ในช่วงที่ตั๋งโต๊ะกุมอำนาจได้ทำหยาบช้าเป็นอันมาก โจโฉถือได้ว่าเป็นแกนนำตัวตั้งตัวตีที่ออกมาต่อสู้ และสมัครพรรคพวกเข้ามาร่วม จึงเกิด "กองทัพ 18 หัวเมือง" ขึ้น
ซุนเกี๋ยนอาสาเป็นทัพหน้าเข้าปะทะกับตั๋งโต๊ะถือว่าเป็นแม่ผู้กล้าในเวลาที่อื่นกลัว ที่ตั๋งโต๊ะผู้มีอำนาจยังหวาดกลัวกับซุนเกี๋ยนผู้นี้
เล่าปี่แม้นไม่ได้เป็นเจ้าเมืองแต่ก็ติดตามกองซุนจ้านมาเข้าร่วม ครั้นลิโป้ออกมารบ ก็ไม่มีใครกล้าต่อกรกับลิโป้ มีแต่ 3 พี่น้องสวนท้อ เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ที่เข้าไปรุมกินโต๊ะลิโป้ จนลิโป้ต้องถอยหนีกลับไป
โจโฉเป็นอีกคนที่เสนอให้อ้วนเสี้ยวนั้น สั่งยกทัพตามตีตั๋งโต๊ะ ตอนที่ตั๋งโต๊ะได้เผาเมืองลกเอี๋ยง ย้ายไปยังเมืองเตียงอัน โจโฉมีกำลังพลน้อยไล่ตามตีตั๋งโต๊ะเพียงลำพัง ทำให้โจโฉต้องพ่ายแพ้กลับมาในที่สุด
คงไม่น่าแปลกใจที่ทำไม สามคนนี้ถึงเป็นใหญ่ขึ้นมาได้ เพราะความเอาจริงเอาจัง ความกล้า และวิสัยทัศน์ ที่วิ่งเข้าหา "โอกาส"
ซึ่งต่างจากเจ้าเมืองคนอื่นๆ ที่รอแต่จ้อง "ฉกฉวยโอกาส" และเข้ามา "แสวงหาผลประโยชน์" โดยที่ไม่ได้ลงทุนลงแรงอะไรเลย
ต่อมาสามคนนี้ก็กลายเป็นคนเด่นคนดังไปทั่วแผ่นดิน แต่ก็มีบ้างที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นทรชน
โดยโจโฉโดนโจมตีว่า เมื่อโจโฉเป็นใหญ่นั้น โจโฉได้วางรากฐานอำนาจของตัวเองเพื่อให้ลูกของตัวเองขึ้นครองราชสมบัติ โดยการล้มล้างราชวงศ์ฮั่น
ส่วนเล่าปี่ถูกโจมตีว่าเป็นผู้ดีจอมปลอม อ้างว่าทำเพื่อราชวงศ์ฮั่นแต่สุดท้ายก็ยกตัวเองเป็นฮ่องเต้ และทำเพื่อพวกพ้องของตน
ซุนเกี๋ยนนั้นได้ลาลับก่อนเพื่อนในช่วงต้นเรื่องของสามก๊ก จึงไม่ค่อยถูกวิพากษ์วิจารณ์สักเท่าไหร่
หากไม่เกิด สถานการณ์ วิกฤต ก็ไม่อาจเกิดวีรบุรุษ วีรชน
คือผู้กล้าหาญ ผ่านปรากฎ
แบกทั้งหมด ความกดดันไม่หวั่นไหว
ด้วยศรัทธา ราญรอน สู้ก่อนใคร
เพื่อเทใจให้ราชวงศ์ฮั่นนิรันดร์....