Thursday, October 24, 2013

มองเจงกิสข่าน มองสามก๊ก



เจงกิสข่าน เค้าว่ากันว่า
ยิ่งใหญ่กว่า จิ๋นซีฮ่องเต้ที่รวมรวมแผ่นดินจีน
ยิ่งใหญ่กว่า พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ของกรีก
ยิ่งใหญ่กว่า นโปเลียนของฝรั่งเศส

จากชนเผ่าแร่ร่อนสามารถเข้ายึดจีนได้ทั้งประเทศ
- ขยายอานาเขตตะวันออกถึงมหาสมุทแปรซิฟิก
- ตะวันตกจรดทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเกือบครึ่งยุโรป
- ด้านเหนือกว่าครึ่งประเทศรัสเซีย
- ด้านใต้ครองดินแดนตะวันออกกลาง

ความโหดเหี้ยมของเขา แค่ได้ยินชื่อว่าเจงกิสข่าน จะผ่านมาก็พากันกลัว บ้างก็ยอมแพ้ เพราะใครขัดขืนจะถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

เจงกิสข่าน หมายถึง ผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล, คนเหนือคน, จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่

เจงกิสข่านนั้นอยู่เผ่าแร่ร่อนแถบมองโกลเลีย ซึ่งสมัยนั้นเป็นทหารม้าชาวมองโกลเป็นที่เล่าขานอย่างมาก หลายคนอาจจะสงสัยว่าทหารม้าของเจงกิสข่านถึงเก่งกาจและชำนาญการต่อสู้

มองโกลนั้นได้ชื่อว่าเป็นเผ่าเร่ร่อน อยู่ไม่เป็นที่เป็นทางเปลี่ยนที่อยู่ไปตามสภาพอากาศ เกิดมาปุ๊บถ้าเป็นผู้ชายก็ต้องเริ่มฝึกล่าสัตว์ เอาชีวิตรอดไปวันๆ ออกล่าสัตว์ทุกวันก็เปรียบดั่งได้ฝึกฝีมือสงครามไปในตัว แล้วพาหนะก็คือม้าไงครับ แทบจะเรียกว่าเกิดมาบนหลังม้า

เจงกิสข่านหรือเตมูจิน ชีวิตวัยเด็กของเจงกิสข่านเล่าแล้วมันยาว เอาเป็นว่าชีวิตรันทนมากๆ สู้ชีวิต เอาตัว แถมยังสังหารพี่ชายตัวเองอีกเพื่อตัวเองจะได้เป็นใหญ่ เจงกิสข่านนั้นเชี่ยวชาญในการรบ เค้าโหดเหี้ยมมากได้ขึ้นมาเป็นตำแหน่งสูงๆ พ่อของเจงกิสข่านนั้นถูกฆ่าตาย ท่านโมโหมากฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่สังหารพ่อตัวเองจนหมดสิ้น

เจงกิสข่านนั้นมีศัตรูอยู่รอบทิศ ท่านเองก็มีพ่ายแพ้บ้างแถมเมียยังโดนจับตัวไป เจงกิสข่านโมโหอีกตามเลยตามไปเชคบิลเผ่านั้นทั้งเผ่าเลย ฆ่าล้างเผ่าอื่นๆจนได้เป็นใหญ่

เจงกิสข่านนั้นเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำสูง ผูกใจคนเป็น ทะเยอทะยาน รบเก่ง มียุทธศาสตร์ พูดง่ายๆว่าถ้าเค้าไม่เก่งคงไม่มาถึงจุดนี้ ฝีมือล้วนๆ บุคลิคเค้าคล้ายๆกับโจโฉ ไม่ค่อยสนใจระบบญาติมิตร เน้นผลงาน เน้นฝีมือ เน้นความจงรักภักดี และท่านก็รักลูกน้องตัวเองมากๆๆๆ รักลูกน้องไม่แพ้กับโจโฉ เล่าปี่ ซุนกวนเลย

ในสงครามสามก๊กนั้นโจโฉเองก็เคยสร้างข่าวลือทหารร้อยหมื่นก่อนบุกกังตั๋ง เจงกิสข่านก็เช่นกันสร้างข่าวความโหดเหี้ยมของตัวเอง หากเป็นขงเบ้ง ขงเบ้งจะซื้อใจ ซื้อใจเป็นหลักตีเมืองเป็นรอง ท่านเจงกิสข่านเราตีเมืองเป็นหลัก คนไหนไม่ยอมก็ฆ่ามัน แถมยังกุข่าวลือว่ากองทัพตนเป็นกองทัพเทพประทานไม่เคยแพ้ผู้ใด ท่านใช้สงครามจิตวิทยาไม่แพ้ขงเบ้งเลย บ้างก็ขนาดนามว่ากองทัพ "ทูตจากนรก"

ก่อนขงเบ้งจะออกรบ ขงเบ้งจะส่ง spy ไปดูภูมิประเทศและอากาศ ท่านเจงกิสข่านก็เช่นกัน ส่งม้าเร็วไปตรวจหาแหล่งน้ำแหล่งอาหาร

ถ้าการรบในสามก๊กนั้นนอกจากทหารและอาวุธแล้ว ยังมีกองเสบียงเป็นสิ่งสำคัญ จะเห็นว่าในศึกครั้งอ้วนเสี้ยวในศึกกัวต๋อ อ้วนเสี้ยวโดนโจโฉเผาคลังสะเบียง ขงเบ้งบุกกิสานต้องพ่ายแพ้กลับก็เพราะกองเสบียง ม้าเจ๊กพ่าย เพราะโดนดักกองลำเลียง แล้วท่านเจงกิสข่านหล่ะจัดการยังไงกับเรื่องนี้

