ทางด้านเล่าปี่เมื่อได้ทราบรายงานว่ากองทัพโจโฉยกทัพมายังชายแดนเมืองชีจิ๋วก็ตกใจ สั่งทหารให้ไปดูว่าธงแม่ทัพนั้นคือใคร ปรากฎว่าธงแม่ทัพนั้นชื่อโจโฉ เล่าปี่ตกใจคิดว่าโจโฉยกทัพมาเอง
ส่วนเล่าต้ายและอองต๋งนั้นโจโฉได้ส่งจดหมายมาให้เข้าตีเมืองชีจิ๋วได้แล้วโจโฉจะตามมาภายหลัง ทั้ง 2 ต่างก็เกี่ยงกันว่าใครจะไปตีก่อน จึงเสี่ยงดวงในการจับฉลาก อองต๋งจับได้คำว่า "ก่อน" จึงเข้าไปตีก่อน แท้จริงแล้วเป็นแผนของเล่าต้ายที่เขียนคำว่า "ก่อน" ในทั้ง 2 ใบ
โจโฉกำลังจะเดินกองทัพมาตีเมืองชีจิ๋วแต่ก็ต้องพะวงกับอ้วนเสี้ยวที่ยกทัพมาอีกครั้ง โจโฉจึงละจากการตีชีจิ๋วมาสกัดอ้วนเสี้ยว โดยที่กองทัพโจโฉที่ยกไปสกัดอ้วนเสี้ยวนั้นไม่มีธงของโจโฉอยู่ด้วย
ส่วนเล่าปี่ก็ประเมิณสถาณการแล้วก็ยิ่งสงสัยว่าตัวโจโฉนั้นอยู่ที่ใดกันแน่จึงเสียตันเต๋งเข้ามาปรึกษา ตันเต๋งนั้นฉลากรู้ทันโจโฉจึงแจงว่าเป็นกลอุบายโจโฉหลอกว่า "มีคือไม่มี ไม่มีคือมี"
เล่าปี่ได้ฟังก็คลายใจจึงเรียกกวนอูเตียวหุยมา เตียวหุยนั้นขออาสาออกไปทำการแต่เล่าปี่ไม่เห็นด้วยจึงให้กวนอูไปแทน
กวนอูออกไปได้ไม่นานก็สามารถจับตัวอองต๋งมาได้ เล่าปี่เห็นก็รีบไปแก้มัดอองต๋งแล้วแสดงไมตรีเป็นอย่างดี
กวนอูจึงว่ากับเล่าปี่ว่า "ข้าพเจ้ารู้ใจพี่ใหญ่ว่ายังไม่ต้องการแตกหักกับโจโฉ จึงพยายามจับเป็นอองต๋งมามอบ เล่าปี่ได้ฟังจึงว่าน้องรองเจ้านับว่าเข้าใจความคิดของเรา และนี่คือเหตุผลที่เราไม่อนุญาตให้น้องเล็กออกไปรบในครั้งนี้ เพราะหากเป็นเตียวหุยออกไปรบจับข้าศึกได้คงจะฆ่าเสีย จะเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาความเมืองกับโจโฉในวันหน้า เพราะทั้งอองต๋งและเล่าต้ายนั้นถึงจะฆ่าก็หาความหมายอันใดมิได้ เว้นชีวิตสองคนนี้ไว้อาจได้อาศัยปากไปเจรจาความกับโจโฉจะเป็นผลดียิ่งกว่า"