Monday, August 29, 2011

#72 จับมือกันปราบอ้วนสุด



ฝ่ายอ้วนสุดเมื่อแตกทัพหนีกลับเมืองลำหยงแล้วผูกใจแค้นลิโป้เป็นอันมาก ต้องการที่จะแก้แค้นเห็นว่าลำพังกองทัพเมืองลำหยงด้านเดียวยากที่จะสู้ได้ จึงไปขอความช่วยเหลือจากซุนเซ็ก ครั้นซุนเซ็กได้สารจากอ้วนสุดก็โกรธด่าว่าอ้วนสุดที่เป็นกบฏต่อแผ่นดิน แถมยังไม่คืนตราหยกแผ่นดินให้ตนเสียอีก ซุนเซ็กจึงบอกทหารผู้ถือหนังสือของอ้วนสุดว่าเจ้าจงกลับไปบอกอ้วนสุดว่า ซุนเซ็กนั้นจะยกทัพไปตีเมืองลำหยงและชิงตราแผ่นดินมาให้จงได้




ครั้งอ้วนสุดรู้ว่าซุนเซ็กไม่ช่วยก็โกรธเตรียมจะยกกองทัพไปตีเมืองกังตั๋งแต่ขุนนางได้ห้ามเอาไว้เพราะหากไปตีเมืองกังตั๋ง ลิโป้ก็จะฉวยโอกาสมาตีเมืองลำหยง อ้วนสุดเห็นดังนั้นจึงสั่งงดทัพไว้ โจโฉให้ได้ข้าหลวงเชิญราชโองการแต่งตั้งให้ซุนเซ็กเป็นเจ้าเมืองห้อยแขและสั่งให้ซุนเซ็กไปตีเมืองลำหยง ซุนเซ็งทราบอย่างนั้นก็ยินดีเตรียมกองทัพเพื่อที่จะไปตีเมืองลำหยง แต่เตียวเจียวได้ทัดทานไว้และเตียวเจียวก็บอกว่า มันเป็นอุบายของโจโฉที่ให้เราล้างผลาญกันโดยที่โจโฉไม่เสียแรง ดังนั้นควรแจ้งโจโฉไปว่าพึ่งได้เป็นเจ้าเมือง กำลังทหารยังน้อยยังสู้อ้วนสุดไม่ได้ จึงขอให้โจโฉยกทัพไปตีเมืองลำหยงก่อน เดี๋ยวทางกังตั๋งจะยกไปช่วยอีกแรง ซุนเซ็กได้ฟังก็เห็นด้วยและสั่งให้ทำตามนั้น






โจโฉได้รับสารจากซุนเซ็กก็ตกใจที่ทางฝ่ายเมืองกังตั๋งนั้นรู้ความคิดของตน ต่อมาเมืองลำหยงเกิดภัยแล้ง ขาดเสบียง โจโฉเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะกำจัดอ้วนสุดจึงทำจดหมายรับสั่งให้ ลิโป้ เล่าปี่ ซุนเซ็กยกไปตีเมืองลำหยกกำจัดอ้วนสุดที่ตั้งตัวเป็นกบฎแผ่นดิน



เอียวฮองและหันเซียมถูกลิโป้แต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมือง ซึ่งอยู่ไกล้เมืองอิจิ๋วที่เล่าปี่อยู่ เล่าปี่เกรงว่าจะถูกลิโป้ปรุกรานจึงหาช่องทางกำจัด 2 คนนี้เสีย ประจบเหมาะกับ เอียวฮองและหันเซียมประพฤติไม่ชอบ ปล้นชิงทรัพย์สินของชาวบ้าน เล่าปี่จึงจับเอียวฮองและหันเซียมตัดหัว

จากนั้นเล่าปี่ยกทัพไปสมทบกับโจโฉ เล่าปี่จึงแจงโจโฉว่า 2 ผู้นี้ประพฤติไม่ชอบ ปล้นชิงทรัพย์สินของชาวบ้านข้าพเจ้าจึงตัวหัว 2 คนนี้มาให้ท่านและขออภัยที่กระทำก่อนได้รับอนุญาติ โจโฉเห็นดังนั้นก็รู้ว่าเล่าปี่ยังระแวงลิโป้จึงทำเช่นนั้นแต่โจโฉก็ไม่พูดประการใดแสร้งยินดีด้วยเล่าปี่ จากนั้นทั้ง 2 ก็คลื่นทัพไปเมืองลำหยง


