จากนั้นอ้วนเสี้ยวได้ส่งหนังสือมาขอเสบียงให้โจโฉส่งเสบียงไปให้ถ้าไม่ทำตามก็จะยกทัพมาตีโจโฉ ทางฝ่ายโจโฉได้ยินเช่นนั้นก็โกรธอ้วนเสี้ยวที่ทำตัวคุกคามและขุ่มขู่ จึงปรึกษากับที่ปรึกษาว่าจะทำประการใดดี
กุยแกจึงวิเคราะห์สถานการ ระหว่าง โจโฉและอ้วนเสี้ยวออกมาว่า โจโฉนั้นมีเหตุชนะ 10 ประการ ส่วนอ้วนเสี้ยวมีเหตุปราชัย 10 ประการ โจโฉได้ยินดังนั้นจึงถามต่อไปว่า ทำไมท่านกุยแกถึงคิดเช่นนั้น
กุยแกจึงแจ้งไปว่า
(ตามฉบับคนขายชาติ)
- ตัวท่านเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับทหาร ในขณะที่อ้วนเสี้ยววางตัวเป็นเจ้ากับข้า นี่เป็นเหตุทั่วไปหนึ่ง
- การกระทำของอ้วนเสี้ยวเป็นกบฏต่อแผ่นดิน ส่วนท่านทำตามรับสั่งของฮ่องเต้ นี่เป็นเหตุทางความชอบธรรมหนึ่ง
- อ้วนเสี้ยวบริหารราชการด้วยความหย่อนยานหละหลวม แต่ท่านเข้มงวดกวดขัน นี่เป็นเหตุทางด้านบริหารหนึ่ง
- อ้วนเสี้ยวดูภายนอกโอบอ้อมอารี แต่ภายในแรงด้วยฤทธิ์อิจฉาริษยา ใช้คนได้ก็แต่หมู่ญาติ ส่วนท่านโอบอ้อมอารีทั้งภายนอกและภายใน ใช้คนได้ทั้งผู้มีสติปัญญาความสามารถและฝีมือกล้าแข็ง นี่เป็นเหตุแห่งอัธยาศัยหนึ่ง
- อ้วนเสี้ยวมีน้ำใจโลเล ตัดสินใจไม่เด็ดขาด แต่ท่านน้ำใจมั่นคง เด็ดเดี่ยว นี่เป็นเหตุทางจิตใจของแม่ทัพหนึ่ง
- อ้วนเสี้ยวไร้สติปัญญา ไม่สามารถคิดอ่านอุบายและกลศึกได้ ตัวท่านมีสติปัญญา เชี่ยวชาญทางกลศึกและพิชัยสงคราม นี่เป็นเหตุแห่งสติปัญญาหนึ่ง
- อ้วนเสี้ยวเป็นนักสร้างภาพและชื่อเสียงจอมปลอม ส่วนตัวท่านคิดทำและพูดบนพื้นฐานความจริงและความยุติธรรมเป็นหลัก นี่เป็นเหตุแห่งสัจจะหนึ่ง
- อ้วนเสี้ยวรักคนใกล้มากกว่าคนไกล ส่วนท่านเอื้ออาทรต่อคนใกล้และคนไกลเสมอกัน นี่เป็นเหตุแห่งความยุติธรรมหนึ่ง
- อ้วนเสี้ยวเป็นคนหูเบาและหลงงมงายทำให้กองทัพปั่นป่วน ส่วนท่านมีสติปัญญาแจ่มใส หนักแน่น นี่เป็นเหตุแห่งความเชื่อมั่นหนึ่ง การทำงานของอ้วนเสี้ยวสับสนผิดถูกไม่กระจ่าง ส่วนท่านผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก มีกฎระเบียบวินัยเข้มงวดชัดเจน นี่เป็นเหตุแห่งนิติธรรมหนึ่ง
