โจโฉตัดสินใจรบกับอ้วนเสี้ยวแล้วแต่เกรงว่าเล่าปี่จะยกกองทัพวกเข้ามายึดเมืองหลวง โจโฉจึงวางอุบายแต่งให้เล่าต้ายกับอองต๋งคุมทหารห้าหมื่นยกไปเมืองชีจิ๋ว ทำทีว่าจะตีเมืองชีจิ๋ว โดยให้เอาธงสำคัญสำหรับตัวโจโฉไปในกองทัพด้วย เพื่อลวงให้เล่าปี่หลงผิดว่าโจโฉยกกองทัพมาตีเมืองชีจิ๋วด้วยตนเอง พร้อมทั้งสั่งว่าห้ามออกรบเป็นอันขาด
เทียหยกให้ความเห็นแก่โจโฉว่า "การแต่งตั้งเล่าต้ายและอองต๋งไปลวงเล่าปี่ครั้งนี้เห็นทีจะไม่สำเร็จ เพราะทั้งสองคนนี้คงจะรับมือกับความคิดสติปัญญาของเล่าปี่และกำลังทหารของกวนอู เตียวหุย ไม่ได้"
โจโฉจึงว่าเรารู้ดีอยู่ว่าสองคนนี้ไม่มีทางที่จะรับมือเล่าปี่ได้ แต่ก็หวังว่าจะสามารถลวงเล่าปี่ได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง เมื่อเราตีทัพอ้วนเสี้ยวแตกไปแล้วจะได้ยกไปสมทบตีเมืองชีจิ๋วกำจัดเล่าปี่ต่อไป เทียหยกได้ฟังคำโจโฉเช่นนั้นก็พยักหน้าเป็นทีเห็นชอบด้วย
ในขณะที่อ้วนเสี้ยวกำลังจะเดินทัพนั้นก็มิได้ บรรดาที่ปรึกษาและแม่ทัพนายกองของอ้วนเสี้ยวก็มีความเห็นไม่ลงรอยกัน บ้างก็เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวกลัวคนอื่นได้เปรียบ
เขาฮิวนั้นน้อยใจว่าตัวเองเป็นผู้มีสติปัญญาแต่อ้วนเสี้ยวมิได้มอบหมายให้บัญชากองทัพ กลับให้สิมโพยเป็นปลัดทัพมีอำนาจบังคับบัญชาทหารทั้งปวง
ชีสิวก็น้อยใจอ้วนเสี้ยวว่าเสนอความเห็นประการใดอ้วนเสี้ยวก็ไม่ทำตาม
โจโฉได้จัดให้อิกิ๋มและลิเตียนคุมทหารไปตั้งสกัดทางแม่น้ำฮวงโหชายแดนเมืองฮูโต๋ป้องกันมิให้อ้วนเสี้ยวแอบมาตีและสั่งให้โจหยินรับผิดชอบเป็นแม่ทัพใหญ่คุมกำลังตั้งมั่นอยู่ที่ตำบลกัวต๋อ
อ้วนเสี้ยวนั้นยกทัพไปไม่ดูฤดูกาลก่อน ดันยกทัพไปในช่วงฤดูหนาวทำให้ยากแก่การรบสุดท้ายก็ต้องแตกทัพกลับต่างจากโจโฉเห็นที่มองเห็นว่าอ้วนเสี้ยไม่มีทางเข้ามาตีได้เนื่องจากสภาพอากาศนั้นไม่เอื้ออำนวยโจโฉนั้นตั้งรับรอให้อ้วนเสี้ยวนั้นถอยทัพกลับไปเอง
ศึกยกแรกอ้วนเสี้ยวยกทัพใหญ่มาก็ได้แต่ดูเชิงไม่ออกรบเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยสาเหตุเพราะผู้นำโลเล ไม่มีความรู้ในพิชัยสงคราม ไม่รู้ว่าเวลาไหนควรรบไม่ควรรบ