ทางฝ่ายลิโป้ก็ยกทัพมาสมทบ โจโฉก็ยินดีและพูดชื่นชมลิโป้ ลิโป้เป็นโจโฉชื่นชมก็คิดสมคล้อยกับคำที่ตันเต๋งเคยกล่าวไว้ก็ยินดี โจโฉสั่งให้แฮหัวตุ้นและอิกิ๋มเป็นกองหน้า เล่าปี่เป็นปีกขวา ลิโป้เป็นปีกซ้าย ตัวโจโฉคุมทัพหลวง ทางฝ่ายซุนซุกก็ยกทัพเรือมาด้านหลังเมืองลำหยง บัดนี้เเมือลงลำหยงโดนล้อมทั้ง 4 ด้าน ทั้ง 2 ฝ่ายได้แต่คุมเชิงกัน

อ้วนสุดสั่งให้ตั้งรับไม่ให้สู้ พอนานไปฝ่ายโจโฉเริ่มหมดเสบียงจึงขอยืมเสบียงจากซุนเซ็ก แต่ก็ไม่เพียงพอ โจโฉไม่สามารถหักเตียเมืองได้เนื่องจากเมืองลำหยงมีกำแพงสูงใหญ่ ยิ่งนานไปเสบียงก็เริ่มจะหมด..


วิเคราะห์
ผลของการตั้งตัวเป็นใหญ่ของอ้วยสุดนั้นก็อย่างที่เห็น เดิมที่ขุนศึกทุกคนต่างก็ช่วงชิงความเป็นใหญ่แต่บางครั้งก็หาโอกาสความชอบธรรมกำจัดอีกฝ่ายไม่ได้ เมื่อโอกาสมาทุกฝ่ายต่างก็ได้ประโยชน์กันทั้งหมดทุกคนไม่ว่าจะเป็น โจโฉ เล่าปี่ ซุนเซ็ก ลิโป้ ทำให้อ้วนสุดนั้นมีศึกรอบด้านจนตัวเองเอาชีวิตไม่รอด..

Sunday, August 28, 2011

#71 ลิโป้มีชัยเหนืออ้วนสุด



 VS


เมื่อตันเต๋งอาสาไปเกลี้ยกล่อมหันเซียม จึงเดินทางขอเข้าไปพบหันเซียม ฝ่ายหันเซียมเห็นเป็นเพื่อนเก่าจะให้เข้าพบ ตันเต๋งจึงบอกว่า หันเซียมนั้นเดิมทีเป็นคนรักบ้านเมืองและราชวงศ์ฮั่น เมื่อครั้งพระเจ้าเหี้ยนเต้ลี้ภัยจาการไล่ตีของลิฉุยกุยกี แต่ก็ได้หันเซียมนั้นช่วยเหลือ ไฉนบัดนนี้จึงมาเข้าด้วยกับอ้วนสุดที่เป็นกฏบหล่ะ


หันเซียมได้ฟังก็รำลึกถึงหนหลังจึงใจอ่อน ตันเต๋งเห็นได้ทีจึงขอให้หันเซียมไปเกลี้ยกล่อมเอียวฮองอีกแรง จากนั้นกองทัพของหันเอียวฮองและหันเซียมจึงไม่ได้เข้าด้วยกับลิโป้ เป็นใส้ศึกในกองทัพของอ้วนสุด ต่อมาลิโป้ได้เข้าตีกองทัพอ้วนสุดแตกกระเจิง อ้วนสุดหนีกลับเมืองแต่ก็ไปเจอกองทัพของกวนอูที่เล่าปี่ส่งมาให้ช่วยเหลือลิโป้ กวนอูเข้าตีกองทัพอ้วนสุดอีกครั้ง อ้วนสุดเห็นสู้ไม่ได้จึงรีบหนีกลับเมือง


ลิโป้ได้ชัยชนะจึงให้ กวนอู เอียวฮองและหันเซียมมาเลี้ยงกินโต๊ะและปูนบำเหน็จเงินทองให้ ฝ่ายตันกุ๋ยจึงเสนอให้ลิโป้แต่งตั้งให้ เอียวฮองและหันเซียมที่เข้ามาสวามิภักดิ์นั้นไปเป็นเจ้าเมืองในที่ห่างไกล ลิโป้ก็เห็นด้วย

วิเคราะห์
สาเหตุที่ตันกุ๋ยนั้นเสนอให้เอียวฮองและหันเซียมไปเป็นเจ้าเมืองที่อื่นก็เนื่องจากว่าสองคนนี้เป็นคนเห็นแก่ลาภยศ มีจิตใจโลเล หากได้เป็นขุนนางในเมืองชีจิ๋วเข้าด้วยกับลิโป้แล้ว ตันกุ๋ยและตันเต๋งนั้นก็จะทำการไม่สะดวก แต่หากให้ไปอยู่แดนไกลแล้วก็จะไม่เป็นอันตรายต่อสองพ่อลูก

