โตเกี๋ยมพยายามมอบเมืองให้เล่าปี่หลายต่อหลายรอบ เล่าปี่ก็ยังไม่ยอมรับ และพูดต่อหน้าทุกคนว่านั่นคือความไม่ชอบธรรมที่จะแย่งชิงเมืองมาเป็นของตน เหล่าที่ปรึกษาแลขุนนางของโตเกี๋ยมก็พากันเทใจให้แก่เล่าปี่
หลังโตเกี๋ยมตายไม่นานเล่าปี่ก็ถูกเสนอชื่อให้เป็นเจ้าเมือง ในขณะนั้นมี โจโฉ ลิโป้ อ้วนสุด หากต้องเลือกใครคนใดคนหนึ่งเป็นศัตรูเล่าปี่ก็เลือกอ้วนสุด เล่าปี่จึงยกทัพไปตีอ้วนสุดเพื่อเอาใจโจโฉ ยอมยกเมืองชีจิ๋วให้ลิโป้เพื่อเอาใจลิโป้ ยอมพูดวลี "พี่น้องเปรียบเหมือนแขนขา ลูกเมียเปรียบเหมือนเสื้อผ้า" เพื่อซื้อใจกวนอูเตียวหุย
เล่าปี่หว่านเสน่ห์ให้กับทุกคนสร้างภาพของตัวเองขึ้นมาให้ผู้คนไว้ใจ เมื่อขัดแย้งกับลิโป้ เล่าปี่ก็หนีมาหาโจโฉ การที่มาอยู่กับโจโฉในเมืองหลวงอีกครั้ง เป็นการสร้าง connection อีกขั้นหนึ่งของเล่าปี่
หลังจากปราบลิโป้เสร็จ โจโฉทูลความดีความชอบของเล่าปี่ ต่างกับสมัยที่เล่าปี่ทำผลงานปราบโจรโพกผ้าเหลือง เพราะมีบิ๊กใหญ่ระดับโจโฉเป็นผู้ออกหน้า เล่าปี่จึงได้รู้จักมักจี่กับพระเจ้าเหี้ยนเต้ และชื่อเสียงในด้านดีๆที่เล่าปี่สร้างไว้ก็สะท้อนออกมา เล่าปี่จึงได้เป็นพระเจ้าอาขององค์ฮ่องเต้ในเวลาต่อมา
เล่าปี่มาถึงตรงนี้มิใช้ชะตาฟ้ากำหนด ความสามารถนี้มิอาจตบตา โจโฉ ซุนฮก เทียหยก ได้ ต่อมาพระเจ้าเหี้ยนเต้ไม่พอใจพฤติกรรมของโจโฉที่มีท่าทีของการจาบจ้วง จึงเรียกตัวตังสินเขียนราชโองการเลือดขอความช่วยเหลือ
จากนั้นตังสินก็ล่ารายชื่อตั้งคณะกรรมการขบวนการปราบโจโฉขึ้นมา แถมยังเชิญเล่าปี่มาลงชื่อด้วย เล่าปี่บัดนี้ต้องเลือกข้างแล้วว่าจะอยู่ข้างองค์ฮ่องเต้หรือโจโฉ อยู่ดีๆก็มีคนเรียกไปลงชื่อซะงั้น กลับมาก็แสร้งปลูกผักหลอกโจโฉไปวันๆ สุดท้ายก็เลือกที่จะหนีออกมาดีกว่า ขืนอยู่ในเมืองหลวงก็คงโดนฆ่าตัดตอน เอาตัวรอดแล้วกลับมาสู้ต่อยังจะดีกว่า ในเวลาต่อมาโจโฉจับได้ว่าเล่าปี่คิดรายต่อตน จุดนี้จึงกลายเป็นจุดแตกหักระหว่างเล่าปี่และโจโฉตั้งแต่นั้นมา
หลังจากโจโฉล้างบางตังสินและพวกที่คิดร้ายตนในเมืองหลวงเรียบร้อยแล้วก็เหลือแต่เล่าปี่และม้าเท้ง เล่าปี่ได้เปิดศึกกับโจโฉอย่างเมามัน เล่าปี่ไม่สามารถสู้โจโฉได้ เมืองแตกต้องหนีกันไปคนละทิศละทาง ว่าแต่จะหนีไปไหนดีหล่ะ? ผู้ยิ่งใหญ่ในเวลานั้นก็คงมีแต่อ้วนเสี้ยว ใช้หลักศัตรูของศัตรูคือมิตร เล่าปี่มิได้มีความบาดหมางกับอ้วนเสี้ยว แถมยังไว้หน้าอ้วนเสี้ยวเมืองครั้ง 18 หัวเมือง นี่คงเป็นผลพวงของความใจเย็น การมีมิตรนั้นดีกว่าการมีศัตรู นับว่าเป็นการเอาตัวรอดได้เก่งอาจยิ่งนัก