- อ้วนเสี้ยวใช้คนโดยไม่รู้จักคน ส่วนท่านใช้คนตามความสามารถ นี่คือเหตุแห่งการปกครองและใช้คนอีกหนึ่ง ทั้งสิบประการนี้คือเหตุที่ทำให้ท่านได้รับชัยชนะและอ้วนเสี้ยวต้องตกเป็นฝ่ายปราชัย
(ตามฉบับพระยาพระคลังหน)
เหตุแห่งชัยชนะของโจโฉสิบประการคือ
1.ท่านมิได้ถือตัว ถ้าจะทำการสิ่งใดถึงผู้น้อยจะขัดท่านว่าผิดแลชอบ ท่านก็เห็นด้วย ประการหนึ่ง
2.น้ำใจท่านโอบอ้อมอารีต่อคนทั้งปวง แล้วจะทำการสิ่งใดก็ถือเอารับสั่งพระเจ้าเหี้ยนเต้เป็นประมาณ คนทั้งหลายก็ยินดีด้วย ประการหนึ่ง
3.ท่านจะว่ากล่าวสิ่งใดก็สิทธิขาดมีสง่า คนทั้งปวงยำเกรงท่านเป็นอันมากประการหนึ่ง
4.ใจท่านสัตย์ซื่อเลี้ยงทหารโดยยุติธรรม ถึงญาติพี่น้องผิดก็ว่ากล่าวมิเข้าด้วยผู้ผิด ประการหนึ่ง
5.ท่านจะคิดทำการสิ่งใดเห็นเป็นความชอบก็ตั้งใจทำไปจนสำเร็จ ประการหนึ่ง
6.ท่านจะรักผู้ใดก็รักโดยยุติธรรม มิได้ล่อลวง ประการหนึ่ง
7.ท่านเลี้ยงคนซึ่งอยู่ใกล้กับอยู่ไกล ถ้าดีแล้วเลี้ยงเสมอกัน ประการหนึ่ง
8.ท่านคิดการหนักหน่วงให้แน่นอนแล้วจึงทำการ ประการหนึ่ง
9.ท่านจะทำการสิ่งใดก็ทำตามขนบธรรมเนียมโบราณ ประการหนึ่ง
10.ท่านชำนาญในกลสงคราม ถึงกำลังข้าศึกมากกว่าท่าน ท่านก็คิดเอาชัยชนะได้”
ส่วนเหตุแห่งการปราชัยของอ้วนเสี้ยวสิบประการ กุยแกได้จำแนกว่า
1.อ้วนเสี้ยวเป็นคนถืออิสริยยศ มิได้เอาความคิดผู้ใด ประการหนึ่ง
2.อ้วนเสี้ยวเป็นคนหยาบช้า ทำการโดยโวหาร ประการหนึ่ง
3.อ้วนเสี้ยวจะว่ากิจการสิ่งใด มิได้สิทธิขาด ประการหนึ่ง
4.อ้วนเสี้ยวเห็นแก่ญาติพี่น้องของตัว มิได้ว่ากล่าวตามผิดแลชอบ ประการหนึ่ง
5.อ้วนเสี้ยวจะคิดการสิ่งใด มักกลับเอาดีเป็นร้าย เอาร้ายเป็นดี มิได้เชื่อใจของตัว ประการหนึ่ง
6.อ้วนเสี้ยวจะเลี้ยงผู้ใดมิได้ปรกติต่อหน้าว่ารัก ลับหลังว่าชัง ประการหนึ่ง
7.อ้วนเสี้ยวมักรักคนชิดซึ่งประสมประสาน ผู้ใดห่างเหินถึงซื่อสัตย์ก็มีใจชัง ประการหนึ่ง
8.อ้วนเสี้ยวกระทำความผิดต่าง ๆ เพราะฟังคำคนยุยง ประการหนึ่ง
9.อ้วนเสี้ยวจะทำการสิ่งใดเอาแต่อำเภอใจ มิได้ทำตามอย่างธรรมเนียมโบราณ ประการหนึ่ง
10.อ้วนเสี้ยวมิได้รู้ในกลศึก แต่มักพอใจทำการศึกล่อลวง จะชนะก็ไม่รู้ จะแพ้ก็ไม่รู้
โจโฉฟังดังนั้นก็หัวเราะ แล้วถ่อมตัวว่าข้าพเจ้าหาได้เก่งกล้าสามารถและมีคุณธรรมถึงขนาดที่ท่านพรรณนามานี้ไม่