Saturday, August 27, 2011

#70 อ้วนสุดตั้งตัวเป็นฮ่องเต้



ฝ่ายอ้วนสุดนับแต่ได้ตราแผ่นดินไว้ทุกวันคืนไม่เป็นสุข ครุ่นคิดแต่การจะตั้งตัวขึ้นเป็นฮ่องเต้ เร่งจัดกองทัพ อาวุธ เสบียงไว้เป็นจำนวนมาก ครั้งเตรียมเสร็จก็เรียกขุนนางทุกคนมาประชุมแล้วก็แจงว่าเดิมทีพระเจ้าฮั่นโกโกก็เป็นเพียงคนธรรมดาเพียงแต่ตั้งตัวเองเป็นฮ่องเต้ บัดนี้ราชวงศ์ฮั่นกำลังดับสูญ เหล่าขุนพลตั้งตัวเองเป็นใหญ่ ตันเราเองนั้นสืบทอดขุนนางมาถึง 4 แผ่นดิน บัดนนี้เรามีตราหยกแผ่นดิน โชคชะตาได้กำหนดให้เรานั้นจำเป็นต้องสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นฮ่องเต้ พวกท่านจะเห็นประการใด



มีขุนนางบางคนไม่เห็นด้วย อ้วนสุดจึงจับไปตัดหัว ครั้นไม่มีใครกล้าขัดอ้วนสุดจึงแต่งตั้งตัวเองเป็นฮ่องเต้ ต่อมาวันหนึ่งหัวหน้ากองข่าวได้รายงานให้อ้วนสุดทราบว่าบัดนี้ลิโป้ได้แปรพักตร์ ตัดความสัมพันธ์กับเมืองลำหยง อ้วนสุดรู้ก็โกรธลิโป้เป็นอันมาก เตรียมกองทัพเพื่อที่ไปกำจัดลิโป้ กองทัพอ้วนสุดนั้นยกทัพไป 7 สายเตรียมที่จะเข้ายึดเมืองชีจิ๋ว



ลิโป้รู้ข่าวก็ตกใจเรียนขุนนางทหารเข้ามาประชุมเพื่อรับมือ ตันก๋งให้ความเห็นว่า ศึกครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะตันเต๋งและตันกุ๋ย 2 พ่อลูก วางแผนให้ตัดความสัมพันธ์กับอ้วนสุด ควรจับ 2 พ่อลูกนี้ไปประหารเสีย ลิโป้ได้ยินก็จึงสั่งให้ทหารนำตัว 2 พ่อลูกนี้ไปประหาร ฝ่ายตันเต๋งได้ยินดังนั้นก็หัวเราะดัง แล้วว่าแก่ลิโป้ว่าไฉนจึงคล้อยตามคำของคนขลาดที่มีความคิดแต่จะยอมแพ้ กองทัพอ้วนสุดนั้นไม่น่าเกรงกลัวเลย พอลิโป้ได้ยินก็สั่งหยุดไม่ให้ประหาร ในจิตใจลิโป้นั้นเป็นคนบ้าสงครามอยู่แล้วเมื่อได้ยินดังนั้นจึงถามตันเต๋งว่ามีแผนประการใด


ตันเต๋งแจงว่ากองทัพอ้วนสุดนั้นมารวมตัวกันก็เพื่อผลประโยชน์ ไม่เชี่ยวชาญการสงคราม จุดอ่อนของกองทัพอ้วนสุดนั้นอยู่ที่กองทัพเอียวฮองและหันเซียม เดิมทีสองคนนี้เป็นข้าราชการในพระเจ้าเหี้ยนเต้ ทำคุณต่อแผ่นดินไว้เป็นอันมาก แต่ครั้นโจโฉเข้าครองอำนาจ สองคนนี้เกรงว่าบทบาทของตัวจะลดความหมายลง จึงได้หนีไปอาศัยอยู่กับอ้วนสุด แต่อ้วนสุดไม่ได้เลี้ยงดูเป็นอย่างดี จึงขอให้ลิโป้ทำหนังสือลับไปถึงสองคนนี้ให้รำลึกถึงคุณแผ่นดินที่มีมาแต่ก่อน สองคนนี้คงจะกลับใจและถือโอกาสนี้ทำคุณแก่แผ่นดินเพื่อจะได้กลับเข้ารับราชการดังเดิม ส่วนกองทัพที่เหลือ ขอให้ลิโป้แต่งหนังสือบอกไปถึงโจโฉและเล่าปี่ให้ยกทหารมาช่วยตีกระหนาบหลังกองทัพอ้วนสุด ก็คงจะแตกพ่ายไปเป็นแน่แท้



