กวนอู เตียวหุย เห็นเล่าปี่ทำเช่นนั้นก็สงสัย จึงถามเล่าปี่ว่า
"การแผ่นดินเป็นเรื่องสำคัญเหตุใดพี่ใหญ่ไม่สนใจกลับมาปลูกผักเสียเช่นนี้"
เล่าปี่ไม่ตอบคำถามแต่ปรามว่าเจ้าทั้งสองอย่าเพิ่งวุ่นวายไป น้องร่วมสาบานทั้งสองเห็นผู้เป็นพี่ใหญ่มีน้ำเสียงจริงจังเช่นนั้นก็ไม่ไต่ถามสืบความต่อไป
เล่าปี่ปลูกผักเพราะหวังอำพรางในการเข้าร่วมขบวนการกับตังสิน แต่พอโจโฉได้รับรายงานจากสายสืบถึงพฤติการณ์ดังกล่าวกลับทำให้โจโฉสงสัย จึงสั่งให้เคาทูและเตียวเลี้ยวนำทหารยี่สิบนายไปเชิญเล่าปี่มาพบที่จวน
เล่าปี่ได้ยินก็นิ่งไม่พูดอะไรเกรงว่าหากรนร้านต่อคำกับโจโฉคงแย่แน่ๆ แต่โจโฉก็พูดต่อว่า ที่พูดถึงเมื่อกี้หมายถึงเรื่องสวนผัก เล่าปี่ได้ยินแบบนั้นก็คลายใจ
การสนทนาครั้งนี้เล่าปี่ต้องระวังเป็นอันมากหากถูกโจโฉจับพิรุธได้เล่าปี่คงได้ตายเป็นแน่แท้
โจโฉพูดคุยกับเล่าปี่ไปและก็อวดความรู้ความสามารถแก่หนหลังให้เล่าปี่ฟัง
ครั้งหนึ่งเราได้ยกกองทัพไปรบกับเตียวสิ้วเป็นหน้าร้อน ทหารกระหายน้ำทั้งกองทัพ เราจึงคิดอุบาย วาดรูปบ๊วยแก้กระหายน้ำ สั่งให้ทหารรีบเดินทาง และบอกว่าข้างหน้ามีดงบ๊วยที่กำลังมีผลอ่อน ๆ รสเปรี้ยวจัด บรรดาทหารได้ยินก็พากันน้ำลายสอ อาการกระหายน้ำก็บรรเทาลง
เล่าปี่ได้ฟังจึงชมโจโฉว่า "ความคิดท่านดีนักหาผู้ใดเสมอมิได้" โจโฉยิ่งฟังยิ่งหัวเราะ