หลายคนชอบเล่าปี่ หลายคนเกลียดเล่าปี่ ข้อเสียของเล่าปี่มีมากพอๆกับข้อดีของเล่าปี่ เอ๊ะยังไง? หลายบทความที่ผมเขียนกระแซะเล่าปี่ไม่ใช่ผมไม่ชอบเล่าปี่นะครับ เราต้องแยกความชอบและความไม่ชอบออก ชอบบางอย่างไม่ชอบบางอย่าง ก็เลยมักจะไม่เหมารวม
เล่าปี่นั้นรู้จักวิธีการที่จะทำให้ตัวเองสู่ความสำเร็จ เล่าปี่ถูกขนานนามว่าเป็นผู้ที่มีความโอบอ้อมอารี ผู้พนมมือให้แก่ชนทุกชั้น การเปิดโอกาสให้ชีวิต คือการที่มีความอ่อนน้อมถ่อมต้น เล่าปี่ไม่มีเส้นสาย เป็นแค่คนจนๆ ไหนเลยจะเป็นใหญ่ได้ในสังคมเช่นนั้น ในวรรณกรรมกล่าวว่า เล่าปี่เป็นคนมักใหญ่ไฝ่สูงเล่าปี่เคยพูดตอนเด็กๆว่า "วันใดที่กูได้เป็นเจ้า กูจะเอาต้นหม่อนนี้ไปทำเศวตฉัตรกั้น"
เล่าปี่มีอุดมการณ์ในการปราบโจรโพกผ้าเหลือง ฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่น แต่การที่ไม่มีต้นทุนในชีวิตเลย จะทำยังไงดีหล่ะ? คงได้แต่ทอดถอนใจ ไปวันๆ และแล้ววันนึ่งได้พบกับยอดขุนพลอย่าง กวนอู เตียวหุย และ 2 คนนี้น่าจะเป็นกำลังหลักให้แก่ตนได้
เล่าปี่จึงใช้ต้นทุนที่ตัวเองมี ความโอบอ้อมอารี อุดมการณ์ และ นามสกุลดัง ใช้ในการพูดคุยซื้อใจยอดขุนพลทั้งสอง เตียวหุยผู้ที่มีทุนทรัพย์ ได้ขายทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อไปลงทุนกับเล่าปี่ ไม่แปลกใจที่สองคนนี้ถึงได้เป็นคนที่เล่าปี่รักเป็นอันมาก ในช่วงท้ายๆวรรณกรรม เล่าปี่ถึงได้ละทิ้งอุมดมการณ์ ยกทัพตีซุนกวนเพื่อล้างแค้นแทนน้องร่วมสาบานของตน
แต่การเป็นนายอำเภอครั้งนี้ เล่าปี่กลับได้หัวใจของชาวประชา มีทักษะความสามารถในการเอาตัวรอด ซื้อใจชาวประชา ซื้อใจลูกน้อง มีความเป็นผู้บริหารมากกว่าที่จะเป็นนักรบ นั่นก็จึงเป็นจุดเริ่มต้นของชายผู้ที่ถือว่าเป็นยอดคนคนหนึ่งในสามก๊ก
ติดตามตอนต่อไป....