ลิโป้ฟังคำก็เห็นด้วย ตันเต๋งจึงขออาสาไปเกลี้ยกล่อมเอียวฮองและหันเซียม

วิเคราะห์
การกระทำของอ้วนสุดนั้น เป็นการกระทำที่ไม่ควรกระทำ เนื่องการการแต่งตั้งตัวเองเป็นฮ่องเต้นั้นเป็นการสร้างศัตรู้รอบทิศแก่ตัวเอง ถึงแม้ว่าตอนนี้ขุนพลต่างก็แต่งตั้งตัวเองเป็นใหญ่แบบเนียนๆกว่าการกระทำของอ้วนสุด ยกตัวอย่างเช่น โจโฉและซุนเซ็ก ได้กระทำแต่งตัวเองเป็นใหญ่แบบเนียนๆ จึงยังไม่มีศัตรูมากนัก เท่ากับว่าตอนนี้ถือว่าอ้วนสุดนั้นกำลังวางแผนพาตัวเองลงไปสู่ความตาย...

Friday, August 19, 2011

#69 ตันเต๋งแปรพักตร์





ในช่วงที่โจโฉทำสงครามกับเตียวสิ้ว โจโฉได้ให้พระเจ้าเหี้ยนเต้ทำราชโองการรับสั่งให้ ลิโป้และเล่าปี่ปรองดองกันและแต่งตั้งให้ลิโป้เป็นขุนนางใหญ่ แผนของโจโฉครั้งนี้คือต้องการสงบศึกทางด้านลิโป้ไว้ก่อน เมื่อลิโป้ได้ตำแหน่งแล้วก็ยินดีทำตามราชโองการทุกประการ หลังจากนั้นไม่นานอ้วนสุดได้ส่งเถ้าแก่มาขอลูกสาวลิโป้ให้ไปแต่งงานกับลูกชายของอ้วนสุดแล้วอีกไม่นานอ้วนสุดก็จะแต่ตั้งตัวเองเป็นฮ่องเต้จึงอยากผูกดองกับลิโป้



แต่ลิโป้ก็ตกลงแถมยังด่าว่าอ้วนสุดเป็นกบฏเสียอีกจากนั้นลิโป้จึงจับเถ้าแก่คนนั้นส่งตัวไปหาโจโฉโดนมีตันเต๋งเดินทางไปด้วย โจโฉรู้ความจึงสั่งประหารเถ้าแก่คนนั้น ทางฝ่านตันเต๋งเมื่อเห็นโจโฉจิตใจก็เริ่มแปรพักตร์ต้องการที่จะเข้าร่วมโจโฉและแอบกระซิบถึงแผนการกำจัดลิโป้และตันเต๋งก็จะทำการเป็นใส้ศึกกับตันกุ๋ยผู้เป็นบิดาให้เอง โจโฉได้ยินเช่นกันก็ดีใจให้รางวัลตันเต๋งและตันกุ๋ย พอตันกุ๋ยเดินทางกลับมา ลิโป้รู้ข่าวว่าโจโฉให้รางวัลแก่ 2 พ่อลูกตันเต๋งและตันกุ๋ย ลิโป้ก็โกรธว่าทำไมตนไม่ได้รางวัลบ้าง

ตันเต๋งแก้ไขสถานการบอกว่า โจโฉนั้นมองท่านเป็นดั่งนกอินทรี "หากเป็นเสือก็ต้องเลี้ยงให้อิ่มจึงจะไม่ทำอันตรายต่อผู้เลี้ยง และจะได้ไม่เบียดเบียนจับสัตว์อื่นมากินเป็นอาหาร แต่ถ้าหากคนนั้นเป็นพญานกอินทรีก็จะเลี้ยงให้อิ่มหนำสำราญไม่ได้ หากอิ่มหนำสำราญแล้วก็จะโผผินบินจากไป การเลี้ยงนกอินทรีจึงต้องเลี้ยงให้หิวไว้อยู่เสมอ จึงจะมีความเพียรพยายามทำการจนสำเร็จได้" เมื่อลิโป้รู้คิดว่าเป็นคำชมจึงดีใจเป็นอันมาก ก็นับว่าตันเต๋งนั้นแก้ไขสถานการได้เป็นอย่างดี


