ขงเบ้งและเล่าปี่เห็นเช่นนั้นก็พากันหัวเราะ จูล่งนั้นไม่ยอมก็ขอแย้งว่าตนขออาสาก่อน ขงเบ้งจึงว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจะทำสลากเสี่ยงทาย ใครจับได้ก็จะได้อาสาไป เตียวหุยและจูล่งก็ตกลงที่จะเล่นเกม
ขงเบ้งทำเสร็จจึงมอบให้ทั้งสองมาจับ เตียวหุยเกรงว่าขงเบ้งจะช่วยจูล่งจึงฮึดฮัดขอเลือกก่อน พอเตียวหุยเปิดออกมาเป็นกระดาษขาว จูล่งจึงหัวเราะลั่นคิดว่าตนได้ไป แต่เตียวหุยไม่ยอมเกรงว่าเป็นอุบายขงเบ้งจึงให้จูล่งเปิดสลากออกมาดู ปรากฎว่าเป็นกระดาษขาวเช่นกัน
เตียวหุยและจูล่งต่างก็สงสัย ส่วนเล่าปี่และขงเบ้งก็ขำขันกันไม่หยุด สุดท้ายจึงเฉลยว่า มีอยู่ 2 เมืองคือเมือง ฮุยเอี๋ยงและเมืองบุเหลง ดังนั้น 2 คนจะได้ไปทำการเช่นกัน เตียวหุยและจูล่งได้ยินเช่นนั้นต่างก็ยินดี
ขงเบ้งจึงย้ำกับเตียวกับจูล่งไปว่า ทำการศึกห้ามเล่น ให้ทั้งสองทำทัณฑ์บนไว้ ทั้งสองทำทัณฑ์บนแล้วจึงลาออกไป จูล่งนกทัพไปที่เมืองฮุยเอี๋ยง เตียวหอมเจ้าเมืองเห็นจูล่งยกทัพมาจึงคิดจะอ่อนน้อมด้วย
แต่ทหารหนุ่มไฟแรงขอออกไปรบกับจูล่งเตียวหอมไม่อยากเซ้าซี้จึงอนุญาติ สุดท้ายแล้วทหารคนนั้นก็เสียที แต่จูล่งไม่คิดทำร้ายแถมยังปล่อยตัวไป เตียวหอมเห็นว่าจูล่งเป็นคนดีจึงอ่อนน้อมให้ยอมตกเป็นเมืองขึ้นให้แก่เล่าปี่
แล้วจากนั้นเตียวหอมจึงชวนจูล่งไปกินโต๊ะ เตียวหอมได้พูดคุยกับจูล่งจึงรู้ว่าตนทั้งสองได้เกิดบ้านเดียวกัน ทั้งสองถูกคอกันมากจึงตกลงเป็นพี่น้องกัน สักพักเตียวหอมจึงเชิญพี่สะใภ้มาหาจูล่ง
จูล่งเห็นโฉมงามก็แอบตกใจเล็กน้อย ด้วยความสงสัยจูล่งจึงถามว่า นางผู้นี้เป็นใคร เตียวหอมจึงว่านางผู้นี้เป็นภรรยาของพี่ข้าพเจ้า บัดนี้พี่ข้าพเจ้าได้ตายไปแล้ว นางจึงเป็นหม้าย ข้าพเจ้าจึงบอกนางว่า ถ้าจะแต่งงานใหม่ชายผู้นั้นจะต้องมีคุณสมบัติ 3 ข้อ
1.สง่างาม องอาจ
2.มีสติปัญญา มีฝีเกร่งกล้า
3.ต้องมีแซ่เตียวเหมือนสามีเก่า
ซึ่งตรงกับจูล่งทุกประการ จูล่งได้ฟังก็ไม่พอใจ เตียมหอมจึงละอายใจเป็นอย่างมาก ครั้งจูล่งยึดเมืองฮุยเอี๋ยงได้ก็เขียนจดหมายไปเชิญขงเบ้งและเล่าปี่มา เตียวหอมจึงเล่าความทุกประการให้เล่าปี่ฟัง เล่าปี่ลองไปเสนอให้จูล่งได้แต่งงานกับพี่สะใภ้เตียวหอม แต่จูล่งปฎิเสธ
หลังจากยึดมือฮุยเอี๋ยงได้แล้ว ต่อไปก็ถึงคราวของเมืองบุเหลงที่เตียวหุยอาสาไปทำการ