Wednesday, August 17, 2016

"ข้าไม่ได้อยากเป็นใหญ่"


โจโฉในวรรณกรรมนั้น จะว่าเป็นตัวร้ายก็ไม่เชิง จะเป็นพระเอกก็ไม่เชิง แต่ในมุมผมโจโฉเล่นบทเอกมากกว่าบทร้ายเสียอีก หลายบทความผมมักจะชื่นชมโจโฉ แต่บทความนี้ขอโจมตีอีกมุมนึงหน่อยหล่ะกัน

ในวัยเด็กมีคนทำนายว่าโจโฉจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน แต่เป็นคนคิดไม่ซื่อเป็นศัตรูราชสมบัติ โจโฉได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะชอบใจ คงอาจจะเป็นอุดมการณ์ในใจสมัยเด็กหรือไม่ก็หัวเราะที่ไม่เข้าใจในคำว่าศัตรูราชสมบัติคืออะไร...

โจโฉนั้นได้เป็นพระเอกขี่ม้าขาวเข้าไปช่วยเหลือปราบกฎบลิฉุยกุยกีในเมืองหลวงจนตนเองได้เป็นถึงมหาอุปราชซึ่งเป็นตำแหน่งและอำนาจสูงสุดรองจากฮ่องเต้เท่านั้น โจโฉสามารถแอบอ้างราชโองการได้ต่างๆนาๆ และมีการท้าทายอำนาจพระเจ้าเหี้ยนเต้ในหลายๆครั้ง

ในกลางๆเรื่อง โจโฉได้เผยความในใจความว่า

"ถ้าบ้านเมืองขาดข้าสักคน ไม่รู้ว่าจะมีอีกกี่คนตั้งตัวเป็นจักรพรรดิ บางคนเห็นข้าเป็นใหญ่ก็คิดสงสัยว่าข้าจะคิดคด ซึ่งผิดถนัด จะให้ข้าละทิ้งอำนาจทหาร ไปกินเมืองสักแห่งหนึ่ง 
ข้าทำไม่ได้ เกรงว่าจะถูกคนชั่วทำร้าย ถ้าพ่ายอาณาจักรจะล่ม บ้านเมืองจะปั่นป่วน ไฉนข้าจะบ้าชื่อเสียงเสี่ยงภัยมหันต์ ความทุกข์ของข้า ท่านไม่แน่ว่าจะรู้ ใครล่ะ จะรู้ใจข้า ใครบ้างที่รู้ใจเรา ผู้ใดบ้างที่รู้ใจเรา" :- จากซีรี่ส์สามก๊ก 1994


ซึ่งเป็นคำพูดที่สวยหรูแต่เมื่อเวลาผ่านไป โจโฉก็ได้แต่งตั้งตัวเองขึ้นเป็นวุยก๋งและวุยอ๋อง ทำให้ที่ปรึกษาอย่างซุนฮกต้องตรอมใจตายที่เห็นนายของตนตั้งตนเป็นใหญ่ แม้ว่าโจโฉไม่ได้ชิงราชสมบัติเป็นของตนแต่นักวิเคราะห์บางกลุ่มกลับมองว่า โจโฉนั้นได้ปูทางให้แก่โจผีผู้ลูก

ตัวละครทุกตัวนั้นไม่มีขาว มีดำ มีแต่เทาๆ ดีชั่วปะปนกันไป