Wednesday, August 17, 2011

#68 ความสูญเสียของโจโฉ



โจโฉหนีออกไปด้านหลังค่าย ไปพบกับโจอันบิ๋นผู้หลาน ทหารเตียวสิ้วกองหนึ่งได้ใช้เกาทัณฑ์ระดมยิงถูกม้าโจโฉล้มลงถึงแก่ความตาย โจโฉโดนเกาทัณฑ์ยิงแต่ไม่ถูกที่สำคัญวิ่งหนีไปได้ ส่วนโจอันบิ๋นผู้หลานถูกเกาทัณฑ์ถึงแก่ความตาย

โจโฉวิ่งหนีไปพบโจงั่กผู้เป็นบุตร โจงั่งเอาม้าของทหารให้โจโฉขี่ พอหนีได้ซักระยะทหารเตียวซิ่วก็ระดมยิงเกาทัณฑ์ถูกโจงั่งตาย แต่โจโฉยังโชคดีที่หนีไปได้



ทางฝ่ายแฮหัวตุ้นและทหารที่แตกทัพมานั้นหนีตายและอดอยากเป็นอันมากจึงเข้าไปปล้นเสบียงอาหารจากชาวบ้านเมืองอ้วนเซีย อิกิ๋มซึ่งคุมทหารแตกมาอีกทางเห็นเหตุการณ์พบแฮหัวตุ้นทำผิดวินัย อิกิ๋ใจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านฆ่าฟันมหารแฮหัวตุ้นตายไปหลายคน

แฮหัวตุ้นและทหารพากันหนีมาซักระยะก็เจอกับโจโฉ จึงเล่าความให้โจโฉฟังว่า อิกิ๋มเป็นกบฏ ทางฝ่ายอิกิ๋มรู้ข่าวก็ไม่ได้เข้าไปหาโจโฉประการใดอีกทั้งยังตั้งทัพตั้งรับกองทัพของเตียวสิ้นที่กำลัง จนกองทัพของเตียวสิ้วแตกกระเจิง จึงเข้าไปพบโจโฉ เล่าความทั้งปวงให้โจโฉฟัง

โจโฉได้ฟังจึงตำหนิแฮหัวตุ้นเห็นแก่ที่เคยสร้างผลงานไว้แต่หนหลังครั้งนี้จึงแค่ตักเตือน ส่วนอิกิ๋มก็ให้ความดีความชอบเป็นอันมากที่สามารถพลิ๊กสถานการณ์ได้



หลังจากจัดแจงกองทัพเสร็จพร้อมที่จะยกกองทัพกลับเมืองหลวงและเตรียมเส้นไหว้ทหารที่เสียชีวิตในศึกครั้งนี้ โจโฉจึงพูดขึ้นมาว่า "แม้ศึกครั้งนี้จะเสียบุตรและหลานไป แต่มิได้เศร้าโศกเสียใจเท่ากับการเสียเตียนอุย" 

และนี่ก็เป็นจุดจบของศึกเมืองอ้วนเซียที่โจโฉนั้นกระทำขัดต่อวินัยการศึกทำให้ต้องสูญเสียทั้งทหาร อาวุธ ทหารเอก ลูกและหลาน ของตน


วิเคราะห์
เรื่องระหว่างแฮหัวตุ้นและอิกิ๋มนี่ก็เป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งสำหรับความเป็นผู้นำแบบโจโฉ แฮหัวตุ้นที่เป็นญาติของตนแม้นทำผิดก็ตำหนิติเตียนอย่างไม่ไว้หน้า ใครทำดีก็ชื่อชม ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนไกล้ตัว

ส่วนคำพูดที่โจโฉพูดถึงเตียนอุยนั้นเป็นคำพูดที่โจโฉนั้นใช้ซื้อใจลูกน้องให้ถูกมองว่าโจโฉนั้นรักลูกน้องมากกว่าลูกหลานตน แต่ถ้ามองในมุมเครือญาตินั้นอาจจะเป็นเหมือนในแง่ลบ แต่ลบางคนกลับมองว่าโจโฉนั้นพยายามจะกลบกลื่นความผิดของตัวเองจึงพยายามที่จะซื้อใจลูกน้อง ยังไงผู้อ่านก็วิเคราะห์กันเอาเองนะครับ : )



Monday, August 15, 2011

ประวัติเตียนอุย


สังกัด: ก๊กโจโฉ 

เป็นคนรูปร่างใหญ่ ใช้ทวนคู่เป็นอาวุธ โจโฉไปพบตัวเตียนอุย เป็นองครักษ์คนสำคัญของโจโฉ จะคอยอารักขาโจโฉอยู่เสมอ

