ข้งเบ้งนั่งเรือน้อยไปเมืองกังตั๋งกับโลซก ในขณะนั่งเรือนั้น โลซกได้ขอให้ขงเบ้งรับปากว่า
โลซก : "เมื่อท่านพบกับซุนกวนแล้วถ้าหากซุนกวนไต่ถามเกี่ยวกับกำลังทหารของโจโฉ ขอร้องท่านอย่าได้บอกความจริงว่าโจโฉมีทหารจำนวนมาก ให้บอกแต่เพียงว่าโจโฉมีทหารจำนวนน้อย ซุนกวนจะได้มีกำลังใจต่อสู้ด้วยโจโฉ"
โลซกเป็นลูกน้องที่รู้ใจนายยิ่งนักแต่การเปิดเผยครั้งนี้เป็นการผิดพลาดยิ่งนัก ทำให้ขงเบ้งเองได้ข้อมูลว่าแท้ที่จริงแล้วตัวซุนกวนเองก็หวั่นเกรงกำลังของโจโฉ ทำให้ขงเบ้งนั้นสามารถคิดอุบายที่จะใช้กับซุนกวน
ขงเบ้ง : "ท่านอย่าได้วิตกเลย ข้าพเจ้ามีวิธีคุยกับซุนกวนนายของท่าน"
ขงเบ้งเองก็พูดเชิงมิได้รับปากกับโลซก พอถึงเมืองชีสองโลซกให้ขงเบ้งกลับไปพักผ่อนรุ่งเช้าจึงนัดขงเบ้งเข้าพบกับซุนกวน ส่วนโลซกเข้าไปรายงานกับซุนกวนว่าบัดนี้ได้พาขงเบ้งมาพบในวันพรุ่งนี้ ซุนกวนได้ยินเช่นนั้นก็ยินดีพร้อมทั้งเอาจดหมายที่โจโฉเขียนมาถึงให้โลซกดู ทั้งโลซกและเตียวเจียวก็ได้อ่าน เตียวเจียวให้ความเห็นว่า
เตียวเจียว : "ข้าพเจ้าจึงเห็นว่าหากจะสู้รบทำสงครามกับโจโฉก็มีแต่จะแพ้ทำให้ชาวเมืองกังตั๋งเดือดร้อนควรที่จะยอมแพ้โจโฉ อีกทั้งโจโฉยังอ้างรับราชโองการฮ่องเต้ไหนเลยฝ่ายเราจะกล้าขัด"
บรรดาเหล่าที่ปรึกษาต่างก็เห็นด้วยกับความคิดของเตียวเจียวทั้งสิ้น ซุนกวนได้ฟังก็มิได้พูดประการใดและจึงบอกให้เลิกประชุมค่อยคุยกันพรุ่งนี้ หลังจากเลิกประชุมเสร็จโลซกเดินมาคุยกับซุนกวนและให้ความเห็นว่า
โลซก : "ข้าพเจ้าว่าท่านไม่ควรยอมแพ้ เพราะเมืองกังตั๋งนั้นสืบทอดมา 3 รุ่น สมัยซุนเกี๋ยน ซุนเซ็ก แล้วก็ซุนกวน จะให้ตกไปเป็นของโจโฉนั้นมิได้ พวกเหล่าที่ปรึกษานั้นรักตัวกลัวตาย"
ซุนกวนเองได้ฟังเช่นนั้นก็เห็นชอบแต่ก็ยังยำเกรงกองทัพของโจโฉอยู่ดี พรุ่งนี้ค่อยหารือใหม่แล้วนัดขงเบ้งเข้ามาให้ขอมูลด้านกองทัพของโจโฉ โดยพรุ่งนี้สั่งให้โลซกจัดการเสวนาระหว่างขุนนางเมืองกังตั๋งและขงเบ้ง ให้ได้สนทนากันเสียก่อนค่อยมาคุยกับซุนกวน
ซุนกวนนั้นทำเช่นนี้เพื่อที่จะข่มขวัญขงเบ้งให้ยำเกรงฝ่ายกังตั๋ง โลซกจึงรับคำทุกประการ