คำตอบคือสบายมาก ผมบอกตั้งแต่ต้นแล้วว่าชาวทหารม้ามองโกลนั้นเก่งเรื่องล่าสัตว์ ดังนั้นปากท้องไปหาเอาข้างหน้า การศึกแต่ละทีไม่ต้องรอเสบียง หรือรอข้าวสุก เหอะๆๆ

การรบของท่านเจงกิสข่านนั้นเน้นรวดเร็วเปรียบได้ดั่งกองทัพล่องหน ไม่ได้ใช้วิชายุบแผ่นดินแบบขงเบ้ง แต่เดินทัพด้วยการขี่ม้านี่แหละ ทัพเท้าไม่ค่อยมี ทัพท่านเน้นเร็ว

พาเข้าบุกใครไม่ยอมแพ้ก็ฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ไม่ฆ่าธรรมดา จับทรมาน เผ่าที่ยังไม่ยอมแพ้พอได้ข่าวก็กลัวกันสิครับ เจงกิสข่านจึงชนะโดยไม่ต้องรบ ใครแข็งเมืองก็จะกลับไปฆ่าล้างเผ่าอีกครั้ง โอ้ววจ๊อด โหดเกิ้นนนน

น่าจะพอเห็นความเกรียงไกรของทหารม้าเจงกิสข่านไม่เป็นรองทหารม้าโรฮานในเรื่อง the lord of the ring เลยก็ว่าได้

เราอาจจะเห็นมุมโหดๆของท่านเจงกิสข่านไปแล้วนะครับ ในมุมดีท่านก็มีอยู่บ้าง ทหารของท่านนั้นมีวินัย ท่านจะสั่งเสมอว่าห้ามลักเล็กขโมยน้อย ห้ามมีชู้ ใครทำโดนฆ่า

ภายหลังการล่มสลายของราชวงศ์ถัง แผ่นดินจีนก็เกิดกลียุคขึ้นอีกครั้ง ซึ่งไม่ต่างกับในยุคสมัยของสามก๊ก ซึ่งต่อมาราชวงศ์ซ่งได้ขึ้นมา (ราชวงศ์ถังนี้คือสมัยไซอิ๋ว ราชวงศ์ซ่งนี้สมัยเปาบุ้นจี้น)

นอกจากอาณาจักรซ่งแล้วก็ยังมีแต่ก็มีอาณาจักรกิม (แมนจู)  ซึ่งพวกกิมหรือพวกจิน นั้นเข้าไปตีเมืองไคฟงแตก ซ่งจึงย้ายหนีไปกลายไปเป็นซ่งใต้

จากนั้นเหนือและตะวันตกของจีนนั้นเกิดศึกสามก๊ก มีอาณาจักรกิม อาณาจักรซีเซี่ย แล้วก็มองโกล  แล้วชาวมองโกลก็เข้ายึด ซีเซี่ยตามด้วยกิม เจงกิสข่านฆ่าหมด เว้นไว้แต่พวกมีความรู้ทางด้านการแพทย์ วิศวะกร ช่างฝีมือ และเหล่าบัณฑิต

ท่านเจงกิสข่านนั้นสามารถเอาชนะอาณาจักรกิมได้ ทั้งๆที่ฝ่ายกิมนั้นมีจำนวนพลมากกว่า เจงกิสข่านถึง 4 เท่า (สมัยสามก๊กนั้นโจโฉมีกำลังทหารน้อยกว่าอ้วนเสี้ยว 10 เท่า ก็ยังชนะมาได้)

เจงกิสข่านนั้นต้องการจะเดินหน้ายึดซ่งใต้ต่อไป แต่อากาศไม่เป็นใจทหารล้มป่วย ท่านจึงหยุดไว้เพียงแค่นี้ แต่ฝ่ายซ่งใต้เองก็ไม่สามารถเข้ายึดมองโกลได้เช่นกัน

เจงกิสข่านนั้นมองว่าชาวมองโกลนั้นยอมรับว่าเผ่าตนยังด้อยวัฒนธรรมมากกว่าเผ่าอื่นๆ เปิดรับศิลปะ วัฒนธรรม วิชาการ ปรัชญา ศาสนา จากเผ่าอื่นๆ จนสามารถประดิษฐ์อักษรมองโกลขึ้นเป็นครั้งแรก

ต่อมาเจงกิสข่านได้ยกทัพข้ามเทือกเขาหิมาลัยไปรบกับชาวมุสลิมและได้ชัยชนะในที่สุด ต่อมาก็บุกรัสเซีย เอาทหารรัชเสียรวมกันมากองไว้จุดไฟเผา ฉลองกันอย่างสนุกสนาน

ใครทำให้ท่านโกรธท่านก็จะไปถล่มที่นั่น ท่านข่านรบมาทั้งชีวิตและก็จากไปอย่างสงบ โดยไม่ได้แต่งตั้งรัชทายาทที่แน่นอนเอาไว้ ซึ่งต่างจากโจโฉที่ได้ให้โจผีและโจสิดมาปะลองกัน ท้ายสุดคนที่เหมาะสมนั้นก็คือโจผี

เรื่องยังอีกยาว ผมย่อได้ประมาณนี้เอาไว้มีเวลาผมจะเขียนใหม่นะครับ ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม :)

เจงกิสข่านจนถึงลูกถึงหลานสามารถยึดดินแดนได้เกือบครึ่งซีกโลก