เตียนอุยได้เข้าไปที่ฝ่าวงล้อมช่วยชีวิตโจโฉเมื่อครั้งศึกที่รบกับลิโป้ที่เมืองปักเอี้ยงและได้สู้รบกับเคาทูอย่างสูสีทำให้โจโฉเลื่อมใสในฝีมือเคาทูและรับเคาทูมาเป็นพวก

เมื่อครั้งศึกเมืองอ้วนเซีย  เตียวสิ้วเจ้าเมืองยอมสวามิภักดิ์กับโจโฉ แต่โจโฉนั้นไปหลงแม่นางเจ๋าซือที่เป็นอาสะใภ้ของเตียวสิ้ว เมื่อเตียวสิ้วรู้ก็โกรธโจโฉเป็นอันมา จึงว่าแผนกำจัดโจโฉแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมีเตียนอุยคอยเฝ้าอยู่ จึงวางแผนมอมเหล้าเตียนอุยจนเตียนอุยหลับไปและขโมยเอาทวนไปทิ้งไว้หลังค่าย พอค่ายโจโฉไฟไหม้ทหารของเตียวสิ้วบุก เตียนอุยก็ตื่นขึ้น ไม่พบทวนคู่ของตนแต่อย่างใด จึงต่อสู้กับทหารของเตียวสิ้นประมาณ 20 กว่าคน ปกป้องไม่ให้เข้าไปหาโจโฉในค่าย ท้ายที่สุดเตียนอุยโดนเกาทัฑณ์จำนวนมากยิงมาใส่และยืนเสียชีวิตในที่สุด

นับเป็นการสูญเสียลูกน้องคนสำคัญของโจโฉ ในศึกครั้งนี้ โจอันบิ๋นผู้หลานของโจโฉและโจงั่งลูกชายโจโฉได้ตายในสงครามนี้เช่นกัน



Sunday, August 14, 2011

#67 เตียนอุยตาย





โจโฉกำลังจะที่จะยกทัพไปตีลิโป้ แต่ดันมาเจอศึกข้างเมืองฮูโต๋ที่กองทัพของเตียวเจ บุกเข้ามายังชายแดน เตียวเจโดนลูกเกาทัณฑ์ถึงแก่ความตาย เตียวสิ้ว ผู้หลานได้รวบรวมทหารและยึดเมืองอ้วนเซียเป็นที่มั่น แถมยังมีกาเซี่ยงมาเป็นที่ปรึกษา (กาเซี่ยงเคยเป็นที่ปรึกษาเก่าของลิฉุย) เตียวสิ้วยังชวนเล่าเปียวเข้าเป็นพันธมิตรตีโจโฉเสียอีก โจโฉได้ข่าวก็โกรธเป็นอันมากเพราะแผนที่ตนต้องการกำจัดลิโป้ต้องพังเพราะเตียวสิ้ว หากโจโฉยกทัพไปตีลิโป้แล้วเตียวสิ้วยึดเมืองฮูโต๋ได้ โจโฉจะเสียอำนาจรัฐ ดังนั้นโจโฉจึงต้องจัดการเรื่องของเตียวสิ้วเป็นอันดับแรก แต่ถ้าหากโจโฉตีเตียวเสี้ยว ลิโป้ก็อาจจะตลบหลังได้ ดังนั้นสิ่งที่โจโฉจะต้องทำคือ ชะลอศึกข้างลิโป้ โดยทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้ราชองการแต่งตั้งลิโป้เป็นเจ้าเมืองชีจิ๋ว และมีหนังสือให้ลิโป้กับเล่าปี่ปรองดองกัน


ต่อมาโจโฉสั่งให้แฮหัวตุ้นและอิกิ๋มเป็นกองทัำพหน้า โจโฉเป็นกองทัำพหลวง เพื่อจะไปกำจัดเตียวสิ้วที่เมืองอ้วนเซีย เมื่อเตียวสิ้วรู้ข่าวก็เรียกกาเซี่ยงมาปรึกษา กาเซี่ยงจึงขออาสาไปเป็นทูต กางเซี่ยงจึงเดินทางไปยังทัำพของโจโฉขอสวามิภักดิ์แก่โจโฉ โจโฉได้ยินก็ยินดีอีกทั้งโจโฉยังเคยได้ยินกิตติศักดิ์ของกาเซี่ยงดีที่กาเซี่ยงเคยออกอุบายทำให้ลิฉุยยึดครองอำนาจเมืองหลวง โจโฉใคร่อยากได้คนเก่งมีฝีมือมาเป็นพวกของตัวเอง แต่กาเซี่ยงก็ยังมั่งคงต่อเตียวสิ้วจึงขอปฏิเสธไป


