืองเกงจิ๋วนั้นทางฝ่ายเราก็ไม่รู้เห็นด้วย หากนายเราได้ครองเมืองเกงจิ๋วมีเหรอเมืองเกงจิ๋วจะตกอยู่ในมือของโจโฉ เล่าปี่นายเราห่วงประชาชน ประชาชนจึงขอติดตามมานายเราจะทิ้งประชาชนก็มิได้ จึงโดนโจโฉไล่ตามตี อันกองทัพโจโฉนั้นมาก มากชนะน้อย นั้นเป็นเรื่องธรรมดามิใช่หรือ? สมัยพระเจ้าฮั่นโกโจยังแพ้พระเจ้าฌ้อปาอ๋องตั้งหลายครั้ง แต่ยังกลับมาชนะได้ แลดูตัวท่านนี้มีแต่ยกตนข่มท่านคิดว่าตัวเองดี แม้นภัยเข้ามาถึงตัวกลัวจะทำได้ไม่เหมือนปาก"

เตียวเจียวได้ยินเช่นนั้นก็นิ่งไม่กล้าพูดอะไรออกมา ซึ่งขงเบ้งนั้นตอนแรกโดนเตียวเจียวโจมตี ด้วย keyword ที่ว่า "โอ้อวดตน"  ว่า "ขงเบ้งอวดตนว่าเก่งเปรียบขวัญต๋ง งักเย" ขงเบ้งจึงสวนกลับในเหตุผลเดียวกันว่า "ชาวกังตั๋งนั้นอวดเก่งแต่มิมีปัญญาแก้ไขสถานการณ์"