เช้าวันต่อมาโจโฉออกมาต้อนรับโจโฉเป็นอย่างดี จัดงานเลี้ยงตอนรับกันอยู่ทุกวัน จนวันหนึ่งโจโฉใคร่อยากจะได้ตัวนางงามแห่งเมืองนี้มาบำเรอตนจึงสั่งให้ โจอันบิ๋น ผู้หลาไปตามหาสาวงามมา โจอันบิ๋น จึงไปสืบได้ความว่า แม่นางเจ๋าซือที่เป็นภรรยาของเตียวเจนั้นมีรูปงามมากแถมยังเป็นหม้าอีกด้วย โจโฉนั้นจึงสั่งให้เรียกตัวแม่นางเจ๋าซือมาพบ โจอันบิ๋นจึงพาแม่นางเจ๋าซือมาพบโจโฉ โจโฉนั้นหลงในความงาม จึงไล่ทหารออกไป (เหตุการณ์เป็นอย่างไรคิดต่อเอาเองนะครับ ^ ^)


แม่นางเจ๋าซือนั้นปรนเปรอโจโฉทุกวันคืน จนโจโฉมิได้ตรวจตรากองทหารและไม่คิดจะกลับเมืองฮูโต๋


ฝ่ายเตียวสิ้วครั้นเห็นโจโฉไม่ได้ออกว่าราชการเป็นเวลาหลายวันก็เป็นที่สงสัยจึงสั่งให้ทหารไปสืบข่าวคราว พอรู้ความจริงก็โกรธโจโฉยิ่งนัก จึงวางแผนที่จะลอบฆ่าโจโฉ เพียงแต่ว่าทหารโจโฉนั้นก็มีมากอีกทั้งยังมี เตียนอุย คอยอารักขาอยู่ไกล้ๆ จึงวางแผนเลี้ยงโจ๊ะเตียนอุย พอเตียนอุยเผลอหลับไปก็ขโมยทวนไปทิ้งไว้หลังค่าย



โจโฉก็ยังเสพสุราคลอเคลียกับแม่นางเจ๋าซือ ไม่นานประทัดสัญญาณดังขึ้น ทหารยกทัพมาตีค่ายของโจโฉ แสงไฟลุกไหม้ทั้งสี่ด้าน เตียนอุยตกใจตื่นขึ้นหันไปไม่เจอทวนคู่กาย จะรีบคว้าดาบของทหารมาไว้ป้องกันตัว เตียนอุยสังหารทาหรของเตียวสิ้วยี่สิบกว่าคน ทหารที่เหลือก็กลัวยังคุมเชิงอยู่ ทหารอีกของแอบมาทางด้านหลังใช้ทวงแทงดาบฟัน เตียนอุย บาดเจ็บ แต่เตียนอุยก็สู้ไม่ถอย เอาศพของทหารที่ตาย ฟาดใส่ทหารเตียวสิ้วตายเป็นอันมาก ทหารเตียวสิ้นจึงระดมเอาเกาทัณฑ์ยิงเตียนอุย เสียบไปทั่วร่าง เตียนอุย ได้เสียชีวิตลง แต่ร่างก็ยังยืนอยู่ ทหารของเตียวสิ้วคิดว่าเตียนอุยนั้นยังไม่ตายก็พอกันหนีออกมา





#66 เล่าปี่หนีไปพึ่งโจโฉ


VS


เมื่อเล่าปี่รู้ข่าวว่าลิโป้นั้นจะทำการหักตีเมืองเสียวพ่าย เล่าปี่เห็นว่ากำลังทหารในเมืองตนนั้นมีน้อยกว่าลิโป้มากคงต้านทานไว้ไม่ไหว จะเรียกที่ปรึกษามาประชุม
ซุนเขียนและบิต๊กเสนอว่าให้ไปขออาศัยอยู่กับโจโฉที่เมืองฮูโต๋ เพราะลิโป้เป็นศัตรูตัวสำคัญของโจโฉ ฉะนั้นถ้าผู้ใดเป็นศัตรูกับลิโป้ก็จะเป็นพันธมิตรโจโฉไปด้วย
เล่าปี่เห็นด้วยกับคำของที่ปรึกษาจึงสั่งให้ทหารเตรียมตัวตีฝ่ากองทัพของลิโป้ไปยังเมืองฮูโต๋ ให้เตียวหุยเป็นทัพหน้า เล่าปี่คุมครอบครัวและขุนนางเป็นทัพกลาง ให้กวนอูเป็นทัพหลัง


นายของทหารของลิโป้ได้กสัดกองทัพของเล่าปี่แต่เตียวหุยเก่งกาจสามารถตีฝ่าออกไปได้ ฝ่ายเตียวเลี้ยวทหารเอกของลิโป้พอรู้ว่ากองทัพเล่าปี่ตีฝ่าไปได้จึงรีบควบม้าไล่ตามตี
เตียวเลี้ยวไปพบกับกองหลังที่กวนอูอยู่ เตียวเลี้ยวเข้าสู้รบกับกวนอูได้ไม่นานเตียวเลี้ยวก็ถอยออกมาเพราะรู้ฝีมือว่าตนสู้กวนอูไม่ได้จึงถอยทัพกลับ เช้าวันรุ่งขึ้นลิโป้รู้ข่าวว่าเล่าปี่หนีไปก็แต่ก็ไม่ได้ตามตีประการใด จากนั้นสั่งทหารเข้ายึดเมืองเสียวพ่ายได้สำเร็จ
ฝ่ายโจโฉเมื่อรู้ว่าเล่าปี่มาขออาศัยก็ยินดีเพราะเล่าปี่เคยเป็นสหายร่วมศึกตั้งแต่สมัยกองทัพ 18 หัวเมือง โจโฉให้การต้อนรับเป็นอย่างดี เล่าปี่จึงขอบคุณโจโฉ





ซุนฮกรู้ข่าวว่าเล่าปี่มาอาศัยจึงเข้าไปคุยกับโจโฉว่า เล่าปี่นั้นเป็นเชื้อพระวงศ์ มีสติปัญญาเป็นอันมาก ในภายภาคหน้าเล่าปี่จะเป็นคู่แข่งคนสำคัญดังนั้นควรกำจัดเสีย โจโฉจึงรับคำไว้พิจารณา
ต่อมาหลังจากซุนฮกออกมากุยแกได้เข้าไปพบอีกเช่นกันโจโฉเล่าความที่ซุนฮกแจ้งแก่โจโฉเรื่องเล่าปี่แล้วถามความเห็นของกุยแก กุยแกให้ความเห็นว่า ไม่ควรกำจัดเล่าปี่ในตอนนี้ หากกำจัดเล่าปี่ผู้คนจะหาว่าไม่เลี้ยงคนดีมีฝีมือ ต่อไปใครจะอยากมาอยู่ด้วยกับเรา แต่กุยแกมีแผนกำจัดเล่าปี่ โดยให้เล่าปี่ฆ่าฟันกับลิโป้ ซึ่งใครคนใดตายไปก็จะเป็นผลดีแก่โจโฉทั้งคู่


กุยแกจึงเสนอให้โจโฉทุลพระเจ้าเหี้ยนเต้แต่ตั้งให้เล่าปี่เป็นเจ้าเมืองอิจิ๋วแล้วสั่งให้เล่าปี่ไปตีเมืองเสียวพ่าย โจโฉก็เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ เช้าวันต่อมาโจโฉจึงกราบทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้แต่งตั้งเล่าปี่เป็นเจ้าเมืองอิจิ๋ว


หลังจากเสร็จสิ้นการแต่งตั้งเทียหยกได้เข้ามาหาโจโฉแล้วให้คำปรึกษาว่า เล่าปี่เป็นผู้มีสติปัญญาเป็นอย่างมาก ภายหน้าเล่าปี่อาจจะเป็นศรัตรูท่านควรจะกำจัดเล่าปี่เสีย โจโฉจึงแจงว่าได้วางแผนกำจัดเล่าปี่เรียบร้อยแล้ว เทียหยกได้ยินก็คลายใจ



หลังจากเล่าปี่ได้ครองเมืองอิจิ๋วโจโฉจึงสั่งให้เล่าปี่ยกทัพไปกำจัดลิโป้ เล่าปี่ไม่มีทางเลือกจึงรับปากที่จะไปตีลิโป้ ครั้นเล่าปี่ยกทัพไปแล้วโจโฉก็เตรียมทัพเพื่อที่จะไปซ้ำเติม โจโฉยังไม่ได้เดินทัพออกจากเมืองฮูโต๋ก็ได้ยินข่าวว่า เตียวเจ ที่เป็นลูกน้องเก่าตั๋งโต๊ะได้ยกทัพมาดินแดนเมืองฮูโต๋